สินค้า
ไม้ปาเก้ คืออะไรและสำคัญอย่างไร
ไม้ปาเก้ เป็นวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมมายาวนาน ด้วยความสวยงามแบบธรรมชาติที่ให้ความอบอุ่นและความหรูหราแก่บ้านหรืออาคาร ไม้ปาเก้ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านที่เน้นความเป็นธรรมชาติและความยั่งยืน
ไม้ปาเก้ คืออะไร
ไม้ปาเก้ คือวัสดุปูพื้นที่ทำจากไม้จริง โดยผ่านกระบวนการตัดไม้ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ มีรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งสามารถนำมาจัดเรียงเป็นลวดลายต่าง ๆ เช่น ลายก้างปลา (Herringbone), ลายตาราง (Basket Weave) และลายฟันปลา (Chevron) ลักษณะเด่นของไม้ปาเก้คือความแข็งแรง ทนทาน และลวดลายไม้ธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์[2]
ความสำคัญของไม้ปาเก้
เพิ่มความสวยงามและอบอุ่นให้บ้าน
ไม้ปาเก้มีลวดลายไม้ธรรมชาติที่ไม่ซ้ำกัน ให้ความรู้สึกหรูหราและสง่างามทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน
ด้วยความแข็งแรงของไม้จริง ไม้ปาเก้สามารถใช้งานได้นานนับสิบปี หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ไม้ปาเก้เป็นวัสดุธรรมชาติที่สามารถรีไซเคิลได้ และกระบวนการผลิตมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยเพิ่มมูลค่าให้บ้าน
บ้านที่ใช้ไม้ปาเก้มักได้รับความสนใจจากผู้ซื้อในอนาคต เนื่องจากพื้นไม้ช่วยเพิ่มมูลค่าและเสน่ห์ให้บ้าน
การดูแลรักษาไม้ปาเก้
หมั่นทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งหรือไม้ถูพื้นหมาด ๆ เพื่อป้องกันฝุ่นสะสม
หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรงในการทำความสะอาด
ทาน้ำยากันปลวกและขัดเงาเป็นประจำเพื่อคงความสวยงาม
ข้อดีของไม้ปาเก้เมื่อเทียบกับวัสดุอื่น
ความสวยงาม: ไม้ปาเก้มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์จากธรรมชาติ
อายุการใช้งาน: มีความทนทานและสามารถซ่อมแซมได้เมื่อเกิดรอยขีดข่วน
ความหลากหลาย: สามารถจัดเรียงลวดลายได้หลายรูปแบบตามความต้องการ
ไม้ปาเก้ไม่เพียงแต่เป็นวัสดุปูพื้นที่สวยงามและแข็งแรง แต่ยังเป็นตัวเลือกที่สะท้อนถึงความรักในธรรมชาติและความยั่งยืน ด้วยความสามารถในการปรับแต่งลวดลายได้หลากหลาย ไม้ปาเก้จึงเหมาะกับทุกสไตล์ของการตกแต่งบ้าน[2]
ไม้ปาเก้ ไม่ใช่แค่ไม้ที่ใช้ทำพื้นอย่างเดียว
ไม้ป้าเก้ นั้นไม่ได้ใช้แค่ไม้เป็นวัสดุหลัก แต่ยังใช้วัสดุอื่น ๆ ได้ อย่างเช่น
· พื้นเอ็นจิเนียร์ พื้นเอ็นจิเนียร์ ถูกดัดแปลงโดยใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ โดยพื้นที่ผิวด้านบนของไม้ก็ยังเป็นพื้นไม้จริงอยู่ เพราะฉะนั้นผิวสัมผัสของพื้นเอ็นจิเนียร์ จะให้ความรู้สึกที่คล้ายกับพื้นไม้จริง และลวดลายของพื้นคล้ายคลึงกับพื้นไม้จริงมากที่สุด ทำให้บ้านดูคลาสสิค อบอุ่น
· พื้นลามิเนต พื้นลามิเนตไม่ใช่พื้นไม้จริง เพียงแต่เป็นวัสดุที่ผลิตออกมาสำหรับทดแทนพื้นไม้จริง พื้นลามิเนตนั้นมีราคาถูกกว่ามากหากเทียบกับไม้จริง สามารถทำการติดตั้งได้รวดเร็วกว่าพื้นไม้จริง สำหรับลวดลายของพื้นลามิเนตนั้นก็มีลักษณะไม่ต่างจากพื้นไม้จริง เนื่องจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และมีคุณสมบัติทนน้ำ ทนความร้อน กับทนรอยขีดข่วน ซึ่งเป็นข้อดีของไม้พื้นลามิเนต
