สินค้า
ไม้แอช ไม้เนื้อแข็งโทนสีสว่าง เหมาะกับงานที่เน้นโชว์ลายไม้โดยเฉพาะ
ต้นแอชโดยปกติโตที่ภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกา รวมอยู่ในป่าเดียวกันกับป่าไม้เนื้อแข็ง ในบริเวณภูเขาและหาได้ยากในที่เรียบกับชายฝั่ง ทำให้มีลักษณะพันธุ์ที่หลากหลาย ด้วยการแพร่กระจายที่มากขนาดนี้ในเส้นละติจูด ภูมิอากาศ และ สภาพดิน ทำให้ต้นแอชมีความหลากหลายตามที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในตอนเหนือจะโตช้ากว่าและในตอนใต้จะโตเร็วกว่า มีสายพันธุ์ย่อยเพิ่มเข้ามาด้วย แม้ว่าจะมีอุปสรรคระยะยาวจากแมลงและโรคในป่าส่งผลต่อต้นแอช แต่ต้นแอชก็ยังเป็นสายพันธุ์ที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก [1]
ทำความรู้จักกับต้นแอช
โดยทั่วไป ไม้แอช เป็นสีอ่อน ด้วยกระพี้ที่เปลี่ยนสีจากขาวไปเหลือง และแก่นไม้ที่เปลี่ยนสีจากน้ำตาลอ่อนเป็นน้ำตาลเข้ม ในบางครั้งบริเวณริ้วอาจมีสีที่อ่อนกว่า ความแตกต่างของสีระหว่างกระพี้ด้านนอกสีขาวอ่อนและแก่นไม้ด้านในที่มีสีน้ำตาลที่เข้มกว่านั้นค่อนข้างมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ไม้แอชโดยปกติมีลายเนื้อไม้ที่ตรงและมีพื้นผิวหยาบ ลักษณะที่ปรากฏมีลายเนื้อไม้ที่คมชัดซึ่งตัดกันระหว่างการเติบโตในช่วงฤดูร้อนอ่อน ๆ และในช่วงวงปีฤดูหนาว ไม่มีชิ้นใดเลยที่มีรูปร่างที่เหมือนกัน รอยด่างสีน้ำตาลอ่อน หรือ ริ้วลายแร่ บางครั้งอาจเรียกเป็น “หนอนแก้ว” รอยเหล่านี้เป็นสิ่งปกติบนไม้แอช เป็นลักษณะตามธรรมชาติ ที่ไม่ถูกมองว่าเป็นตำหนิตามเกณฑ์การให้เกรดของ NHLA พวกเขาไม่ทำลายความสมบูรณ์ของลักษณะของ ไม้แอช [1]
คุณสมบัติและลักษณะเฉพาะของไม้แอช ไม้เนื้อแข็งยอดนิยมสำหรับงานตกแต่ง
ไม้แอช เป็นไม้เนื้อแข็งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในงานตกแต่งและงานเฟอร์นิเจอร์ ด้วยคุณสมบัติพิเศษและลวดลายอันสวยงามที่โดดเด่น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับคุณสมบัติและลักษณะเฉพาะของ ไม้แอช เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกใช้ไม้ชนิดนี้ได้ดียิ่งขึ้น
1. ความแข็งแรงและความยืดหยุ่น
ไม้แอช มีความแข็งแรงสูง รองรับน้ำหนักได้ดี และไม่บิดงอง่าย
โดดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับการทำเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการการดัดโค้ง เช่น เก้าอี้ หรือโครงสร้างตกแต่ง
2. ลวดลายและสีสันที่เป็นเอกลักษณ์
ลวดลายไม้แอชมีความเด่นชัด เรียบง่าย และเป็นธรรมชาติ
สีไม้โทนอ่อน เช่น สีครีมอ่อนถึงน้ำตาลอ่อน ช่วยเพิ่มความสว่างและอบอุ่นให้กับพื้นที่
3. น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง
ไม้แอช เป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่มีน้ำหนักเบา ทำให้สะดวกต่อการขนย้ายและการติดตั้ง แต่ยังคงมีความแข็งแรงเพียงพอสำหรับงานโครงสร้าง
4. การนำไปใช้งานที่หลากหลาย
ไม้แอช ถูกนำมาใช้ในหลายรูปแบบ ทั้งในงานตกแต่งภายในและอุตสาหกรรม
งานพื้นไม้: ด้วยลวดลายที่สวยงามและความทนทาน ทำให้ไม้แอชเหมาะสำหรับพื้นบ้านหรือสำนักงาน
อุปกรณ์กีฬา: เช่น ไม้เบสบอล หรือไม้ตีแบด เนื่องจากความยืดหยุ่นและความเหนียว
5. ความทนทานต่อการใช้งาน
ไม้แอช มีความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว
สามารถเคลือบผิวไม้ด้วยน้ำมันหรือแลคเกอร์ เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและเพิ่มอายุการใช้งาน
6. การดูแลรักษาไม้แอช
ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดเช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ
หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดและความชื้นเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสีไม้
ทำไมไม้แอชถึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม?
ไม้แอช เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีลวดลายสวยงาม สีสันสดใส และความแข็งแรงที่ตอบโจทย์ทั้งงานตกแต่งและงานโครงสร้าง ไม่ว่าคุณจะใช้ ไม้แอช สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ พื้นไม้ หรือการตกแต่งภายใน ไม้ชนิดนี้จะช่วยเพิ่มความหรูหราและความอบอุ่นให้กับพื้นที่ได้อย่างแน่นอน
ลักษณะของ ไม้แอช
ไม้แอช (Ash wood) มีคุณสมบัติของความแข็งแรง (ความแข็ง 598 กก.) โดยรวมดีเมื่อเทียบกับน้ำหนัก มีการทนแรงกระแทกที่ดี สามารถรับแรงจากการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์กีฬา เช่น ไม้เบสบอลได้ ไม้แอช โค้งงอได้ดีมาก ดังนั้นจึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ผลิตเครื่องเรือนและผู้ที่ชอบทำเป็นงานอดิเรก ไม้แอชเหมาะสำหรับเครื่องเรือนและพื้นเพราะเเข็งมาก มีความคงทนเมื่อเเห้งเเละง่ายต่อขัดเงาเเละย้อมสี [1]
การใช้ประโยชน์ไม้แอช
ม้แอช เป็นไม้เนื้อแข็งที่นิยมใช้ในงานออกแบบหรือตกแต่งประเภทต่าง ๆ ด้วยความที่ ไม้แอช มีลักษณะคล้ายกับไม้โอ๊ค โดยเฉพาะ ไม้แอช ที่ผ่านการย้อมสีแล้วจะดูคล้ายไม้โอ๊คมาก ซึ่งมีสีสว่างและลวดลายชัดเจน จึงเหมาะกับการทำเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์เครื่องมือช่างที่มีด้ามจับ อุปกรณ์กีฬา เครื่องดนตรีบางชนิด และอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ไม้แอช จะมีอยู่หลายเกรดด้วยกัน หากเป็น ไม้แอช ที่ได้จากท่อนไม้คุณภาพต่ำมักจะถูกใช้ทำลังไม้พาเลท หรือใช้เป็นเชื้อเพลิง ส่วน ไม้แอช ที่มีคุณภาพดีจะถูกนำไปใช้ในงานตกแต่ง ทำเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ
การใช้งานของไม้แอชในงานต่างๆ ไม้คุณภาพสำหรับทุกความต้องการ
ไม้แอช เป็นไม้เนื้อแข็งที่ได้รับความนิยมในหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นงานเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งภายใน หรืองานอุตสาหกรรม ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น เช่น ความแข็งแรง น้ำหนักเบา และลวดลายที่สวยงาม ทำให้ไม้แอชเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการใช้งานหลากหลายประเภท
1. งานเฟอร์นิเจอร์ไม้แอช
ไม้แอช ถูกนำมาใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์หลากหลายรูปแบบ เพราะคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ความทนทานและความสวยงาม
โต๊ะและเก้าอี้: ด้วยความแข็งแรงและความยืดหยุ่น ทำให้ไม้แอชเหมาะสำหรับการผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความทนทาน เช่น โต๊ะทำงาน หรือเก้าอี้รับแขก
เตียงและตู้เสื้อผ้า: ไม้แอช มีน้ำหนักเบา ช่วยให้การขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ทำได้สะดวก แต่ยังคงความแข็งแกร่ง
เฟอร์นิเจอร์ดัดโค้ง: ด้วยคุณสมบัติที่สามารถดัดโค้งได้ดี ทำให้ไม้แอชถูกใช้ในการสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์พิเศษ
2. งานตกแต่งภายในและสถาปัตยกรรม
ไม้แอช เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับงานตกแต่งภายใน เนื่องจากสีสว่างและลวดลายที่ชัดเจนช่วยเพิ่มความสวยงามและความอบอุ่นให้กับพื้นที่
พื้นไม้แอช: พื้น ไม้แอช มีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน และเพิ่มความหรูหราให้กับบ้านหรือสำนักงาน
ผนังและเพดาน: ไม้แอช ถูกใช้ในการตกแต่งผนังและเพดานเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดูเป็นธรรมชาติและอบอุ่น
บันไดไม้แอช: ด้วยความแข็งแรงและทนทานต่อแรงกระแทก บันไดไม้แอชจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับบ้านหรืออาคาร
3. งานอุตสาหกรรมและอุปกรณ์กีฬา
นอกจากการใช้ในงานตกแต่ง ไม้แอช ยังมีบทบาทในงานอุตสาหกรรมและอุปกรณ์กีฬา เนื่องจากความแข็งแกร่งและน้ำหนักเบา
ไม้เบสบอล: ไม้แอช ถูกใช้ทำไม้เบสบอลเนื่องจากมีความยืดหยุ่นและสมดุลระหว่างความแข็งแรงกับน้ำหนัก
ไม้ตีแบดมินตันหรือไม้เทนนิส: ความเหนียวของไม้แอช ช่วยเพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทก
ด้ามจับเครื่องมือ: ไม้แอช มักถูกใช้ทำด้ามจับเครื่องมือ เช่น ค้อน หรือขวาน เพราะมีผิวสัมผัสที่ดีและน้ำหนักที่เหมาะสม
4. การใช้ในงานสร้างสรรค์และดีไซน์พิเศษ
ไม้แอช ยังเหมาะสำหรับการสร้างสรรค์งานที่ต้องการดีไซน์เฉพาะ เช่น
เครื่องดนตรี: ใช้ในส่วนโครงสร้างของกีตาร์หรือเปียโน เพราะมีคุณสมบัติช่วยส่งเสียงที่ดี
งานศิลปะ: ไม้แอช สามารถนำมาแกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ เนื่องจากผิวเนื้อไม้ที่เรียบและแข็งแรง
ไม้แอชเหมาะกับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ
ไม้แอช เป็นไม้ที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความแข็งแรง น้ำหนักเบา และลวดลายที่สวยงาม จึงเหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่งานเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งภายใน ไปจนถึงงานอุตสาหกรรม หากคุณกำลังมองหาไม้คุณภาพดีที่มีความคงทนและสวยงาม ไม้แอช เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
ข้อดี
• เนื้อไม้สวยงาม โดยเฉพาะสีและลวดลายของ ไม้แอช เหมาะกับการทำเฟอร์นิเจอร์และใช้ในงานตกแต่งอย่างมาก เพราะสีไม้ดูสว่างและมีลวดลายชัดเจน เหมาะกับงานที่เน้นโชว์ความสวยงามของลายไม้โดยเฉพาะ
• มีความสามารถในการต้านทานต่อแรงกระแทกสูง เนื่องจากเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีน้ำหนักมาก อีกทั้งยังมีความเหนียวและแข็งแรงอีกด้วย จึงเหมาะกับการใช้ทำไม้เบสบอล เฟอร์นิเจอร์ และใช้ในงานตกแต่งที่มักจะได้รับแรงกระแทกอยู่บ่อย ๆ อาทิ ผนัง และพื้น
• ทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็นได้ดี ไม้แอช เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งสามารถต้านทานต่อสภาพอากาศหนาวเย็นหรืออุณหภูมิต่ำถึง –12 องศาเซลเซียสได้ดี แต่ในขณะเดียวกันจะไม่ค่อยทนต่ออุณหภูมิสูงมากนัก
• ใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ไม้แอช เป็นไม้ที่สามารถนำไปใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือน เครื่องมือช่างที่มีด้ามจับ เครื่องดนตรีบางชนิด อุปกรณ์กีฬา และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ในงานตกแต่งภายในได้อีกด้วย
ข้อเสีย
• เนื้อไม้ไม่ค่อยละเอียด เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง ไม้แอช กับไม้ถิ่นอย่างไม้ตะแบกและไม้สักทองแล้ว เนื้อไม้แอช จะไม่ละเอียดแน่นเท่ากับไม้ทั้ง 2 ชนิดที่กล่าวมา
• ร่องเสี้ยนและรอยตาไม้ค่อนข้างเยอะ ทำให้การนำไปใช้งานค่อนข้างยุ่งยากมากกว่าไม้ชนิดอื่น ๆ เพราะจะต้องผ่านกระบวนการอุดลายไม้ ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร โดยเฉพาะขั้นตอนการทำสีพื้นผิว
• ปลวกและมอดชอบ ไม้แอช เป็นไม้ชนิดหนึ่งที่ค่อนข้างมีกลิ่น อีกทั้งยังเป็นอาหารของปลวกและมอดอีกด้วย เพราะฉะนั้นหากจะใช้ประโยชน์จากไม้แอช โดยเฉพาะการใช้ตกแต่งหรือทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือน รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการอบน้ำยากันปลวกและมอดก่อน
• ไม่เหมาะกับการใช้ภายนอกอาคาร เนื่องจาก ไม้แอช เป็นหนึ่งในไม้ที่มีความสามารถในการทนต่อการเน่าได้น้อยที่สุด อีกทั้งยังเสี่ยงต่อการถูกทำลายจากปลวกและมอดด้วย จึงไม่เหมาะกับการใช้งานที่อยู่ภายนอกอาคารหรือพื้นที่กลางแจ้ง
เปรียบเทียบไม้แอชกับไม้ชนิดอื่น ไม้แบบไหนเหมาะกับคุณ?
ไม้แอช เป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งยอดนิยมที่ถูกใช้ในหลากหลายงาน แต่หากเปรียบเทียบกับไม้ชนิดอื่น เช่น ไม้โอ๊ค ไม้เมเปิล หรือไม้สัก แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป บทความนี้จะช่วยคุณเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของ ไม้แอช กับไม้ชนิดอื่น เพื่อให้คุณเลือกไม้ที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุด
ไม้แอช vs ไม้โอ๊ค
ความแข็งแรง: ทั้ง ไม้แอช และไม้โอ๊คมีความแข็งแรงสูง แต่ไม้โอ๊คจะหนักกว่า ขณะที่ ไม้แอช มีน้ำหนักเบา ทำให้เหมาะกับการขนย้ายและติดตั้ง
ลวดลาย: ไม้แอช มีลวดลายที่เด่นชัดและเป็นธรรมชาติ ส่วนไม้โอ๊คจะมีลายที่ละเอียดกว่า เหมาะกับงานที่ต้องการความหรูหรา
การใช้งาน: ไม้แอช เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ดัดโค้งหรืออุปกรณ์กีฬา ส่วนไม้โอ๊คเหมาะกับงานตกแต่งที่ต้องการความแข็งแกร่งและทนทาน
ไม้แอช vs ไม้เมเปิล
สีและลวดลาย: ไม้แอช มีสีครีมอ่อนถึงน้ำตาลอ่อน และลวดลายที่ชัดเจน ส่วนไม้เมเปิลมีสีขาวนวลและลวดลายละเอียดกว่า
ความยืดหยุ่น: ไม้แอช มีความยืดหยุ่นมากกว่า จึงเหมาะกับงานที่ต้องการการดัดโค้ง ขณะที่ไม้เมเปิลแข็งกว่า แต่ยืดหยุ่นน้อยกว่า
การดูแลรักษา: ไม้เมเปิลอาจต้องการการดูแลมากกว่า เพราะมีความไวต่อความชื้นและรอยขีดข่วนมากกว่าไม้แอช
ไม้แอช vs ไม้สัก
ความทนทาน: ไม้สักมีความทนทานต่อปลวกและความชื้นสูงกว่า ไม้แอช แต่ไม้แอชก็ทนทานเพียงพอสำหรับงานทั่วไป
น้ำหนัก: ไม้แอช มีน้ำหนักเบากว่าไม้สัก ทำให้สะดวกต่อการใช้งานบางประเภท
ลักษณะลวดลาย: ไม้สักมีลวดลายที่ละเอียดและสีทองอันโดดเด่น ขณะที่ ไม้แอช มีลวดลายที่ชัดและสวยงามแบบธรรมชาติ
ไม้แอช vs ไม้เต็ง
ความแข็งแรง: ไม้เต็งแข็งแรงกว่า ไม้แอช เล็กน้อย แต่ ไม้แอช มีความยืดหยุ่นมากกว่า
การใช้งาน: ไม้เต็งเหมาะกับงานโครงสร้าง เช่น เสา หรือคานไม้ ส่วนไม้แอชเหมาะกับงานที่ต้องการทั้งความแข็งแรงและความสวยงาม เช่น พื้นไม้หรือเฟอร์นิเจอร์
ราคา: ไม้แอช มักมีราคาสูงกว่าไม้เต็ง เนื่องจากคุณสมบัติและลวดลายที่โดดเด่น
ทำไมไม้แอชถึงน่าสนใจ?
ไม้แอช มีคุณสมบัติที่ผสมผสานระหว่างความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และลวดลายที่สวยงาม ทำให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่งานเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งภายใน ไปจนถึงอุปกรณ์กีฬา หากคุณกำลังมองหาไม้ที่น้ำหนักเบา แต่ยังคงความแข็งแรงและความสวยงาม ไม้แอช เป็นตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม
วิธีดูแลรักษาไม้แอช เคล็ดลับยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน
ไม้แอช เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทานและสวยงาม เหมาะสำหรับงานตกแต่งและงานเฟอร์นิเจอร์ แต่เพื่อรักษาคุณภาพและความสวยงามของไม้แอชให้อยู่ในสภาพดี การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้วิธีดูแลไม้แอชแบบมืออาชีพ[3]
1. ทำความสะอาดเป็นประจำ
การทำความสะอาดช่วยป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกสะสม ซึ่งอาจทำให้ผิวไม้แอชเสื่อมสภาพได้
เช็ดฝุ่นด้วยผ้าแห้งหรือผ้าชุบน้ำหมาด: หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมากเกินไป เพราะความชื้นอาจทำให้ไม้แอชบวม
หลีกเลี่ยงสารเคมีรุนแรง: ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับไม้เท่านั้น
2. ปกป้องไม้แอชจากความชื้น
แม้ว่าไม้แอชจะมีความทนทาน แต่ความชื้นสูงอาจทำให้ไม้เสียหายหรือบิดงอได้
วางในพื้นที่แห้ง: หลีกเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์ไม้แอชใกล้กับบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ หรือพื้นที่ใกล้หน้าต่างที่มีน้ำรั่วซึม
ใช้แผ่นรองป้องกันความชื้น: หากไม้แอชใช้เป็นพื้นบ้าน ควรติดตั้งแผ่นรองป้องกันความชื้นก่อนการปูพื้น
3. เคลือบผิวไม้เพื่อเพิ่มความทนทาน
การเคลือบผิวไม้ช่วยป้องกันรอยขีดข่วน ความชื้น และยืดอายุการใช้งาน
เคลือบด้วยน้ำมันไม้ธรรมชาติ: น้ำมันไม้ เช่น น้ำมันลินสีด (Linseed Oil) ช่วยเพิ่มความเงางามและป้องกันความชื้น
ใช้แลคเกอร์หรือยูรีเทน: สำหรับพื้นที่ใช้งานหนัก เช่น พื้นไม้แอช การเคลือบยูรีเทนจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและป้องกันรอยขีดข่วน
4. ป้องกันรอยขีดข่วนและแรงกระแทก
ไม้แอชมีความแข็งแรง แต่การป้องกันรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ จะช่วยรักษาความสวยงามของผิวไม้
ใช้แผ่นรองเฟอร์นิเจอร์: เพื่อป้องกันการขีดข่วนระหว่างการเคลื่อนย้าย
หลีกเลี่ยงการวางของหนักโดยตรง: ใช้ผ้าหรือแผ่นรองระหว่างของหนักกับไม้
5. ป้องกันแสงแดดโดยตรง
แสงแดดอาจทำให้สีไม้แอชจางหรือเปลี่ยนสีได้เมื่อเวลาผ่านไป
ใช้ม่านหรือฟิล์มกรองแสง: ช่วยลดการโดนแสงแดดโดยตรง
หลีกเลี่ยงการวางไม้แอชกลางแจ้ง: หากใช้ไม้แอชในงานกลางแจ้ง ควรเคลือบสารป้องกันรังสี UV
6. การซ่อมแซมและบำรุงรักษาไม้แอช
หากไม้แอชเกิดรอยขีดข่วนหรือเสียหายเล็กน้อย สามารถซ่อมแซมได้ง่าย
ขัดผิวไม้เบาๆ: ใช้กระดาษทรายละเอียดขัดบริเวณที่เป็นรอย แล้วเคลือบด้วยน้ำมันหรือแลคเกอร์
เติมร่องรอยร้าว: ใช้สารอุดร่องที่เหมาะกับไม้เพื่อซ่อมแซมรอยแตกร้าว
ดูแลไม้แอชให้งดงามเหมือนใหม่
ไม้แอช เป็นไม้ที่สวยงามและทนทาน แต่การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความสวยงามของไม้ให้อยู่ในสภาพดี การทำความสะอาด ป้องกันความชื้น และการเคลือบผิวไม้เป็นขั้นตอนสำคัญที่คุณควรใส่ใจ
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพในการดูแลไม้แอช และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ไม้เสื่อมสภาพ เพื่อให้ไม้แอชของคุณดูดีและใช้งานได้ยาวนาน[3]
จุดเด่น
ไม้แอช เป็นไม้ที่มีความแข็งแรง หนาแน่น ให้สัมผัสเรียบเนียน และที่สำคัญคือเป็นไม้ที่มีสีโทนสว่าง ซึ่งเหมาะกับการทำเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่งที่เน้นโชว์ความสวยงามของลายไม้มากทีเดียว ด้วยความสว่างของสีไม้จะช่วยลดความทึบตันได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์หรือสถานที่ที่ใช้ไม้แอชตกแต่งดูโปร่งโล่ง สบายตา และสวยงามเป็นธรรมชาติ
จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า ไม้แอช เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีลายไม้สวยงาม สีอ่อน โทนสว่าง และต้านทานต่อแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะกับการนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ และใช้ตกแต่งภายใน แต่ถึงกระนั้นไม้แอชก็ยังไม่เหมาะกับการนำไปใช้ภายนอกอาคาร เนื่องจากเป็นไม้ที่มีความสามารถในการทนต่อการเน่าต่ำ ทั้งนี้หากใครต้องการไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทาน สามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย TWOMENWOOD มีสินค้าไม้เก่า ไม้จริงและไม้แปรรูปคุณภาพดีจำหน่าย เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง และพร้อมจัดส่งทั่วประเทศอีกด้วย สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี
หมายเหตุ ร้านเราจะขายไม้เก่าไทย เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็ง สามารถตรวจเช็คราคาได้ทางข้างล่าง