สินค้า
บานเกล็ดไม้คืออะไร มีความสำคัญกับบ้านอย่างไร
จากข้อมูลของเว็บไซต์บ้านและสวนได้ระบุว่า ไม้เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทานตามธรรมชาติ เมื่อผ่านกระบวนการถนอมผิวไม้จะยิ่งเพิ่มอายุการใช้งานให้คงทน สามารถอยู่ได้นานนับ 10 ปีเลยทีเดียว เช่นเดียวกับบานเกล็ดไม้ เรียกว่าเป็นบานหน้าต่างหรือบานประตูที่ใช้วัสดุอย่างไม้ในการผลิต ซึ่งทำขึ้นเพื่อใช้ในการกรองแสงตอนกลางวัน และด้วยความที่เป็นบานเกล็ด ไม้ ซึ่งเป็นวัสดุผิวลื่นที่ไม่กักเก็บฝุ่น จึงทำให้ปลอดแหล่งสะสมเชื้อโรค เหมาะกับคนแพ้ฝุ่นหรือเป็นโรคภูมิแพ้ อีกทั้งยังช่วยถ่ายเทอากาศจากภายนอกไหลเวียนสู่ภายในได้อย่างสม่ำเสมอ[1]
บานเกล็ดไม้คืออะไร? ความหมายและประโยชน์ที่ควรรู้
บานเกล็ดไม้ เป็นองค์ประกอบตกแต่งบ้านที่ทั้งสวยงามและมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ได้รับความนิยมในงานสถาปัตยกรรมและการออกแบบบ้าน ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ทั้งการระบายอากาศ การควบคุมแสง และการเพิ่มความเป็นส่วนตัว
บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า บานเกล็ดไม้คืออะไร และเหตุใดจึงกลายเป็นที่นิยมในงานตกแต่งบ้าน
บานเกล็ดไม้คืออะไร?
บานเกล็ดไม้ คือโครงสร้างที่ประกอบด้วยแผ่นไม้เรียงกันในแนวตั้งหรือแนวนอน โดยแผ่นไม้เหล่านี้อาจถูกติดตายหรือออกแบบให้ปรับมุมได้ เพื่อควบคุมการระบายอากาศ แสงธรรมชาติ และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ บานเกล็ดไม้มักถูกติดตั้งในส่วนต่าง ๆ ของบ้าน เช่น หน้าต่าง ประตู ผนัง หรือรั้ว
คุณสมบัติเด่นของบานเกล็ดไม้
1. วัสดุธรรมชาติที่ให้ความสวยงาม
ไม้เป็นวัสดุที่มีความสวยงามในตัวเอง มอบความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ บานเกล็ดไม้ช่วยเสริมสไตล์บ้านให้ดูหรูหราและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2. ช่วยระบายอากาศ
การออกแบบที่มีช่องว่างระหว่างแผ่นไม้ช่วยให้ลมถ่ายเทได้อย่างสะดวก ทำให้บ้านเย็นสบายโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศตลอดเวลา
3. ควบคุมแสงธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บานเกล็ดไม้สามารถช่วยลดความจ้าของแสงแดดในช่วงกลางวัน และปรับบรรยากาศภายในบ้านให้สว่างอย่างพอดี
4. เพิ่มความเป็นส่วนตัว
บานเกล็ดไม้ช่วยบังสายตาจากภายนอกได้ดี โดยไม่ลดการระบายอากาศและแสงที่เข้ามาในบ้าน
การใช้งานบานเกล็ดไม้ในพื้นที่ต่าง ๆ
หน้าต่าง: ช่วยลดแสงจ้าและเพิ่มความสวยงาม
ประตู: ให้ความเป็นส่วนตัวและระบายอากาศ
ผนังตกแต่ง: เพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวบ้าน
รั้วหรือกำแพง: ให้ความโปร่งสบายแต่ยังคงความปลอดภัย
ข้อควรระวังในการใช้บานเกล็ดไม้
การดูแลรักษา: ควรเคลือบสารกันปลวกและป้องกันความชื้น
เลือกไม้คุณภาพสูง: เพื่อความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม: เลี่ยงพื้นที่ที่ต้องเจอกับน้ำหรือความชื้นสูง
บานเกล็ดไม้ เป็นโครงสร้างที่ทั้งสวยงามและมีประโยชน์หลากหลาย ตั้งแต่การระบายอากาศ การควบคุมแสงธรรมชาติ ไปจนถึงการเพิ่มความเป็นส่วนตัว การเลือกใช้บานเกล็ดไม้ที่เหมาะสมจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและมูลค่าของบ้านได้อย่างลงตัว[2]
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบานเกล็ดไม้
1. บานเกล็ดไม้เหมาะกับบ้านสไตล์ใด?
เหมาะกับบ้านทุกสไตล์ เช่น โมเดิร์น คลาสสิก หรือไทยประยุกต์
2. บานเกล็ดไม้ทนทานแค่ไหน?
ขึ้นอยู่กับชนิดไม้และการดูแลรักษา เช่น การเคลือบสารกันปลวกและกันชื้น
3. ติดตั้งบานเกล็ดไม้ราคาแพงไหม?
ราคาแตกต่างกันไปตามขนาดและชนิดไม้ แต่โดยทั่วไปถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความสวยงามและประโยชน์ใช้สอย
ลักษณะของไม้ที่สามารถนำมาทำเป็นบานเกล็ดไม้
ในส่วนของไม้ที่ใช้ทำบานเกล็ด ไม้ สามารถใช้ไม้แท้ ไม้พลาสติก หรือไม้เทียมชนิดอื่น ๆ ได้ แต่ส่วนใหญ่ตัวบานมักจะทำจากไม้เนื้อแข็ง เพราะมีความแข็งและทนทานมากเป็นพิเศษ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติกันปลวกและแมลงได้ค่อนข้างดีอีกด้วย ซึ่งสามารถเลือกไม้ในการทำบานเกล็ดได้หลายพื้นผิวและหลายเฉดสี ไม่ว่าจะเป็นการย้อมสี พ่นสี หรือจะผสมสีเองตามโทนสีที่ต้องการตกแต่งให้เข้ากับตัวบ้านก็ได้เช่นกัน
ประเภทของบานเกล็ดไม้ที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้งาน
บานเกล็ดไม้ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยให้กับบ้านของคุณ แต่ละประเภทของบานเกล็ดไม้มีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจประเภทของบานเกล็ดไม้ เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้เหมาะสมกับความต้องการและสไตล์ของบ้าน[3]
1. บานเกล็ดไม้แบบติดตาย (Fixed Louver)
บานเกล็ดไม้แบบติดตายมีแผ่นไม้ที่ถูกยึดติดอยู่ในตำแหน่งเดียว ไม่สามารถปรับมุมได้ เหมาะสำหรับการตกแต่งหรือใช้งานในพื้นที่ที่ไม่ต้องการปรับเปลี่ยนการระบายอากาศหรือแสง
ข้อดี:
แข็งแรงและดูแลรักษาง่าย
ให้รูปลักษณ์ที่เรียบง่ายและคลาสสิก
เหมาะสำหรับ:
พื้นที่ภายนอกที่ต้องการความคงทน เช่น รั้วหรือหน้าต่างบานเล็ก
2. บานเกล็ดไม้แบบปรับได้ (Adjustable Louver)
บานเกล็ดไม้ประเภทนี้สามารถปรับมุมของแผ่นไม้ได้ตามความต้องการ ช่วยควบคุมการระบายอากาศและแสงธรรมชาติได้อย่างยืดหยุ่น
ข้อดี:
ปรับแต่งการใช้งานได้หลากหลาย
เพิ่มความสะดวกสบายและการประหยัดพลังงาน
เหมาะสำหรับ:
ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือพื้นที่ที่ต้องการการควบคุมแสง
3. บานเกล็ดไม้แบบบานพับ (Shutter Louver)
บานเกล็ดไม้แบบบานพับสามารถเปิด-ปิดได้เหมือนประตู เหมาะสำหรับหน้าต่างหรือประตูที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน
ข้อดี:
สะดวกในการเปิด-ปิด
เพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
เหมาะสำหรับ:
ประตูหรือหน้าต่างในพื้นที่ที่ต้องการการปิดกั้นชั่วคราว
4. บานเกล็ดไม้แบบแนวนอน (Horizontal Louver)
บานเกล็ดไม้แบบแนวนอนมีแผ่นไม้ที่วางในแนวขนาน เหมาะสำหรับการระบายอากาศและการควบคุมแสง
ข้อดี:
ช่วยในการถ่ายเทอากาศได้ดี
ให้รูปลักษณ์ที่ทันสมัยและเรียบง่าย
เหมาะสำหรับ:
บ้านสไตล์โมเดิร์นหรือมินิมอล
5. บานเกล็ดไม้แบบแนวตั้ง (Vertical Louver)
บานเกล็ดไม้แบบแนวตั้งมีแผ่นไม้ที่วางในแนวดิ่ง เหมาะสำหรับการตกแต่งพื้นที่ที่ต้องการรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ข้อดี:
เพิ่มมิติและความน่าสนใจให้กับบ้าน
ใช้งานได้หลากหลาย
เหมาะสำหรับ:
การตกแต่งภายนอกหรือภายในบ้าน
6. บานเกล็ดไม้สำหรับงานตกแต่ง (Decorative Louver)
บานเกล็ดไม้ประเภทนี้มุ่งเน้นที่ความสวยงามมากกว่าการใช้งานจริง ใช้สำหรับเพิ่มความโดดเด่นให้กับพื้นที่ เช่น ผนังหรือส่วนประกอบอื่น ๆ ของบ้าน
ข้อดี:
สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับบ้าน
สามารถออกแบบได้ตามความต้องการ
เหมาะสำหรับ:
การตกแต่งผนังหรือพื้นที่พิเศษ
เคล็ดลับการเลือกบานเกล็ดไม้
พิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่: เลือกประเภทที่เหมาะกับการใช้งานและตำแหน่งที่ต้องการติดตั้ง
เลือกไม้คุณภาพดี: เช่น ไม้สักหรือไม้สน เพื่อความคงทน
ออกแบบให้เข้ากับสไตล์บ้าน: ไม่ว่าจะเป็นสไตล์โมเดิร์นหรือคลาสสิก
บานเกล็ดไม้ มีหลากหลายประเภทที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของความสวยงามและการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นบานเกล็ดแบบติดตายหรือแบบปรับได้ การเลือกประเภทที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความสวยงามให้กับบ้านของคุณ[3]
ขั้นตอนการทำบานเกล็ดไม้ด้วยตัวเองอย่างง่าย
บานเกล็ดไม้ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของบ้านที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและประโยชน์ใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นการระบายอากาศหรือการควบคุมแสงธรรมชาติ หากคุณสนใจที่จะทำบานเกล็ดไม้ด้วยตัวเอง เรามีขั้นตอนง่าย ๆ มาแนะนำ[4]
วัสดุและอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
ก่อนเริ่มต้นทำ บานเกล็ดไม้ ควรจัดเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ดังนี้:
ไม้ที่เหมาะสม เช่น ไม้สักหรือไม้สน
เลื่อยมือหรือเลื่อยไฟฟ้า
สว่านและสกรู
กาวไม้
เครื่องขัดกระดาษทราย
สีหรือสารเคลือบไม้
ขั้นตอนการทำบานเกล็ดไม้
1. ออกแบบบานเกล็ดไม้
เริ่มต้นด้วยการวาดแบบบานเกล็ดไม้ที่คุณต้องการ กำหนดขนาดและความหนาของไม้ รวมถึงมุมการวางบานเกล็ดเพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่
2. ตัดไม้ตามขนาดที่กำหนด
ใช้เลื่อยตัดไม้ให้ได้ตามแบบ โดยตัดแผ่นไม้สำหรับบานเกล็ดและกรอบให้เรียบร้อย
3. ขัดไม้เพื่อความเรียบเนียน
ใช้กระดาษทรายหรือเครื่องขัดไม้ขัดให้พื้นผิวไม้เรียบเนียน ช่วยให้ บานเกล็ดไม้ ดูสวยงามและง่ายต่อการทาสี
4. ประกอบบานเกล็ดไม้
ประกอบกรอบไม้ให้แน่นหนาด้วยกาวไม้และสกรู
ติดตั้งแผ่นไม้บานเกล็ดเข้ากับกรอบ โดยวางแผ่นไม้ในมุมที่กำหนดเพื่อการระบายอากาศ
5. ทาสีหรือเคลือบไม้
เลือกสีหรือสารเคลือบไม้ที่เหมาะสมเพื่อปกป้องบานเกล็ดไม้จากความชื้นและแมลง
เคล็ดลับในการทำบานเกล็ดไม้
เลือกไม้ที่มีคุณภาพเพื่อความคงทน
ใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อลดเวลาในการทำงาน
ตรวจสอบความเรียบร้อยของบานเกล็ดก่อนนำไปติดตั้ง
การทำ บานเกล็ดไม้ ด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีอุปกรณ์และขั้นตอนที่ถูกต้อง นอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังได้บานเกล็ดไม้ที่ตรงใจและเหมาะกับบ้านของคุณอีกด้วย[4]
ประโยชน์ของบานเกล็ดไม้ต่อการระบายอากาศและแสงสว่าง
บานเกล็ดไม้ ไม่เพียงแค่เป็นองค์ประกอบตกแต่งบ้านที่สวยงาม แต่ยังมีประโยชน์ที่โดดเด่นในด้านการปรับปรุงคุณภาพอากาศและการจัดการแสงธรรมชาติในพื้นที่อยู่อาศัย หากคุณกำลังมองหาวัสดุที่ตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและการใช้งาน บานเกล็ดไม้คือคำตอบที่ลงตัว[5]
1. ช่วยระบายอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บานเกล็ดไม้ถูกออกแบบให้มีช่องว่างระหว่างแผ่นไม้ ซึ่งช่วยให้ลมถ่ายเทผ่านได้ง่ายโดยไม่ต้องเปิดหน้าต่างกว้างจนเกินไป เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการการระบายอากาศอย่างต่อเนื่อง เช่น ในพื้นที่ร้อนชื้น การมีบานเกล็ดไม้ช่วยลดความอับชื้นและป้องกันการสะสมของกลิ่นไม่พึงประสงค์
ข้อดี:
ระบายอากาศได้ดีโดยไม่ลดความเป็นส่วนตัว
เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการการถ่ายเทอากาศ เช่น ห้องครัวหรือห้องน้ำ
2. ควบคุมแสงธรรมชาติอย่างชาญฉลาด
บานเกล็ดไม้สามารถปรับมุมแผ่นไม้เพื่อควบคุมปริมาณแสงที่เข้าสู่บ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดรับแสงในช่วงเช้าหรือปิดเพื่อกันแสงจ้าในตอนบ่าย คุณสามารถปรับบานเกล็ดไม้ให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
ข้อดี:
ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงสว่าง
สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นด้วยแสงธรรมชาติ
3. ลดความร้อนและประหยัดพลังงาน
ด้วยคุณสมบัติของไม้ที่เป็นฉนวนความร้อน บานเกล็ดไม้ช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่บ้านในช่วงกลางวัน และช่วยให้บ้านเย็นขึ้นโดยธรรมชาติ นอกจากนี้ การระบายอากาศที่ดีจากบานเกล็ดไม้ยังช่วยลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ส่งผลให้ประหยัดพลังงานในระยะยาว
4. เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
แม้จะช่วยระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้ดี บานเกล็ดไม้ยังให้ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เนื่องจากคุณสามารถปรับบานเกล็ดเพื่อให้มองเห็นภายนอกได้โดยที่คนภายนอกไม่สามารถมองเข้ามาได้
5. สร้างบรรยากาศธรรมชาติในบ้าน
บานเกล็ดไม้ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ และช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและผ่อนคลายในพื้นที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะติดตั้งในห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือพื้นที่ภายนอก
เคล็ดลับการเลือกบานเกล็ดไม้ให้เหมาะสม
เลือกไม้คุณภาพสูง: เช่น ไม้สักหรือไม้สน เพื่อความทนทานและสวยงาม
ออกแบบตามความต้องการ: เลือกขนาดและสไตล์ของบานเกล็ดไม้ที่เหมาะกับพื้นที่ของคุณ
ดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ: เช่น การทาน้ำยาเคลือบไม้เพื่อป้องกันความชื้นและแมลง
บานเกล็ดไม้ เป็นตัวเลือกที่ครบครันในเรื่องความสวยงามและการใช้งาน ช่วยเพิ่มการระบายอากาศและควบคุมแสงธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มความสบายและประหยัดพลังงานให้กับบ้านของคุณ[5]
จุดเด่นของการทำบานเกล็ดไม้ที่คุณควรรู้
บานเกล็ดไม้ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการตกแต่งบ้าน ไม่เพียงแค่เพิ่มความสวยงาม แต่ยังมอบประโยชน์หลากหลายที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดี หากคุณกำลังมองหาไอเดียเกี่ยวกับบานเกล็ดไม้ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงจุดเด่นของบานเกล็ดไม้มากยิ่งขึ้น[1]
1. ความสวยงามและความคลาสสิก
หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของ บานเกล็ดไม้ คือความสวยงามที่มาพร้อมกับความคลาสสิก ไม้เป็นวัสดุธรรมชาติที่ให้ความอบอุ่นและสามารถเพิ่มเสน่ห์ให้กับบ้านได้ในทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิก หรือไทยดั้งเดิม
2. การระบายอากาศที่ยอดเยี่ยม
บานเกล็ดไม้ช่วยในการระบายอากาศภายในบ้านได้ดี เนื่องจากการออกแบบที่มีช่องว่างระหว่างแผ่นไม้ ช่วยให้ลมถ่ายเทสะดวก โดยไม่ต้องเปิดหน้าต่างกว้างจนเกินไป
3. การควบคุมแสงธรรมชาติ
อีกจุดเด่นที่โดดเด่นของ บานเกล็ดไม้ คือสามารถปรับมุมของแผ่นไม้เพื่อควบคุมปริมาณแสงธรรมชาติที่เข้าสู่บ้านได้ ช่วยลดความร้อนและสร้างบรรยากาศที่สบายในพื้นที่อยู่อาศัย
4. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
หากคุณเลือกใช้ไม้ที่มาจากแหล่งที่มีการปลูกทดแทนอย่างยั่งยืน บานเกล็ดไม้ก็เป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุสังเคราะห์
5. ความหลากหลายในการออกแบบ
บานเกล็ดไม้สามารถออกแบบได้หลากหลาย ทั้งในแง่ของขนาด สีสัน และรูปแบบที่เหมาะสมกับสไตล์ของบ้าน นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะของคุณได้
6. ความทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน
ด้วยการดูแลที่เหมาะสม บานเกล็ดไม้ สามารถมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และยังคงความสวยงามเหมือนใหม่อยู่เสมอ การเคลือบสารกันน้ำและกันปลวกจะช่วยปกป้องไม้ให้คงทนต่อสภาพอากาศ
7. เพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน
การติดตั้งบานเกล็ดไม้ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน เนื่องจากวัสดุไม้เป็นที่ต้องการและให้ความรู้สึกหรูหรา การมีบานเกล็ดไม้ในบ้านสามารถเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชมหรือผู้ซื้อในอนาคต
เคล็ดลับการดูแลบานเกล็ดไม้
ทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เป็นประจำ
เคลือบสารกันปลวกทุก 6-12 เดือน
หลีกเลี่ยงการโดนน้ำมากเกินไปเพื่อลดการบวมหรือโก่งของไม้
บานเกล็ดไม้ ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังมีจุดเด่นในแง่การใช้งานและความคุ้มค่าที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์และประโยชน์ให้กับบ้านของคุณได้อย่างครบถ้วน หากคุณกำลังมองหาทางเลือกในการปรับปรุงบ้าน บานเกล็ดไม้คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม[1]
ข้อดีของการทำบานเกล็ดไม้
1. มีความแข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน โดยเฉพาะไม้แท้เนื้อแข็ง เมื่อนำมาทำบานเกล็ดไม้ก็จะมีความแข็งแรงและทนทานเป็นพิเศษ และไม้บางชนิดก็มีคุณสมบัติกันปลวกและแมลงได้ด้วย โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปีเลยทีเดียว
2. ลวดลายดูเป็นธรรมชาติ ถือเป็นข้อดีของบานเกล็ด ไม้ ที่หลายคนให้ความสำคัญ เพราะการใช้วัสดุอย่างไม้มาตกแต่งบ้านจะช่วยให้บ้านดูอบอุ่น และสวยงามเป็นธรรมชาติ ซึ่งไม้แต่ละชนิดจะมีลวดลายที่แตกต่างกัน นั่นจึงทำให้ดูมีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเข้ากับบ้านสไตล์คลาสสิคและโมเดิร์นได้เป็นอย่างดี
3. ดูแลทำความสะอาดง่าย เนื่องจากไม้เป็นวัสดุที่มีผิวลื่น สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ ด้วยการปัดฝุ่นเบา ๆ จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ มาเช็ดอีกครั้ง เพียงเท่านี้ก็จะทำให้บานเกล็ดไม้สะอาดและดูดีขึ้นแล้ว
4.ตัวเลือกที่ดีสำหรับคนแพ้ฝุ่น เพราะไม้เป็นวัสดุที่มีผิวลื่น ไม่ค่อยกักเก็บฝุ่นเหมือนวัสดุอื่น ๆ มากนัก จึงทำให้ปลอดแหล่งสะสมเชื้อโรค อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย เหมาะสำหรับคนแพ้ฝุ่นหรือเป็นภูมิแพ้ แต่ต้องการเปิดหน้าต่างรับแสงสว่างจากภายนอก [1]
ข้อเสียของการทำบานเกล็ดไม้
1. ราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากไม้แท้เป็นวัสดุที่หาได้ค่อนข้างยาก ในขณะที่ความต้องการก็มีอยู่มาก เพราะไม้เป็นวัสดุจากธรรมชาติที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญยังมีความแข็งแรงและทนทานอีกด้วย จึงทำให้บานเกล็ดไม้มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับบานเกล็ดที่ทำจากวัสดุอื่น
2. อาจปิดได้ไม่สนิทเหมือนหน้าต่างทั่วไป เนื่องจากบานเกล็ด ไม้ จะมีรอยต่อระหว่างบานเกล็ดค่อนข้างเยอะ จึงทำให้ปิดได้ไม่สนิทเหมือนกับหน้าต่างทั่ว ๆ ไป และจะไม่ค่อยเหมาะกับห้องที่มีการติดตั้งและใช้งานเครื่องปรับอากาศ
3.มีประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงต่ำ อย่างที่ทราบกันดีว่าบ้านไม้กับบ้านปูนจะแตกต่างกัน โดยบ้านไม้จะเก็บเสียงได้น้อยกว่าบ้านปูน เช่นเดียวกับบานเกล็ดไม้มักจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันเสียงต่ำ ซึ่งทำให้ขาดความเป็นส่วนตัวอยู่พอสมควร [1]
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่า การทำบานเกล็ดไม้จะช่วยประหยัดพื้นที่ภายในบ้านได้พอสมควร เราสามารถเปิดบานเกล็ดเพื่อรับลมและแสงแดด หรือเปิดเพื่อระบายอากาศภายในบ้านได้ ด้วยความที่เป็นบานเกล็ดไม้ จึงทำความสะอาดได้ง่าย เพราะอัตราการสะสมฝุ่นละอองนั้นมีค่อนข้างน้อย นอกจากนี้ลวดลายของไม้แต่ละชนิดจะดูสวยงาม มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ในแบบฉบับของตัวเองด้วย สำหรับใครที่ชื่นชอบงานไม้ ร้าน TWOMENWOOD ก็มีสินค้าไม้เก่า และไม้แปรรูปชนิดต่าง ๆ พร้อมจำหน่ายและจัดส่งทั่วประเทศด้วย สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี
รับทำบานเกล็ดไม้
สามารถส่งแบบมาเพื่อตรวจสอบ ราคาได้ ราคาขึ้นอยู่กับขนาด และชนิดไม้ ถาพตัวอย่างข้างล่างจะเป็นแบบที่ลูกค้าส่งมาเพื่อสั่งทำ เวลาในการทำขึ้นอยู่กับ จำนวน ขนาด และรูปแบบ
หมายเหตุ ร้านเราจะขายไม้เก่าไทย เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็ง สามารถตรวจเช็คราคาได้ทางข้างล่าง