· พื้นไม้ซุง พื้นไม้ซุงเหมาะสำหรับการตกแต่งบ้านสไตล์คันทรี่ ด้วยความที่เผยเนื้อไม้จากธรรมชาติให้บ้านอย่างชัดเจน บรรยากาศจึงอบอุ่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมักจะปูพื้นแบบเดียวกันกับผนัง ยิ่งเห็นลายไม้ ก็จะยิ่งสวย [4]
ประเภทของไม้ปาเก้
ปาเก้ เป็นวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากให้ความรู้สึกอบอุ่นและสวยงามจากธรรมชาติ ไม้ปาเก้มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งาน โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและความเหมาะสมที่แตกต่างกัน วันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จัก ประเภทของไม้ปาเก้ เพื่อช่วยคุณเลือกปาเก้ที่เหมาะกับบ้านของคุณ
ประเภทของไม้ปาเก้
1. ปาเก้ไม้เนื้อแข็ง (Solid Wood Parquet)
ลักษณะ:
ผลิตจากไม้จริง 100% เช่น ไม้สัก ไม้แดง หรือไม้มะค่า
มีความหนาหลายขนาด เช่น 10 มม., 15 มม., 20 มม.
ข้อดี:
ทนทานและแข็งแรง
สามารถขัดและทำสีใหม่ได้หลายครั้ง
มีลวดลายไม้ธรรมชาติที่สวยงาม
เหมาะสำหรับ: บ้านที่ต้องการความหรูหราและอายุการใช้งานยาวนาน
2. ปาเก้สำเร็จรูป (Engineered Parquet)
ลักษณะ:
ทำจากชั้นไม้จริงบาง ๆ ด้านบน และวัสดุรองรับด้านล่าง เช่น ไม้อัดหรือ HDF
มีความหนาเฉลี่ยประมาณ 10-15 มม.
ข้อดี:
ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว
ทนต่อการบิดงอและความชื้นได้ดี
ราคาย่อมเยากว่าไม้เนื้อแข็ง
เหมาะสำหรับ: บ้านที่ต้องการความคุ้มค่าและการติดตั้งที่สะดวก
3. ปาเก้ไม้ลามิเนต (Laminate Parquet)
ลักษณะ:
ชั้นบนสุดเป็นลายไม้สังเคราะห์เคลือบกันรอยขีดข่วน
โครงสร้างด้านล่างทำจากวัสดุสังเคราะห์
ข้อดี:
ราคาประหยัด
มีลวดลายให้เลือกหลากหลาย
ไม่ต้องการการดูแลรักษามาก
ข้อเสีย:
ไม่สามารถขัดหรือทำสีใหม่ได้
เหมาะสำหรับ: พื้นที่ใช้งานเบาหรือบ้านที่ต้องการลดค่าใช้จ่าย
4. ปาเก้ไม้ปิดผิว (Veneer Parquet)
ลักษณะ:
ชั้นบนสุดเป็นไม้จริงบาง ๆ ติดบนวัสดุฐาน เช่น MDF หรือไม้อัด
มีลวดลายที่เหมือนไม้จริง
ข้อดี:
ราคาย่อมเยา
น้ำหนักเบา
ติดตั้งง่าย
ข้อเสีย:
ไม่ทนทานเท่าไม้เนื้อแข็ง
ไม่สามารถซ่อมแซมได้หากเกิดความเสียหาย
เหมาะสำหรับ: บ้านที่เน้นความสวยงามชั่วคราวและงบประมาณจำกัด
การเลือกประเภทของไม้ปาเก้
หากต้องการความแข็งแรงและอายุการใช้งานยาวนาน ควรเลือก ปาเก้ไม้เนื้อแข็ง
หากต้องการติดตั้งง่ายและคุ้มค่าในระยะสั้น ปาเก้สำเร็จรูป หรือ ปาเก้ไม้ลามิเนต เป็นตัวเลือกที่ดี
คำนึงถึงสไตล์การตกแต่งบ้าน และงบประมาณเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ข้อดีของปาเก้ไม้ทุกประเภท
เพิ่มความสวยงามและความอบอุ่นให้กับบ้าน
ปรับแต่งได้หลากหลายลวดลาย
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (สำหรับไม้จริง)
ไม้ปาเก้มีหลายประเภท เช่น ปาเก้ไม้เนื้อแข็ง ปาเก้สำเร็จรูป ปาเก้ลามิเนต และปาเก้ไม้ปิดผิว โดยแต่ละแบบมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกประเภทของไม้ปาเก้ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสวยงาม ความคุ้มค่า และอายุการใช้งานของพื้นบ้านได้อย่างยาวนาน
ไม้ชนิดไหนที่นิยมใช้ทำไม้ปาเก้
ไม้ปาเก้ เป็นวัสดุปูพื้นที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามและความแข็งแรงทนทาน ไม้ที่นำมาใช้ทำปาเก้มีหลายชนิด แต่ละชนิดมีลวดลาย คุณสมบัติ และจุดเด่นที่แตกต่างกัน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับไม้ที่นิยมใช้ทำไม้ปาเก้ เพื่อช่วยคุณเลือกไม้ที่เหมาะกับการตกแต่งบ้านของคุณ[1]
ไม้ชนิดที่นิยมใช้ทำไม้ปาเก้
1. ไม้สัก (Teak Wood)
จุดเด่น:
ลวดลายสวยงาม สีเหลืองทองอันเป็นเอกลักษณ์
ทนต่อปลวกและเชื้อรา
มีความทนทานสูงและอายุการใช้งานยาวนาน
เหมาะสำหรับ: บ้านที่ต้องการความหรูหราและคลาสสิก
2. ไม้แดง (Padauk Wood)
จุดเด่น:
มีสีแดงเข้มและลวดลายเด่นชัด
แข็งแรง ทนต่อการขีดข่วนและแรงกระแทก
ทนต่อความชื้นและสภาพอากาศร้อนชื้น
เหมาะสำหรับ: บ้านในพื้นที่ที่มีอากาศชื้นหรือโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรง
3. ไม้มะค่า (Makha Wood)
จุดเด่น:
สีออกน้ำตาลเข้มถึงน้ำตาลทอง ลวดลายคมชัด
เนื้อไม้แข็งและทนทานต่อการใช้งานหนัก
มีความเป็นธรรมชาติและเสริมความอบอุ่นให้บ้าน
เหมาะสำหรับ: บ้านที่ต้องการพื้นไม้ที่เน้นความทนทานและความสวยงาม
4. ไม้เต็ง (Shorea Wood)
จุดเด่น:
สีออกน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลแดง
เนื้อไม้แข็งแรง ทนทานต่อแรงกดและการใช้งาน
ราคาย่อมเยากว่าไม้ชนิดอื่น
เหมาะสำหรับ: บ้านที่ต้องการปูพื้นปาเก้ในงบประมาณที่จำกัด
5. ไม้ยางพารา (Rubber Wood)
จุดเด่น:
สีออกเหลืองอ่อน เนื้อไม้ละเอียด
น้ำหนักเบาและมีราคาไม่สูง
ผ่านกระบวนการอบและอัดแรงดันเพื่อความทนทาน
เหมาะสำหรับ: บ้านที่ต้องการปาเก้แบบประหยัดงบและเน้นความเรียบง่าย
วิธีเลือกไม้ปาเก้ที่เหมาะสม
พิจารณางบประมาณ: หากต้องการความคุ้มค่า ไม้เต็งหรือไม้ยางพาราเป็นตัวเลือกที่ดี
เลือกตามสไตล์บ้าน: บ้านหรูหราสามารถใช้ไม้สักหรือไม้มะค่าเพื่อเพิ่มความสวยงาม
ดูพื้นที่ใช้งาน: สำหรับพื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรงมาก เช่น ห้องนั่งเล่น ควรเลือกไม้แดงหรือไม้มะค่า
ข้อดีของไม้ปาเก้ที่ทำจากไม้แท้
ให้ลวดลายที่สวยงามแบบธรรมชาติ
แข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว
สามารถขัดและทำสีใหม่ได้ เพื่อรักษาความสวยงาม
ไม้ที่นิยมใช้ทำ ไม้ปาเก้ ได้แก่ ไม้สัก ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้เต็ง และไม้ยางพารา ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและเอกลักษณ์เฉพาะตัว การเลือกไม้ปาเก้ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความต้องการด้านการใช้งาน และสไตล์การตกแต่งบ้าน[1]
การเปรียบเทียบระหว่างไม้ปาเก้แท้และไม้ปาเก้เทียม
ปาเก้ เป็นวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมอย่างยาวนาน ด้วยความสวยงามที่เป็นธรรมชาติและความสามารถในการปรับแต่งลวดลายได้หลากหลาย แต่ในปัจจุบัน วัสดุปูพื้นประเภท ไม้ปาเก้แท้ และ ไม้ปาเก้เทียม ต่างก็มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของทั้งสองประเภท เพื่อช่วยให้คุณเลือกวัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบ้านของคุณ[2]
1. ไม้ปาเก้แท้ (Solid Wood Parquet)
ลักษณะเด่น
ทำจากไม้จริง 100% เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า หรือไม้แดง
มีลวดลายและสีสันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
มีความหนาหลากหลาย เช่น 10 มม., 15 มม., หรือ 20 มม.
ข้อดี
ความสวยงามเป็นธรรมชาติ: ลวดลายและสีของไม้แท้ให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหรา
ความทนทาน: มีอายุการใช้งานยาวนานหลายสิบปี
ซ่อมแซมได้ง่าย: สามารถขัดพื้นและทำสีใหม่ได้หลายครั้ง
เพิ่มมูลค่าให้บ้าน: บ้านที่ใช้ไม้ปาเก้แท้มักมีราคาสูงขึ้น
ข้อเสีย
ต้องการการดูแล: เช่น การทาน้ำยากันปลวกและป้องกันความชื้น
ราคาแพง: ต้นทุนสูงกว่าไม้ปาเก้เทียม
ติดตั้งยุ่งยาก: ต้องใช้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญ
2. ไม้ปาเก้เทียม (Engineered Parquet และ Laminate Parquet)
ลักษณะเด่น
ผลิตจากวัสดุผสม เช่น HDF, MDF หรือไม้อัด โดยมีชั้นลายไม้บาง ๆ หรือลายไม้สังเคราะห์ด้านบน
มีความหนาประมาณ 8-12 มม.
ข้อดี
ราคาย่อมเยา: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่าย
ติดตั้งง่าย: สามารถติดตั้งได้ด้วยระบบคลิกล็อกหรือกาว
ทนต่อความชื้น: รุ่นที่มีการเคลือบป้องกันความชื้นสามารถใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงได้
ลวดลายหลากหลาย: มีสีและลวดลายที่เลียนแบบไม้แท้ให้เลือกมากมาย
ข้อเสีย
อายุการใช้งานสั้นกว่า: ไม่ทนทานเท่าไม้ปาเก้แท้
ซ่อมแซมยาก: หากเกิดความเสียหายมักต้องเปลี่ยนแผ่นใหม่แทน
ความสวยงามน้อยกว่า: แม้จะเลียนแบบไม้ได้ดี แต่ยังไม่สามารถเทียบกับไม้แท้ได้
เลือกแบบไหนดีกว่ากัน?
ไม้ปาเก้แท้: เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความสวยงามแบบธรรมชาติ ต้องการความหรูหรา และมีงบประมาณเพียงพอ
ไม้ปาเก้เทียม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ติดตั้งง่าย และเน้นความคุ้มค่าในระยะสั้น
การเลือก ปาเก้ ไม่ว่าจะเป็นไม้ปาเก้แท้หรือไม้ปาเก้เทียม ขึ้นอยู่กับความต้องการ งบประมาณ และลักษณะการใช้งานของคุณ ไม้ปาเก้แท้ให้ความหรูหราและความทนทาน ในขณะที่ไม้ปาเก้เทียมเน้นการติดตั้งที่ง่ายและราคาประหยัด การเปรียบเทียบคุณสมบัติอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ[2]
ขนาดของไม้ปาเก้
ปาเก้ เป็นวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมในบ้านที่ต้องการความสวยงามและความอบอุ่นจากธรรมชาติ ไม้ปาเก้มีหลากหลายขนาดให้เลือก ซึ่งแต่ละขนาดเหมาะกับการใช้งานและพื้นที่แตกต่างกัน การเลือกขนาดของไม้ปาเก้ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับบ้านของคุณ[2]
ขนาดของไม้ปาเก้ที่นิยมใช้
1. ขนาดเล็ก (Small Parquet)
ขนาดทั่วไป:
ความกว้าง: 1-2 นิ้ว
ความยาว: 6-12 นิ้ว
ความหนา: 8-10 มม.
จุดเด่น:
ลวดลายที่ละเอียดและสามารถสร้างลวดลายซับซ้อนได้ เช่น ลายก้างปลา (Herringbone) หรือ ลายตาราง
เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น ห้องนอน หรือห้องทำงาน
2. ขนาดกลาง (Medium Parquet)
ขนาดทั่วไป:
ความกว้าง: 2-3 นิ้ว
ความยาว: 12-18 นิ้ว
ความหนา: 10-15 มม.
จุดเด่น:
มีความสมดุลระหว่างความละเอียดและความโดดเด่น
ติดตั้งง่ายและเหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านทั่วไป เช่น ห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขก
3. ขนาดใหญ่ (Large Parquet)
ขนาดทั่วไป:
ความกว้าง: 4-6 นิ้ว
ความยาว: 24-36 นิ้ว
ความหนา: 15-20 มม.
จุดเด่น:
ให้ความรู้สึกหรูหราและโอ่อ่า
เหมาะสำหรับพื้นที่กว้าง เช่น ห้องโถงใหญ่หรือพื้นที่เปิดโล่ง
วิธีเลือกขนาดไม้ปาเก้ให้เหมาะสม
ขนาดพื้นที่
สำหรับพื้นที่เล็ก ควรใช้ปาเก้ขนาดเล็กเพื่อสร้างความสมดุล
สำหรับพื้นที่ใหญ่ ควรใช้ปาเก้ขนาดกลางหรือใหญ่เพื่อเพิ่มความสวยงามและความต่อเนื่องของลวดลาย
ลวดลายที่ต้องการ
ปาเก้ขนาดเล็กเหมาะสำหรับการสร้างลวดลายซับซ้อน
ปาเก้ขนาดใหญ่เหมาะสำหรับลวดลายที่เรียบง่ายหรือการปูแบบตรง
สไตล์การตกแต่งบ้าน
บ้านสไตล์โมเดิร์นเหมาะกับปาเก้ขนาดใหญ่ที่มีลวดลายเรียบหรู
บ้านสไตล์คลาสสิกเหมาะกับปาเก้ขนาดเล็กที่มีลวดลายซับซ้อน
ข้อดีของการเลือกขนาดไม้ปาเก้ที่เหมาะสม
ช่วยเพิ่มความสวยงามให้พื้นที่
ทำให้บ้านดูสมดุลและมีเอกลักษณ์
ลดการเสียวัสดุและลดต้นทุนในการติดตั้ง
ขนาดของไม้ปาเก้ มีตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ซึ่งแต่ละขนาดเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกขนาดของไม้ปาเก้ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ ลวดลายที่ต้องการ และสไตล์การตกแต่งบ้าน หากเลือกขนาดไม้ปาเก้ที่เหมาะสม บ้านของคุณจะดูสวยงามและน่าอยู่ยิ่งขึ้น[2]
วิธีดูแลรักษาพื้นไม้ปาเก้
· หมั่นทำความสะอาดพื้นไม้ปาเก้อย่างสม่ำเสมอ อย่าให้มีสิ่งสกปรกสะสมไม่ว่าจะเป็นขนของสัตว์เลี้ยงหรือฝุ่นละอองที่ติดตัวมาจากภายนอก รวมถึงสิ่งสกปรกอื่น ๆ ด้วย
· หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่เป็นกรดหรือมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนทำความสะอาดพื้น ไม้ปาเก้ เช่น สารฟอกขาวและแอมโมเนีย ควรเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับพื้นไม้ปาร์เก้โดยเฉพาะ
· หากไม่มีน้ำยาทำความสะอาดพื้นไม้ปาเก้โดยเฉพาะ สามารถใช้ฟองน้ำชุบน้ำสะอาดแล้วบิดให้เกือบจะแห้ง เช็ดทำความสะอาดพื้น จากนั้นปล่อยให้แห้งด้วยอากาศอย่างทั่วถึง [2]
จะเห็นได้ว่าพื้นไม้แต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ไม่ใช่ว่าชนิดที่แพงที่สุดจะดีไปหมดทุกอย่าง ประเด็นสำคัญอยู่ที่การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งานสำหรับใครที่กำลังมองหาพื้นไม้เก่า หรือไม้ปาเก้ ก็สามาถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Twomenwood ที่นี่เรามีพื้นไม้ปาเก้ให้เลือกหลายชนิดและหลายเกรด สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี