สินค้า
ทำความรู้จักกับแป ส่วนประกอบของโครงสร้างหลังคาที่มีความสำคัญอยู่ไม่น้อย
ตามข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสร้างบ้านได้กล่าวว่า บ้านไม้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน โดยในอดีตวัสดุอย่างไม้นั้นหาได้ค่อนข้างง่าย จะเห็นได้ว่าบ้านส่วนใหญ่ในสมัยก่อนจะเป็นบ้านไม้เรือนไทย ซึ่งข้อดีของบ้าไม้ก็คือให้กลิ่นอายความเป็นธรรมชาติ ลวดลายของไม้แต่ละชนิดมีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เลียนแบบได้ยาก เพราะลวดลายของไม้ดังกล่าวเกิดจากธรรมชาติรังสรรค์นั่นเอง นอกจากนี้การใช้ไม้ทำข้าวของเครื่องใช้ก็ยังคงได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องด้วย
คราวนี้ก็ถึงเวลาที่เราต้องมาทำความรู้จักกับส่วนประกอบของโครงสร้างหลังคาบ้านที่ใช้ไม้ทำกันแล้ว และสิ่งที่เรากำลังกล่าวถึงก็คือแปนั่นเอง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบ้านไม้นั้นจะขาด แป หลังคา ไปไม่ได้ เพราะแปรหลังคาจะช่วยแบกรับน้ำหนักของแผ่นหลังคาเอาไว้ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก หากแปหลังคาไม่มีความแข็งแรงทนทานมากพอ จะส่งผลให้บ้านหลังนั้นขาดความมั่นคงและแข็งแรง เพราะฉะนั้นหากจะสร้าง แป หลังคา ควรคัดคุณสมบัติไม้ให้ดีก่อนนำมาใช้
ส่วนประกอบของโครงสร้างหลังคา มีอะไรบ้าง
บทความนี้จะกล่าวถึงหนึ่งในส่วนประกอบของโครงสร้างหลังคาอย่างแป แต่ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับแป มาดูกันคร่าว ๆ ก่อนว่า นอกจากแปแล้ว มีอะไรบ้างที่เป็นส่วนประกอบของโครงสร้างหลังคา โดยหลัก ๆ แล้วต้องบอกว่าส่วนประกอบของโครงหลังคาจะประกอบไปด้วยแป จันทัน อกไก่ ดั้ง ขื่อ อเส เชิงชาย และทับเชิงชายหรือทับปั้นลม ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้ถือเป็นส่วนที่มีความสำคัญต่อหลังคาอาคารอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดก็ตามควรใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงและสามารถรับน้ำหนักหลังคาได้เป็นอย่างดี รวมถึงติดตั้งให้ได้ประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในอนาคต
แปคืออะไร? ความสำคัญของแปในโครงสร้างหลังคา
แป เป็นองค์ประกอบสำคัญในโครงสร้างหลังคาที่มีหน้าที่รองรับน้ำหนักและถ่ายน้ำหนักจากวัสดุมุงหลังคา เช่น กระเบื้องหลังคา แผ่นเมทัลชีท หรือไม้ เพื่อส่งต่อน้ำหนักไปยังจันทันและเสาโครงสร้างบ้าน การติดตั้ง แป ที่ถูกต้องและเหมาะสมช่วยเพิ่มความมั่นคงและยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างหลังคา[1]
แปคืออะไร?
ในงานก่อสร้างบ้านหรืออาคาร แป หมายถึงโครงสร้างแนวนอนที่ติดตั้งขวางกับจันทัน ทำหน้าที่เป็นฐานรองสำหรับวัสดุมุงหลังคา โดยแปมีบทบาทสำคัญในการกระจายน้ำหนักของหลังคาให้กระจายอย่างสม่ำเสมอ
แป ถูกออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักได้ทั้งในแนวตั้ง (น้ำหนักวัสดุหลังคา) และแนวนอน (แรงลมและสภาพอากาศ) ดังนั้น การเลือกวัสดุและขนาดของแปจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ[1]
ความสำคัญของแปในโครงสร้างหลังคา
รองรับน้ำหนักหลังคา
แปช่วยกระจายน้ำหนักของวัสดุมุงหลังคา เช่น กระเบื้อง แผ่นโลหะ หรือแผ่นโปร่งแสง ให้ถ่ายน้ำหนักลงไปยังจันทันและโครงสร้างบ้าน
เพิ่มความแข็งแรงให้โครงหลังคา
การติดตั้งแปอย่างเหมาะสมช่วยลดการบิดงอหรือการเคลื่อนตัวของวัสดุมุงหลังคา
ป้องกันปัญหาการรั่วซึม
แปที่ติดตั้งอย่างถูกต้องช่วยให้วัสดุมุงหลังคาเรียงตัวอย่างสม่ำเสมอ ลดโอกาสเกิดช่องว่างที่ทำให้เกิดการรั่วซึม
เสริมความสวยงามและเรียบร้อยของหลังคา
แปช่วยจัดเรียงแผ่นหลังคาให้สวยงามและได้มาตรฐาน
ข้อควรพิจารณาในการเลือกใช้แป
ชนิดวัสดุ
เลือกวัสดุของแปให้เหมาะสมกับโครงสร้างหลังคาและสภาพแวดล้อม เช่น ใช้แปเหล็กในพื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรง
ขนาดและความหนา
ขนาดของแปควรเหมาะสมกับน้ำหนักของวัสดุมุงหลังคา และต้องติดตั้งในระยะห่างที่เหมาะสม
การบำรุงรักษา
หากใช้แปไม้ ควรทาสารกันปลวกและเคลือบเงา
แปเหล็กต้องตรวจสอบสนิมและเคลือบกันสนิมเป็นระยะ
แป เป็นโครงสร้างสำคัญที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความปลอดภัยให้กับหลังคา การเลือกใช้วัสดุและการติดตั้งแปอย่างเหมาะสมจะช่วยลดปัญหาในระยะยาว เช่น การรั่วซึมหรือความเสียหายของโครงสร้างหลังคา ดังนั้น ควรใส่ใจตั้งแต่การเลือกวัสดุจนถึงการติดตั้ง เพื่อให้หลังคาของบ้านมีความสวยงามและมั่นคง[1]
ประเภทของแปและวัสดุที่นิยมใช้
แป เป็นส่วนสำคัญในโครงสร้างหลังคาที่ทำหน้าที่รองรับและกระจายน้ำหนักจากวัสดุมุงหลังคาไปยังโครงสร้างหลักของอาคาร การเลือก แป ที่เหมาะสมกับบ้านและการใช้งานมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและอายุการใช้งานของหลังคา ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประเภทของ แป และวัสดุที่นิยมใช้ในงานก่อสร้างหลังคา
ประเภทของแป
แปไม้
คุณสมบัติ: เป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นและสวยงามตามธรรมชาติ
ข้อดี: แปไม้มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่ายและเหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความอบอุ่นและสไตล์ธรรมชาติ
การใช้งาน: นิยมใช้ในบ้านไม้ บ้านสไตล์คลาสสิกหรือบ้านเรือนไทย
ข้อควรระวัง: แปไม้ต้องได้รับการบำรุงรักษาอย่างดี โดยเฉพาะการป้องกันปลวกและการเก็บรักษาความชื้น
แปเหล็ก
คุณสมบัติ: แข็งแรง ทนทาน รองรับน้ำหนักได้มากและมีอายุการใช้งานยาวนาน
ข้อดี: แปเหล็กสามารถทนต่อการกัดกร่อนและมีความทนทานสูง เหมาะสำหรับบ้านสมัยใหม่หรือหลังคาโลหะ
การใช้งาน: เหมาะสำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์น อาคารพาณิชย์ หรือโครงสร้างที่ต้องการความมั่นคงสูง
ข้อควรระวัง: ต้องระวังเรื่องการเกิดสนิม ควรเลือกแปเหล็กที่ผ่านการเคลือบกันสนิม
แปคอนกรีต
คุณสมบัติ: แปที่ทำจากคอนกรีตมีความทนทานต่อสภาพอากาศและการกัดกร่อน
ข้อดี: ใช้สำหรับโครงสร้างขนาดใหญ่และสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี
การใช้งาน: นิยมใช้ในอาคารขนาดใหญ่ เช่น อาคารสำนักงานหรือโรงงาน
ข้อควรระวัง: เนื่องจากมีน้ำหนักมาก ควรออกแบบโครงสร้างรองรับให้เหมาะสม
แปสำเร็จรูป
คุณสมบัติ: แปสำเร็จรูปผลิตจากวัสดุหลายชนิด เช่น ไฟเบอร์ซีเมนต์ เหล็ก หรืออลูมิเนียม
ข้อดี: ติดตั้งง่ายและเร็ว ช่วยลดเวลาในงานก่อสร้าง
การใช้งาน: เหมาะสำหรับการก่อสร้างที่ต้องการความรวดเร็วและคุ้มค่า
ข้อควรระวัง: อาจมีราคาสูงกว่าวัสดุที่ผลิตเองในบางกรณี
วัสดุที่นิยมใช้สำหรับแป
ไม้
ข้อดี: มีความสวยงามตามธรรมชาติและให้บรรยากาศอบอุ่น
การใช้: ใช้สำหรับบ้านไม้หรือบ้านที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติ
ข้อควรระวัง: ไม้ต้องได้รับการป้องกันจากปลวกและความชื้น
เหล็ก
ข้อดี: แข็งแรง ทนทานและเหมาะกับบ้านสมัยใหม่
การใช้: ใช้ในบ้านสมัยใหม่ อาคารที่ต้องการความมั่นคงสูง
ข้อควรระวัง: ต้องเคลือบกันสนิมเพื่อยืดอายุการใช้งาน
คอนกรีต
ข้อดี: แข็งแรงและทนทานต่อทุกสภาพอากาศ
การใช้: ใช้ในโครงสร้างขนาดใหญ่ เช่น อาคารสำนักงานหรือโรงงาน
ข้อควรระวัง: มีน้ำหนักมาก ต้องออกแบบโครงสร้างรองรับอย่างเหมาะสม
ไฟเบอร์ซีเมนต์
ข้อดี: ทนทานและมีน้ำหนักเบากว่าแปคอนกรีต
การใช้: ใช้ในงานที่ต้องการวัสดุที่เบาและทนทาน
การเลือกใช้แปให้เหมาะสมกับงานก่อสร้าง
พิจารณาจากประเภทหลังคา
สำหรับหลังคาที่มีน้ำหนักมาก เช่น กระเบื้องหลังคาหรือแผ่นหลังคาหนัก ควรเลือกแปเหล็กหรือแปคอนกรีตเพื่อความมั่นคง
หากเป็นหลังคาที่เบา เช่น แผ่นเมทัลชีท สามารถเลือกแปไม้หรือแปเหล็กที่มีขนาดเล็กได้
พิจารณาจากงบประมาณ
หากงบประมาณจำกัด การเลือกใช้แปไม้หรือแปสำเร็จรูปอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
หากต้องการความแข็งแรงสูง แปเหล็กหรือแปคอนกรีตก็เป็นตัวเลือกที่ดี
การบำรุงรักษา
แปไม้ต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษเพื่อลดปัญหาปลวกและการผุพัง
แปเหล็กและแปคอนกรีตมีความทนทานและดูแลรักษาง่าย
แป เป็นส่วนสำคัญในโครงสร้างหลังคา โดยมีวัสดุหลากหลายชนิดที่สามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมของประเภทบ้านและงบประมาณ การเลือกวัสดุและประเภทของ แป ที่เหมาะสมจะช่วยเสริมความแข็งแรงและความสวยงามให้กับโครงสร้างหลังคา และยังเพิ่มอายุการใช้งานให้กับบ้านหรืออาคารของคุณ
ชนิดของไม้ที่เหมาะสมต่อการนำมาทำแป
การเลือกใช้ไม้ในการทำ แป เป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญในงานก่อสร้างหลังคา เนื่องจากไม้เป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นและสามารถให้ความสวยงามแบบธรรมชาติได้ แต่ไม่ทุกรูปแบบของไม้สามารถใช้ทำ แป ได้อย่างเหมาะสม การเลือกไม้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้งานจะช่วยให้แปมีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพแวดล้อมและการใช้งานได้อย่างยาวนาน ในบทความนี้เราจะพาคุณไปดูไม้ชนิดต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับการทำ แป[1]
ไม้ที่เหมาะสมสำหรับการทำแป
คุณสมบัติ: ไม้เต็งเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทานสูง ทนทานต่อความชื้นและแมลงได้ดี
ข้อดี: มีความแข็งแรงและทนทานเหมาะสำหรับใช้ในงานที่ต้องการความมั่นคง เช่น แป หลังคาไม้
การใช้งาน: นิยมใช้ทำแปในบ้านไม้หรือบ้านที่มีลักษณะโครงสร้างหลังคาไม้
คุณสมบัติ: ไม้สักเป็นไม้ที่มีความทนทานต่อการสึกหรอสูง มีความแข็งแรงและสวยงาม
ข้อดี: มีคุณสมบัติต้านทานปลวกและเชื้อราได้ดี เหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่ต้องการความทนทานสูง เช่น แป หลังคา
การใช้งาน: เหมาะสำหรับบ้านไม้หรูหรือบ้านที่ต้องการความสวยงามและทนทาน
ไม้ยางพารา
คุณสมบัติ: ไม้ยางพาราเป็นไม้ที่มีราคาไม่สูงและมีความทนทานดี แต่จะต้องทำการรักษาเพื่อป้องกันแมลง
ข้อดี: มีน้ำหนักเบาและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับการใช้ทำ แป หลังคาในพื้นที่ที่ไม่ต้องการวัสดุที่มีราคาแพง
การใช้งาน: เหมาะสำหรับบ้านที่ใช้วัสดุไม้ในโครงสร้างหลักหรือหลังคาไม้
คุณสมบัติ: ไม้ประดู่เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพอากาศ
ข้อดี: ทนทานต่อความชื้นและมีอายุการใช้งานยาวนาน เหมาะสำหรับการทำแปหลังคาที่ต้องรับน้ำหนักและการใช้งานในระยะยาว
การใช้งาน: เหมาะสำหรับบ้านไม้หรือหลังคาที่มีการออกแบบเน้นความทนทาน
ไม้เบญจพรรณ
คุณสมบัติ: ไม้เบญจพรรณมีความแข็งแรงปานกลางและทนทานต่อความชื้น
ข้อดี: มีราคาไม่สูงและสามารถหาได้ง่าย มีคุณสมบัติที่ดีพอสำหรับการใช้งานใน แป หลังคา
การใช้งาน: ใช้ในงานก่อสร้างบ้านที่มีงบประมาณไม่สูงมากและต้องการไม้ที่ทนทานพอสมควร
สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกไม้ทำแป
ความแข็งแรงของไม้
ไม้ที่เลือกควรมีความแข็งแรงและทนทานต่อการรับน้ำหนักของวัสดุมุงหลังคา ควรเลือกไม้เนื้อแข็งหรือไม้ที่มีความทนทานสูงเพื่อให้ แป สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี
ความทนทานต่อสภาพอากาศ
ไม้ควรมีความทนทานต่อความชื้นและสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เช่น ไม้สักหรือไม้เต็งที่ทนต่อความชื้นและปลวกได้ดี
การบำรุงรักษา
ไม้ที่เลือกควรได้รับการป้องกันจากปลวกและการผุกร่อน ควรมีการเคลือบสารกันปลวกและสารเคลือบเพื่อยืดอายุการใช้งานของ แป
ความเหมาะสมกับสไตล์ของบ้าน
หากบ้านมีสไตล์ธรรมชาติหรือใช้ไม้ในการก่อสร้างอยู่แล้ว ไม้ที่ใช้ทำ แป ควรมีลักษณะเดียวกับวัสดุหลัก เช่น ไม้สักหรือไม้เต็งจะเหมาะกับบ้านสไตล์คลาสสิกหรือไม้
การเลือกไม้ที่ใช้ทำ แป มีผลโดยตรงต่อความแข็งแรงและความทนทานของโครงสร้างหลังคา การเลือกไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและการใช้งานจะช่วยให้ แป มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและเพิ่มความมั่นคงให้กับหลังคาของบ้าน สำหรับบ้านไม้หรือบ้านที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติ ไม้สัก ไม้เต็ง และไม้ประดู่เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด[1]
ขนาดของแปที่เหมาะสมกับโครงสร้างหลังคา
การเลือกขนาดของ แป ที่เหมาะสมกับโครงสร้างหลังคาเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากขนาดของ แป จะมีผลต่อความแข็งแรงและความทนทานของหลังคา รวมถึงความปลอดภัยในระยะยาวในการใช้งาน การเลือกขนาดของ แป ที่เหมาะสมจะช่วยให้โครงสร้างหลังคาสามารถรองรับน้ำหนักวัสดุมุงหลังคาได้อย่างดี และลดปัญหาการเสียหายของโครงสร้างในอนาคต[2]
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกขนาดแป
ประเภทของวัสดุมุงหลังคา
แป ที่ใช้จะต้องมีขนาดที่สามารถรองรับน้ำหนักของวัสดุมุงหลังคาได้ เช่น กระเบื้องคอนกรีต หรือกระเบื้องแผ่นเรียบจะมีน้ำหนักมากกว่าแผ่นเมทัลชีท จึงต้องใช้ แป ที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรง
หากใช้แผ่นเมทัลชีทหรือวัสดุมุงหลังคาที่เบากว่า แป สามารถใช้ขนาดที่เล็กลงได้
ระยะห่างระหว่างแป
การกำหนดระยะห่างระหว่าง แป มีความสำคัญอย่างมากในการคำนวณขนาดที่เหมาะสม โดยปกติแล้ว แป จะถูกติดตั้งห่างกันประมาณ 60 ซม. ถึง 90 ซม. ขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุมุงหลังคา
หากระยะห่างระหว่างแปมากเกินไป จะทำให้แปต้องรับน้ำหนักมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้แปโก่งงอหรือเสียหายได้
ความยาวของแป
ขนาดของ แป ต้องพิจารณาจากความยาวของโครงสร้างหลังคา โดยต้องมีความแข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักและแรงลมที่อาจเกิดขึ้น
สำหรับหลังคาที่มีขนาดใหญ่หรือหลังคาที่ต้องรับแรงจากลมมาก ๆ ควรเลือก แป ที่มีความยาวและขนาดใหญ่ขึ้น
วัสดุที่ใช้ทำแป
วัสดุที่ใช้ทำ แป เช่น ไม้ เหล็ก หรือคอนกรีตก็มีผลต่อขนาดที่ต้องใช้ ไม้และเหล็กจะมีความแข็งแรงแตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องเลือกขนาด แป ให้เหมาะสมกับวัสดุที่ใช้
แปเหล็ก สามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่าปกติ จึงสามารถใช้ขนาดที่เล็กกว่าไม้ได้ แต่ต้องคำนึงถึงการเคลือบกันสนิม
ขนาดของแปที่แนะนำสำหรับวัสดุต่าง ๆ
แปไม้
สำหรับการใช้ แป ไม้ ควรเลือกไม้ที่มีขนาดไม่น้อยกว่า 3×4 นิ้ว หรือ 4×6 นิ้ว ขึ้นอยู่กับขนาดและประเภทของหลังคา
หากเป็นหลังคาที่มีวัสดุมุงหลังคาหนัก เช่น กระเบื้องคอนกรีต แนะนำให้เลือกใช้ไม้ขนาดใหญ่ เช่น 4×6 นิ้ว หรือ 6×8 นิ้ว
แปเหล็ก
สำหรับ แปเหล็ก ขนาดที่ใช้ทั่วไปจะอยู่ที่ 1.5×3 นิ้ว หรือ 2×4 นิ้ว ขึ้นอยู่กับความยาวของแปและระยะห่างระหว่างแป
แปเหล็ก สามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่าแปไม้ ทำให้สามารถใช้ขนาดที่เล็กกว่าหรือระยะห่างระหว่างแปได้มากขึ้น
แปคอนกรีต
แปคอนกรีตมีความแข็งแรงสูง ดังนั้นขนาดของแปจะขึ้นอยู่กับการออกแบบโครงสร้างหลังคาและการรองรับน้ำหนักของหลังคา
สำหรับหลังคาขนาดใหญ่หรือโครงสร้างที่หนัก ควรใช้แปคอนกรีตที่มีขนาดประมาณ 4×6 นิ้ว หรือ 6×8 นิ้ว
การคำนวณขนาดแปที่เหมาะสม
การคำนวณขนาดของ แป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความยาวของหลังคา ประเภทวัสดุมุงหลังคา และระยะห่างระหว่างแป แนะนำให้ปรึกษาวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญในการคำนวณขนาดของ แป ที่เหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้หลังคามีความแข็งแรงและปลอดภัย
การเลือกขนาดของ แป ที่เหมาะสมกับโครงสร้างหลังคามีความสำคัญในการเสริมความแข็งแรงและความทนทานให้กับหลังคา การพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทวัสดุมุงหลังคา ระยะห่างระหว่างแป และวัสดุที่ใช้ทำแป จะช่วยให้สามารถเลือกขนาดที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับการใช้งานได้อย่างยาวนาน
การเลือกแปไม้ที่เหมาะสมสำหรับงานหลังคาไม้จริง
การเลือก แป ไม้ที่เหมาะสมสำหรับงานหลังคาไม้จริงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงและความทนทานให้กับโครงสร้างหลังคา ไม้ที่ใช้ทำ แป จะต้องมีคุณสมบัติที่สามารถรับน้ำหนักของวัสดุมุงหลังคาและทนทานต่อสภาพอากาศที่หลากหลาย การเลือกไม้ที่มีคุณภาพจะช่วยให้หลังคาไม้มีอายุการใช้งานยาวนานและปลอดภัย
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกแปไม้สำหรับหลังคาไม้จริง
ความแข็งแรงและความทนทานของไม้
ไม้ที่ใช้ทำ แป ต้องมีความแข็งแรงพอที่จะรองรับน้ำหนักของวัสดุมุงหลังคา และทนทานต่อแรงลมและฝน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในงานหลังคาไม้จริง
ไม้ชนิดที่เหมาะสมมักจะมีความหนาแน่นและความแข็งแรงสูง เช่น ไม้เต็ง ไม้สัก หรือไม้ประดู่
การต้านทานความชื้นและแมลง
แป ไม้ต้องทนทานต่อความชื้นได้ดี เพราะหลังคามักจะเผชิญกับสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง ซึ่งอาจทำให้ไม้ผุหรือเสียหาย
ไม้ที่มีคุณสมบัติต้านทานแมลง เช่น ไม้เต็ง ไม้สัก และไม้ประดู่ เป็นตัวเลือกที่ดีในการใช้ทำ แป เนื่องจากมีความทนทานต่อปลวกและเชื้อราที่อาจเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมชื้น
ขนาดและรูปแบบของไม้
ขนาดของ แป ไม้ต้องเหมาะสมกับขนาดและระยะห่างระหว่างแป เช่น การใช้ไม้ที่มีขนาด 4×6 นิ้ว หรือ 6×8 นิ้ว ขึ้นอยู่กับประเภทของหลังคาและวัสดุมุงหลังคา
รูปแบบของไม้ที่ใช้ควรมีความเรียบเนียน และไม่มีรอยแตกหรือเนื้อไม้ที่ไม่แข็งแรง
ราคาของไม้
แม้ว่าบางชนิดของไม้จะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทำ แป แต่ก็อาจมีราคาค่อนข้างสูง
ไม้ที่มีราคาปานกลางแต่ยังคงทนทาน เช่น ไม้เบญจพรรณ หรือไม้ยางพารา ก็สามารถใช้ได้ดีในการทำ แป หลังคาไม้จริง
ไม้ที่เหมาะสมสำหรับการทำแปหลังคาไม้จริง
ไม้สัก
คุณสมบัติ: ไม้สักเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทานต่อการผุพังและแมลง มีลักษณะสวยงามและทนทานต่อความชื้นได้ดี
ข้อดี: ไม้สักมีความทนทานสูง และสามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องดูแลรักษามากนัก
การใช้งาน: เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความหรูหราและความทนทานในระยะยาว
ไม้เต็ง
คุณสมบัติ: ไม้เต็งมีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงได้ดี
ข้อดี: ทนทานต่อแมลงและความชื้น เป็นไม้ที่นิยมใช้ในงานก่อสร้างหลังคาไม้
การใช้งาน: เหมาะสำหรับบ้านที่ใช้หลังคาไม้จริงและต้องการความทนทาน
ไม้ประดู่
คุณสมบัติ: ไม้ประดู่มีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง สามารถทนทานต่อการกัดกร่อนจากแมลงและการสึกหรอได้ดี
ข้อดี: ทนทานและสามารถใช้งานในงานหลังคาไม้จริงที่มีลักษณะการใช้งานหนัก
การใช้งาน: เหมาะสำหรับบ้านไม้หรือบ้านที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานในระยะยาว
ไม้เบญจพรรณ
คุณสมบัติ: ไม้เบญจพรรณเป็นไม้ที่มีความทนทานสูงและราคาถูกกว่าไม้ชนิดอื่น ๆ แต่ยังคงมีความแข็งแรงเพียงพอสำหรับงานหลังคาไม้
ข้อดี: เป็นไม้ที่หาได้ง่ายและราคาไม่สูง แต่ยังคงทนทานและแข็งแรง
การใช้งาน: เหมาะสำหรับการใช้ทำ แป สำหรับบ้านที่มีงบประมาณจำกัด
การบำรุงรักษาแปไม้ให้ทนทาน
การเคลือบสารกันปลวกและความชื้น
ไม้ที่ใช้ทำ แป ควรได้รับการเคลือบสารกันปลวกและสารกันความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ไม้ผุกร่อนหรือโดนแมลงทำลาย
การทาสีหรือเคลือบผิวไม้
การทาสีหรือเคลือบผิวไม้ด้วยน้ำมันธรรมชาติหรือสารเคลือบผิวช่วยปกป้องไม้จากสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง และเพิ่มอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น
การเลือก แป ไม้ที่เหมาะสมสำหรับงานหลังคาไม้จริงเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้โครงสร้างหลังคามีความแข็งแรงและทนทานในระยะยาว ไม้ชนิดต่าง ๆ เช่น ไม้สัก ไม้เต็ง และไม้ประดู่ ล้วนเป็นตัวเลือกที่ดีในการใช้ทำ แป เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อสภาพอากาศและแมลง การดูแลรักษา แป ไม้ด้วยการเคลือบสารป้องกันความชื้นและปลวกจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความแข็งแรงให้กับหลังคาไม้จริงได้
จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าแปหลังคานั้นมีความสำคัญมากพอสมควรเรียกว่าเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างหลังคาที่ต้องอาศัยความแข็งแรงอย่างมากเลยทีเดียวสำหรับวัสดุไม้ที่ใช้ทำแปนั้นจะต้องมีคุณภาพและตอบโจทย์การใช้งาน ซึ่งร้าน TWOMENWOOD ของเราก็มีไม้หลายเกรดให้เลือกตามความต้องการของลูกค้า
โดยเฉพาะสินค้าไม้เก่า ไม้แปรรูปชนิดต่าง ๆ ที่มีความแข็งแรงและทนทานสูง เรามีสินค้าพร้อมจัดส่งทั่วประเทศด้วย สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี