Your Cart

ไม้มะฮอกกานี สุดยอดไม้คุณภาพดีที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย

ไม้มะฮอกกานี สุดยอดไม้คุณภาพดีที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย

มะฮอกกานี
https://cdn-cakfh.nitrocdn.com/

จากข้อมูลของส่วนปลูกป่าภาคเอกชน สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ ได้ระบุว่าไม้มะฮอกกานีที่พบในประเทศไทยมีอยู่ด้วยกัน 2 สปีชีส์ ได้แก่ มะฮอกกานีใบใหญ่ และมะฮอกกานีใบเล็ก แต่ส่วนมากจะพบเป็นมะฮอกกานีใบใหญ่ โดยเนื้อไม้จะมีสีแดงอมน้ำตาล มีแถบแววสีทอง ขว้างเสี้ยนไม้ดูสวยงาม สามารถเลื่อยไสกบ ตบแต่งและขัดเงาได้ง่าย มีคุณสมบัติทนต่อปลวก นิยมใช้ประโยชน์ในด้านการแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์และใช้ก่อสร้างภายในได้ดี ด้ามเครื่องมือ ต่อเรือ และทำเครื่องดนตรีบางประเภท [1]

มะฮอกกานีที่ทั่วโลกนิยมปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้จะมีอยู่ 3 สปีชีส์ด้วยกัน คือ West Indian mahogany, Hondurus mahogany และ Swietenia humulis โดยมีถิ่นกำเนิดมาจากอเมริกากลาง ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกไปจนถึงฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกาใต้ จัดเป็นพืชเขตร้อนชื้นที่สามารถพบได้ในป่าทุกประเภท ตั้งแต่ป่าสน ทุ่งหญ้าเขตร้อน ไปจนถึงป่าดงดิบ เดิมมะฮอกกานีเป็นพันธุ์ไม้ที่พบได้ยากมาก ต่อมาเริ่มเป็นที่รู้จักจนมีการขยายพันธุ์จากการเพาะเมล็ด และถูกนำเข้าไปยังประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย มะฮอกกานีเป็นพันธุ์ไม้ที่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนหรือดินทรายปนดินเหนียวเล็กน้อยที่มีการระบายน้ำได้ดี  น้ำไม่ท่วมขัง ประเทศไทยมีการนำต้นไม้มะฮอกกานีมาปลูกในจังหวัดเพชรบุรีเป็นที่แรก ความโดดเด่นของต้นไม้ชนิดนี้ คือ เป็นไม้สูงใหญ่ที่มีอายุยืนอยู่ได้นับร้อยปี และยังเป็นไม้ที่สำคัญต่อระบบนิเวศของสัตว์ป่าอีกด้วย [2]

https://cdn-cakfh.nitrocdn.com/uCvbbthIGuqozYBVHNiffOSAfPDdhkkl/assets/

ประวัติศาสตร์และความสำคัญของไม้มะฮอกกานีในโลก

ไม้มะฮอกกานี (Mahogany) เป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในด้านความสวยงาม ความแข็งแรง และความทนทาน ไม้ชนิดนี้จึงถูกนำมาใช้ในงานก่อสร้าง งานศิลปะ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ มานานนับศตวรรษ [5]

ต้นกำเนิดของไม้มะฮอกกานี

ไม้มะฮอกกานีมีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปอเมริกา เช่น แถบแคริบเบียน อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในประเทศฮอนดูรัสและคิวบา ซึ่งเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียงในการผลิตไม้มะฮอกกานีคุณภาพสูง

  • ชนิดไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Swietenia mahagoni (มะฮอกกานีแคริบเบียน) และ Swietenia macrophylla (มะฮอกกานีฮอนดูรัส)

  • ในแอฟริกาก็มีไม้มะฮอกกานีสายพันธุ์ African Mahogany ซึ่งได้รับความนิยมในยุคหลัง

บทบาทของไม้มะฮอกกานีในประวัติศาสตร์โลก

ยุคอาณานิคมและการค้า

ในยุคศตวรรษที่ 16-19 ไม้มะฮอกกานีเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูงในการค้าข้ามทวีป โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกา ไม้ชนิดนี้ถูกนำเข้าไปใช้ในงานก่อสร้างและงานศิลปะ

  • ในยุโรป ไม้มะฮอกกานีถูกใช้ทำเฟอร์นิเจอร์สำหรับชนชั้นสูง เช่น ตู้ โต๊ะ และเตียง

  • ในอังกฤษช่วงศตวรรษที่ 18 เฟอร์นิเจอร์มะฮอกกานีจากนักออกแบบชื่อดังอย่าง Thomas Chippendale กลายเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง

การต่อเรือและอุตสาหกรรมดนตรี

  • ในยุคอาณานิคม ไม้มะฮอกกานีถูกนำมาใช้ในการต่อเรือ เนื่องจากความแข็งแรงและทนต่อความชื้น

  • ในอุตสาหกรรมดนตรี ไม้มะฮอกกานีเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับทำกีตาร์ เปียโน และไวโอลิน เพราะให้เสียงที่ก้องกังวานและอบอุ่น

ความสำคัญของไม้มะฮอกกานีในยุคปัจจุบัน

1. งานเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายใน

ไม้มะฮอกกานีเป็นที่ต้องการสูงในงานเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งบ้าน ด้วยสีโทนแดงน้ำตาลที่หรูหราและลวดลายที่สวยงาม

2. การใช้งานในอุตสาหกรรมดนตรี

ไม้มะฮอกกานียังคงเป็นไม้หลักในการผลิตเครื่องดนตรี เช่น กีตาร์โปร่งและกีตาร์ไฟฟ้ารุ่นพรีเมียม

3. ความยั่งยืนและการอนุรักษ์

ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้น ไม้มะฮอกกานีจึงเผชิญกับปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า รัฐบาลและองค์กรอนุรักษ์จึงได้พยายามปลูกป่าทดแทนและส่งเสริมการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน

ความสำคัญในวัฒนธรรมและศิลปะ

ไม้มะฮอกกานีไม่ได้เป็นเพียงทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและศิลปะในหลายพื้นที่ทั่วโลก เช่น:

  • เฟอร์นิเจอร์โบราณที่ทำจากมะฮอกกานียังคงถูกประมูลในราคาสูง

  • ไม้มะฮอกกานีในดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเครื่องดนตรีที่มีคุณภาพ

จากประวัติศาสตร์อันยาวนานจนถึงยุคปัจจุบัน ไม้มะฮอกกานี ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความสำคัญในหลากหลายมิติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ศิลปะ และวัฒนธรรม การเลือกใช้ไม้มะฮอกกานีอย่างยั่งยืนจะช่วยให้เราสามารถรักษาทรัพยากรธรรมชาติอันทรงคุณค่านี้ไว้สำหรับคนรุ่นต่อไป [5]

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของมะฮอกกานี

• ลำต้น มะฮอกกานีเป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ มีรากพูพอนที่โคน ลำต้นสูงประมาณ 15–25 เมตร ขนาดทรงพุ่ม 6–10 เมตร จัดเป็นไม้ผลัดใบ มีลักษณะเป็นทรงกระบอก ค่อนข้างแน่น ลำต้นเปลาตรง ในส่วนของเปลือกต้นมีสีน้ำตาลหรือเทาอมดำ แตกเป็นร่องตามแนวยาวและหลุดล่อนเป็นแผ่น มีความหยาบ หนา และขรุขระ แก่นไม้มีสีแดงออกชมพู เมื่ออายุมากขึ้นจะมีสีเข้มขึ้น ตั้งแต่สีชมพูเข้มไปจนถึงน้ำตาล ส่วนกระพี้ไม้จะมีสีออกเหลือง เสี้ยนเชื่อมหรือบางครั้งตรง เสี้ยนละเอียดหรือค่อนข้างหยาบ ผิวลื่น จัดเป็นไม้เนื้อแข็ง มีความแข็งแรงและทนทาน ขัดแล้วไม่แตกหักหรืองอ
ใบ ใบมะฮอกกานีเป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงเวียนสลับ แกนกลางใบ ประกอบยาว 20–50 เซนติเมตร ใบย่อยมี 3–8 คู่ เรียงตรงข้าม มีลักษณะเป็นรูปรีแกมรูปขอบขนาน มีความกว้าง 2.5–6 เซนติเมตร และมีความยาว 6–15 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบเบี้ยว ขอบใบเป็นคลื่น แผ่นใบบางแต่ค่อนข้างเหนียวและย่น มีลักษณะเป็นลอน สีเขียวเข้มเป็นมัน
• ดอก ดอกมะฮอกกานีจะออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงที่บริเวณซอกใบใกล้กับปลายกิ่ง ดอกเป็นสีเหลืองแกมเขียว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่อดอกตั้งยาว 10–15 เซนติเมตร มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวอ่อน โคนเชื่อมติดกัน กลีบดอก 5 กลีบ มีลักษณะเป็นรูปช้อน ปลายมน ติดอยู่กับหลอดเกสรตัวผู้โดยที่โคนกลีบเชื่อมติดกัน เกสรเพศผู้มี 8–10 อัน เชื่อมติดกันเป็นหลอด เส้นผ่านศูนย์กลางดอกอยู่ที่ 0.7–1.2 เซนติเมตร
ผล ผลมะฮอกกานีมีจะออกผลเป็นลักษณะเดี่ยว เป็นรูปไข่ แห้งแตก โดยมีความกว้าง 6–9 เซนติเมตร และความยาว 14–18 เซนติเมตร เปลือกหนา มีสีน้ำตาลอมเหลือง เมื่อสุกจะมีสีน้ำตาลอมเทา โดยจะแตกจากโคนเป็น 5 พู
• เมล็ด ภายในผลมะฮอกกานีจะมีเมล็ดอยู่หลายเมล็ด โดยเมล็ดจะมีลักษณะเป็นแผ่น มีปีกรูปรียาว ปลายปีกของเมล็ดจะบางและมีสีน้ำตาล [3]

เฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮอกกานี
https://buildernews.in.th/

การใช้ประโยชน์ไม้มะฮอกกานี

ประโยชน์ของต้นมะฮอกกานีนอกจากให้ร่มเงาเป็นแนวกันลมแล้ว เนื้อไม้ที่มีสีน้ำตาลแดงเข้ม เนียนเรียบ ผิวลื่น สามารถนำไปใช้ประโยชน์ ผลิตเป็นเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ เช่น กีต้าร์โปร่ง วงกบประตู หน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ไม้ ปูพื้น และอัดเป็นไม้วีเนียร์เพื่อตกแต่งภายใน ด้วยความโดดเด่นของเนื้อไม้ ที่สามารถขัดเงาได้ง่ายและมีสีสวย [2]

เคล็ดลับการเลือกไม้มะฮอกกานีคุณภาพดี

ไม้มะฮอกกานี เป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในงานเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งบ้าน และเครื่องดนตรี ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งความแข็งแรง สีสันที่สวยงาม และลวดลายที่หรูหรา อย่างไรก็ตาม การเลือกไม้มะฮอกกานีคุณภาพดีนั้นจำเป็นต้องใส่ใจในรายละเอียดเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและคุ้มค่ากับการลงทุน [4]

1. ตรวจสอบลวดลายและสีของไม้มะฮอกกานี

ลวดลายและสีของไม้มะฮอกกานีเป็นจุดเด่นที่ทำให้ไม้ชนิดนี้แตกต่างจากไม้เนื้อแข็งอื่น ๆ

เคล็ดลับ:

  • เลือกไม้ มะฮอกกานี ที่มีลวดลายชัดเจนและสม่ำเสมอ เช่น ลายเส้นตรงหรือโค้งที่ดูเป็นธรรมชาติ

  • สีของไม้ มะฮอกกานี ที่ดีมักเป็นโทนสีน้ำตาลแดงลึก ให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหรา

  • หลีกเลี่ยงไม้ที่มีรอยด่างดำหรือรอยแตกร้าว

2. พิจารณาประเภทของไม้มะฮอกกานี

ไม้ มะฮอกกานี มีหลากหลายประเภท เช่น African Mahogany และ Honduran Mahogany ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน

คำแนะนำ:

  • Honduran Mahogany: เป็นที่นิยมที่สุดสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม เนื้อไม้ละเอียด แข็งแรง และลวดลายสวยงาม

  • African Mahogany: มีราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับงานตกแต่งทั่วไป

3. ตรวจสอบความชื้นของไม้

ไม้ มะฮอกกานี คุณภาพดีต้องมีระดับความชื้นที่เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาการหดตัวหรือบิดงอในอนาคต

วิธีตรวจสอบ:

  • ใช้เครื่องวัดความชื้นในเนื้อไม้ ค่าความชื้นควรอยู่ระหว่าง 6-8%

  • หากไม่มีเครื่องมือ ให้สังเกตว่าไม้แห้งสนิทหรือไม่ โดยดูจากความสม่ำเสมอของเนื้อไม้

4. เลือกขนาดไม้ให้เหมาะกับการใช้งาน

ไม้ มะฮอกกานี มีขนาดและความหนาหลายแบบ การเลือกขนาดที่เหมาะสมจะช่วยลดการสิ้นเปลือง

ตัวอย่าง:

  • งานเฟอร์นิเจอร์: ควรเลือกไม้ที่มีความหนา 1-2 นิ้ว

  • งานตกแต่งผนังหรือพื้น: ควรเลือกไม้ที่มีความหนาและขนาดใหญ่ขึ้น

5. เลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

แหล่งที่มาของไม้ มะฮอกกานี เป็นสิ่งสำคัญในการรับประกันคุณภาพและความถูกต้องตามกฎหมาย

คำแนะนำ:

  • ซื้อจากร้านค้าที่มีใบรับรองมาตรฐาน เช่น FSC (Forest Stewardship Council)

  • สอบถามเกี่ยวกับแหล่งที่มาของไม้ เช่น จากป่าปลูกที่มีการจัดการอย่างยั่งยืน

6. ตรวจสอบความเรียบและเนื้อไม้

ไม้ มะฮอกกานี ที่ดีควรมีเนื้อไม้แน่นและพื้นผิวเรียบเนียน

เคล็ดลับ:

  • ใช้มือสัมผัสพื้นผิวไม้ หากรู้สึกหยาบหรือมีเศษเสี้ยนมาก อาจเป็นไม้ที่ยังไม่ได้ขัดเรียบ

  • ตรวจสอบรอยแตกร้าวหรือรูแมลงที่อาจส่งผลต่อความทนทานของไม้

7. เปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อ

ราคาของไม้ มะฮอกกานี อาจแตกต่างกันไปตามขนาด เกรด และแหล่งที่มา การเปรียบเทียบราคาจะช่วยให้คุณได้ไม้คุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม

การเลือก ไม้มะฮอกกานี คุณภาพดีต้องอาศัยการตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งในด้านลวดลาย สีสัน ความชื้น และแหล่งที่มา การใส่ใจในขั้นตอนนี้จะช่วยให้คุณได้ไม้ที่เหมาะกับการใช้งานและคุ้มค่ากับการลงทุน ไม่ว่าจะใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์หรือการตกแต่งบ้าน [4]

ไม้เก่า ของไทยที่มีความคล้ายคลึงไม้มะฮอกกานี

ไม้มะฮอกกานีจัดเป็นไม้ต่างประเทศ โซนอเมริกากลาง ปัจจุบันมีการเพราะพันธุ์ที่ประเทศไทยบ้างแล้ว ทาง “กลุ่มไม้เก่าไทย” จึงได้นำไม้ของไทยที่มีความใกล้เคียงกับไม้มะฮอกกานี มาเปรียบเทียบเรื่องความสวยงามและการใช้งาน ได้แก่ไม้ประดู่และไม้มะค่า เพราะไม้มะค่า (ความแข็ง 808 กก.) และไม้ประดู่ (ความแข็ง 925 กก.) เป็นไม้เนื้อแข็ง ซึ่งไม้มะฮอกกานีมีความแข็งแรง (ความแข็ง 859 กก.)ทนทานต่อสภาพอากาศได้ดีรวมทั้งยังทนต่อปลวกและมอดอีกด้วย และมีสีสันลวดลายสวยงามใกล้เคียงกับไม้มะฮอกกานี[1]

มะฮอกกานี
https://media.istockphoto.com

เปรียบเทียบไม้มะฮอกกานีกับไม้ชนิดอื่น เลือกไม้ให้เหมาะกับงานของคุณ

ไม้ มะฮอกกานี เป็นไม้เนื้อแข็งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในการทำเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งบ้าน และเครื่องดนตรี ด้วยคุณสมบัติเด่นด้านความแข็งแรง สีสันที่สวยงาม และลวดลายที่หรูหรา อย่างไรก็ตาม ในตลาดมีไม้เนื้อแข็งอีกหลายชนิดที่ให้คุณสมบัติแตกต่างกัน บทความนี้จึงเปรียบเทียบไม้มะฮอกกานีกับไม้ชนิดอื่น เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

1. ไม้มะฮอกกานี vs ไม้สัก

คุณสมบัติเด่นของไม้สัก:

  • ทนต่อปลวกและแมลงโดยธรรมชาติ

  • สีทองอ่อนถึงน้ำตาลทอง เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์หรูและงานกลางแจ้ง

  • มีน้ำมันธรรมชาติที่ช่วยป้องกันความชื้น

เปรียบเทียบกับไม้มะฮอกกานี:

  • ไม้ มะฮอกกานี มีสีแดงน้ำตาลที่เข้มกว่าและลวดลายที่หรูหรา

  • มะฮอกกานี เหมาะกับงานตกแต่งภายในมากกว่า เพราะไม่ทนต่อสภาพกลางแจ้งเท่าไม้สัก

  • ราคาของไม้ มะฮอกกานี อาจต่ำกว่าไม้สักในบางพื้นที่

2. ไม้มะฮอกกานี vs ไม้โอ๊ค

คุณสมบัติเด่นของไม้โอ๊ค:

  • แข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับงานที่ต้องรับน้ำหนัก

  • มีลวดลายที่ชัดเจนและหลากหลาย เช่น โอ๊คขาวและโอ๊คแดง

  • ใช้งานได้ดีทั้งภายในและภายนอก

เปรียบเทียบกับไม้มะฮอกกานี:

  • ไม้โอ๊คมีเนื้อไม้ที่หนาแน่นกว่า แต่ไม้มะฮอกกานีมีน้ำหนักเบากว่า

  • ลวดลายของไม้มะฮอกกานีจะละเอียดและเรียบหรูกว่า

  • ไม้โอ๊คมีสีโทนเย็น ขณะที่ มะฮอกกานี มีสีโทนอุ่นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหรา

3. ไม้มะฮอกกานี vs ไม้เชอร์รี่

คุณสมบัติเด่นของไม้เชอร์รี่:

  • สีไม้โทนแดงสว่าง และเข้มขึ้นตามอายุการใช้งาน

  • เนื้อไม้ละเอียด เหมาะสำหรับงานตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม

เปรียบเทียบกับไม้มะฮอกกานี:

  • สีของไม้ มะฮอกกานี มีความเข้มและลึกกว่าไม้เชอร์รี่

  • ไม้เชอร์รี่มีความเงาธรรมชาติสูง ขณะที่ไม้มะฮอกกานีต้องเคลือบเงาเพิ่ม

  • มะฮอกกานี มีความทนทานกว่าในระยะยาว

4. ไม้มะฮอกกานี vs ไม้เมเปิ้ล

คุณสมบัติเด่นของไม้เมเปิ้ล:

  • เนื้อไม้สีอ่อนและลายไม้ที่สม่ำเสมอ

  • มีความแข็งแรง ทนต่อการใช้งานหนัก

เปรียบเทียบกับไม้มะฮอกกานี:

  • ไม้เมเปิ้ลมีโทนสีสว่างกว่า เหมาะสำหรับสไตล์โมเดิร์น ขณะที่มะฮอกกานีให้ความรู้สึกคลาสสิกและหรูหรา

  • ไม้ มะฮอกกานี เหมาะกับงานที่ต้องการลวดลายโดดเด่น ขณะที่ไม้เมเปิ้ลเหมาะกับงานที่ต้องการความเรียบง่าย

ไม้มะฮอกกานีเหมาะกับใคร?

ไม้ มะฮอกกานี เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่มองหาไม้ที่มีความสวยงาม ลวดลายหรูหรา และความทนทานในงานตกแต่งภายในหรือเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม แม้ว่าไม้ชนิดอื่นจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน แต่ไม้มะฮอกกานียังคงเป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่ให้คุณค่าในด้านความงามและคุณภาพ

ข้อดีของไม้มะฮอกกานี

• เนื้อไม้มีความสวยงาม แข็งแรงและทนกับทุกสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นฟ้า แดด ลม และฝน เมื่อนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องดนตรี ด้ามเครื่องมือ หรือใช้ก่อสร้างที่อยู่อาศัย จะทำให้มีลักษณะสวยงามและมีอายุการใช้งานยาวนานอีกด้วย
• ทนต่อการทำลายของปลวกได้ดี ถือเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่ทำให้ไม้มะฮอกกานีได้รับความนิยม นอกจากแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์และเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ได้แล้ว ด้วยความที่มีคุณสมบัติทนต่อการทำลายของปลวก จึงสามารถนำไปสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยได้อีกด้วย
• เหมาะกับงานตกแต่งภายใน และการตกแต่งที่เน้นความสวยงาม ด้วยคุณสมบัติของเนื้อไม้ที่มีความสวยงาม ผิวลื่น แข็งแรงและทนทาน อีกทั้งยังขัดเงาได้ง่าย จึงสามารถอัดเป็นไม้วีเนียร์เพื่อใช้ในงานตกแต่งภายใน และใช้ทำเครื่องดนตรีอย่างกีตาร์ได้อีกด้วย
• อัตราการเจริญเติบโตค่อนข้างเร็ว เมื่อเทียบกับไม้เนื้อแข็งชนิดอื่น มะฮอกกานีถือเป็นไม้ที่เจริญเติบโตเร็วพอสมควร หลายคนจึงนิยมปลูกเพื่อการค้า โดยใช้เวลาในการเจริญเติบโตประมาณ 10–15 ปี ก็สามารถตัดขายได้แล้ว
• ขายได้ราคาดี นอกจากความสวยงามของลายไม้แล้ว เนื้อไม้มะฮอกกานียังมีความแข็งและทนทาน สามารถใช้ทำเครื่องเรือน เครื่องดนตรี เครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ รวมถึงใช้ก่อสร้างที่อยู่อาศัยได้ด้วย จึงทำให้มีราคาแพง ยิ่งถ้าหากผ่านการแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็จะยิ่งทำให้มีราคาสูงมากขึ้น
• สามารถใช้เป็นยารักษาอาการต่าง ๆ ในส่วนของเปลือกไม้มะฮอกกานีนั้นจะมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการเจริญอาหาร แก้ไข้ และสมานแผล จึงนิยมนำมาต้มเป็นยาเจริญอาหาร และแก้อาการดังกล่าว

ข้อเสียของไม้มะฮอกกานี

• ปัญหาหนอนและแมลงในช่วงแรก ไม้มะฮอกกานีที่เพิ่งปลูกได้ใน 12 ปีแรก มักพบกับปัญหาหนอน แมลงและด้วงเข้ามาเจาะเนื้อไม้ ซึ่งทำให้เกิดโพรงด้านใน ส่งผลให้ต้นหักโค่นจนอาจถึงตายได้ ฉะนั้นจึงไม่ควรปลูกเป็นพืชเชิงเดี่ยว แนะนำให้ปลูกผสมกับสะเดาเทียม
• ไม่เหมาะกับการปลูกไว้ในบริเวณที่อยู่ใกล้กับตัวบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่เป็นพื้นปูน เนื่องจากต้นมะฮอกกานีมีรากพูพอนที่โคนต้น ซึ่งจะทำให้พื้นบ้านและกำแพงได้รับความเสียหาย อีกทั้งผลของมะฮอกกานียังมีขนาดใหญ่ หากตกใส่หลังคาบ้านจะทำให้เกิดเสียงดังรบกวนได้

จุดเด่นของไม้มะฮอกกานี

เนื้อไม้มะฮอกกานีมีความสวยงาม เหมาะกับการตกแต่งภายในและทำเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์และสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย จึงเป็นที่นิยมในตลาดไม้แปรรูป โดยแก่นไม้มะฮอกกานีนั้นจะมีสีแดงออกชมพู และเมื่ออายุมากขึ้นก็จะมีสีเข้มขึ้น ตั้งแต่ชมพูเข้มไปจนถึงน้ำตาล ทำให้ไม้มะฮอกกานีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากสีของไม้จะดูสวยงามแล้ว ผิวไม้ยังลื่นอีกด้วย สามารถขัดเงาได้ง่าย ไม่แตกหักหรืองอ นอกจากนี้ยังมีความแข็งแรงและทนทานอีกด้วย

มะฮอกกานี เป็นไม้เศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง เพราะเป็นไม้ที่มีคุณภาพและสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังมีอัตราการเจริญเติบโตเร็วอีกด้วย ด้วยความสวยงามและความแข็งแรงของเนื้อไม้ ทำให้ถูกนำไปใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องดนตรี เครื่องมือเครื่องใช้ และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ก่อสร้างที่อยู่อาศัยได้อีกด้วย ทั้งนี้หากใครสนใจไม้จริง ไม้แปรรูป หรือไม้เก่าคุณภาพดี อาทิเช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ TWOMENWOOD เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทุกคนสามารถติดต่อสั่งซื้อสินค้าไม้แปรรูปได้ สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี

ตรวจสอบราคาสินค้า

อ้างอิง