สินค้า
ไม้จริง ไม้ธรรมชาติ คืออะไร เหตุใดจึงควรนำมาใช้งาน
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า คนไทยมีการนำไม้มาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากในอดีตไม้ถือเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายที่สุด เพราะได้จากต้นไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ทว่าในปัจจุบันไม้ จริง หรือไม้ที่ได้จากธรรมชาตินั้นก็เริ่มหาได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีการตัดมาใช้งานจำนวนมาก ในขณะที่การปลูกไม้ทดแทนนั้นมีน้อย จึงเป็นเหตุที่ทำให้วัสดุที่ได้จากธรรมชาติอย่างไม้มีจำนวนลดลง โดยไม้สามารถนำมาใช้เป็นโครงสร้างของอาคารบ้านเรือน ตกแต่งได้ทั้งภายในและภายนอก อีกทั้งยังสามารถนำมาทำเป็นเครื่องเรือน และเครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ ได้อีกด้วย [1]
บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับไม้จริง ซึ่งในปัจจุบันถือเป็นไม้ที่หาได้ค่อนข้างยาก จึงทำให้หลายคนหันไปใช้วัสดุสังเคราะห์ หรือวัสดุประเภทอื่นแทนการใช้ไม้จริง สำหรับผู้ที่ต้องการไม้จริงเพื่อนำไปใช้สร้างบ้านเรือน ตกแต่งบ้านทั้งภายในและภายนอก หรือใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ประเภทต่าง ๆ โรงไม้ของเราก็มีสินค้าไม้จริงพร้อมจำหน่ายและจัดส่งทั่วประเทศด้วย ถ้าหากใครที่ยังไม่เข้าใจว่าไม้จริงคืออะไร มาทำความรู้จักกับไม้จริงกันเลย
ไม้จริงคืออะไร? รู้จักวัสดุธรรมชาติที่เพิ่มความสวยงามและทนทานให้บ้านของคุณ
ไม้จริง เป็นหนึ่งในวัสดุธรรมชาติที่นิยมใช้ในงานตกแต่งบ้านและก่อสร้าง ด้วยความสวยงามตามธรรมชาติและความทนทานที่โดดเด่น ทำให้ไม้จริงได้รับความนิยมมายาวนาน ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจว่าไม้จริงคืออะไร รวมถึงคุณสมบัติ ข้อดี และการใช้งานที่เหมาะสม[2]
ไม้จริงคืออะไร?
ไม้จริง (Solid Wood) คือวัสดุที่ได้มาจากการตัดไม้โดยตรงจากต้นไม้ โดยไม่มีการผสมหรือปรับแต่งด้วยวัสดุสังเคราะห์อื่น ๆ โครงสร้างของไม้จริงเป็นเนื้อไม้แท้ทั้งหมด ซึ่งทำให้มีความแข็งแรงและคงทนสูง
ไม้จริงแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก:
ไม้เนื้อแข็ง (Hardwood): เช่น ไม้สัก ไม้แดง ไม้เต็ง มีความแข็งแรงสูงและเหมาะสำหรับงานโครงสร้างหรือเฟอร์นิเจอร์
ไม้เนื้ออ่อน (Softwood): เช่น ไม้สน ไม้ยางพารา มีน้ำหนักเบาและเหมาะสำหรับงานตกแต่ง
คุณสมบัติเด่นของไม้จริง
1. ความแข็งแรงและทนทาน
ไม้จริงมีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงกระแทก เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความมั่นคง เช่น พื้นไม้ โครงสร้างบ้าน
2. ลวดลายธรรมชาติที่สวยงาม
ไม้จริงมีลายไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำกันในแต่ละชิ้น ทำให้เพิ่มความสวยงามและเสน่ห์ให้กับงานตกแต่ง
3. การเป็นฉนวนธรรมชาติ
ไม้จริงช่วยรักษาอุณหภูมิภายในบ้านให้เย็นในฤดูร้อนและอบอุ่นในฤดูหนาว
4. ความหลากหลายในงานใช้งาน
ไม้จริงสามารถใช้ได้ทั้งในงานโครงสร้าง งานตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ เช่น ประตู หน้าต่าง พื้น ผนัง
ประเภทของไม้จริงและการใช้งานที่เหมาะสม เลือกวัสดุธรรมชาติที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ไม้จริง ถือเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานในงานก่อสร้างและตกแต่งบ้าน ด้วยความแข็งแรง สวยงาม และลวดลายเฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากวัสดุอื่น ๆ ในบทความนี้ เราจะพาคุณมารู้จักประเภทของไม้จริง และการใช้งานที่เหมาะสมในแต่ละแบบ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ประเภทของไม้จริง
ไม้จริงสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามคุณสมบัติของเนื้อไม้:
1. ไม้เนื้อแข็ง (Hardwood)
ไม้เนื้อแข็งเป็นไม้ที่มีความแข็งแรง ทนทาน และมักมีอายุการใช้งานยาวนาน เนื้อไม้แน่น ละเอียด เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความมั่นคง
ตัวอย่างไม้เนื้อแข็ง:
ไม้สัก: มีลายไม้สวยงาม ทนทานต่อปลวกและเชื้อรา เหมาะสำหรับเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่ง
ไม้เต็ง: แข็งแรงมาก ทนต่อแรงกระแทก เหมาะสำหรับโครงสร้างบ้านหรือพื้นไม้
ไม้แดง: มีความแข็งแกร่ง ทนต่อความชื้น นิยมใช้ในงานโครงสร้าง เช่น เสาและคาน
ไม้ประดู่: สีสันสวยงาม เนื้อไม้ละเอียด เหมาะสำหรับงานตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์
2. ไม้เนื้ออ่อน (Softwood)
ไม้เนื้ออ่อนมีน้ำหนักเบา ง่ายต่อการตัดและประกอบ เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องการรองรับน้ำหนักมาก
ตัวอย่างไม้เนื้ออ่อน:
ไม้สน: ลายไม้โดดเด่น น้ำหนักเบา นิยมใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง
ไม้ยางพารา: ราคาเข้าถึงง่าย ขึ้นรูปง่าย เหมาะสำหรับงานตกแต่งภายใน
ไม้ฉำฉา: เนื้อไม้เบา มีลายไม้ธรรมชาติ นิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็ก
การใช้งานที่เหมาะสมของไม้จริง
1. งานโครงสร้าง
ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เต็ง ไม้แดง และไม้ประดู่ เหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรง เช่น เสา คาน หรือโครงหลังคา
2. งานพื้นไม้
ไม้สักและไม้เต็งเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับพื้นบ้าน เนื่องจากมีความทนทานต่อการใช้งานและความชื้น
3. งานเฟอร์นิเจอร์
ไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้สนและไม้ยางพารา เหมาะสำหรับการทำเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ ตู้ และชั้นวาง เนื่องจากน้ำหนักเบาและสามารถขึ้นรูปได้ง่าย
4. งานตกแต่งภายใน
ไม้สนและไม้สักเหมาะสำหรับงานตกแต่งผนังหรือฝ้าเพดาน เพราะให้ลวดลายที่สวยงามและเพิ่มความอบอุ่นให้กับบ้าน
5. งานภายนอกอาคาร
ไม้แดงและไม้เต็งเหมาะสำหรับงานภายนอก เช่น รั้วหรือพื้นระเบียง เพราะมีความทนทานต่อสภาพอากาศ
ข้อดีของการใช้ไม้จริงในงานตกแต่งและก่อสร้าง
ความสวยงาม: ไม้จริงมีลายไม้ธรรมชาติที่โดดเด่นและไม่มีวัสดุอื่นใดเลียนแบบได้
ความแข็งแรง: ทนต่อแรงกระแทกและการใช้งานหนัก
ความยืดหยุ่นในการใช้งาน: ใช้ได้หลากหลายตั้งแต่งานโครงสร้างจนถึงงานตกแต่ง
การเลือกประเภทไม้จริงให้เหมาะสม
พิจารณางบประมาณ: ไม้เนื้อแข็งมักมีราคาสูงกว่าไม้เนื้ออ่อน
คำนึงถึงการใช้งาน: เลือกไม้ที่เหมาะกับลักษณะงาน เช่น งานโครงสร้างควรใช้ไม้เนื้อแข็ง
ตรวจสอบคุณภาพ: เลือกไม้ที่มีเนื้อแน่นและปราศจากรอยแตกร้าว
ไม้จริง เป็นวัสดุธรรมชาติที่มีความหลากหลายในประเภทและการใช้งาน การเลือกไม้ให้เหมาะสมกับงานเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ทั้งความสวยงามและความคงทน การรู้จักประเภทของไม้จริง เช่น ไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อน จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบ้านของคุณ
ความแตกต่างระหว่างไม้จริงกับไม้เทียม เลือกวัสดุที่ใช่สำหรับบ้านของคุณ
การเลือกใช้วัสดุในงานตกแต่งบ้านและก่อสร้างเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อพูดถึง ไม้จริง และ ไม้เทียม ซึ่งทั้งสองประเภทมีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างไม้จริงและไม้เทียม เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ[3]
ไม้จริงคืออะไร?
ไม้จริง เป็นวัสดุธรรมชาติที่ได้จากต้นไม้โดยตรง มีโครงสร้างเนื้อไม้แท้ 100% ทำให้มีความแข็งแรง ทนทาน และมีลวดลายสวยงามตามธรรมชาติ
ข้อดีของไม้จริง
ลวดลายและสีสันที่เป็นเอกลักษณ์
มีความแข็งแรงและอายุการใช้งานยาวนาน
ให้สัมผัสที่อบอุ่นและหรูหรา
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทาน เช่น โครงสร้างบ้าน เฟอร์นิเจอร์
ข้อเสียของไม้จริง
ราคาสูงเมื่อเทียบกับไม้เทียม
ต้องการการดูแลรักษา เช่น การเคลือบกันปลวกและความชื้น
น้ำหนักมาก ทำให้ติดตั้งยากกว่า
ไม้เทียมคืออะไร?
ไม้เทียม เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทดแทนไม้จริง โดยมักผลิตจากพลาสติก ไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือวัสดุผสมอื่น ๆ
ข้อดีของไม้เทียม
ราคาเข้าถึงง่ายกว่ากว่าไม้จริง
ทนทานต่อปลวก เชื้อรา และความชื้น
น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
มีสีสันและพื้นผิวที่หลากหลาย
ข้อเสียของไม้เทียม
ขาดลวดลายธรรมชาติแบบไม้จริง
อายุการใช้งานสั้นกว่าในบางประเภท
หากผลิตคุณภาพต่ำ อาจแตกร้าวหรือซีดจางเมื่อใช้งานไปนาน ๆ
ควรเลือกใช้ไม้จริงหรือไม้เทียม?
กรณีที่ควรเลือกไม้จริง:
งานที่ต้องการความหรูหรา เช่น พื้น เฟอร์นิเจอร์ หรือประตูไม้
งานที่เน้นความแข็งแรงและความคงทน
ต้องการความรู้สึกธรรมชาติและความอบอุ่น
กรณีที่ควรเลือกไม้เทียม:
งานที่ต้องการลดต้นทุน เช่น ผนัง รั้ว หรือระเบียง
งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ หรือภายนอกอาคาร
ต้องการลดการดูแลรักษา
การดูแลไม้จริงและไม้เทียม
การดูแลไม้จริง:
เคลือบน้ำยากันปลวกและเชื้อรา
ทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ
หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดและน้ำเป็นเวลานาน
การดูแลไม้เทียม:
ใช้เพียงน้ำเปล่าหรือผงซักฟอกอ่อน ๆ ในการทำความสะอาด
ไม่ต้องเคลือบน้ำยากันปลวก
ไม้จริง และ ไม้เทียม ต่างมีข้อดีและข้อเสียที่เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน หากคุณต้องการวัสดุที่สวยงามและทนทานในระยะยาว ไม้จริงคือตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากต้องการลดต้นทุนและง่ายต่อการดูแล ไม้เทียมเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์[3]
การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยเพิ่มความสวยงามให้บ้านของคุณ แต่ยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาวอีกด้วย
ไม้จริงแตกต่างกับไม้ประกอบอย่างไร? เลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
ไม้จริง และ ไม้ประกอบ เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในงานก่อสร้างและตกแต่งบ้าน ทั้งสองประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกับงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างระหว่างไม้จริงและไม้ประกอบ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
ไม้จริงคืออะไร?
ไม้จริงคือวัสดุที่ได้จากต้นไม้ธรรมชาติ โดยไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปหรือการประกอบเพิ่มเติม โดดเด่นด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์และความแข็งแรงที่ยาวนาน
ข้อดีของไม้จริง:
ลวดลายธรรมชาติ: ให้ความรู้สึกอบอุ่น หรูหรา และไม่เหมือนใคร
ความแข็งแรง: ทนต่อการใช้งานหนักและแรงกระแทก
อายุการใช้งานยาวนาน: เมื่อได้รับการดูแลที่เหมาะสม
ข้อเสียของไม้จริง:
ราคาแพง: ไม้จริงมักมีราคาสูงกว่าไม้ประกอบ
น้ำหนักมาก: ทำให้การขนย้ายและติดตั้งยากขึ้น
ต้องการการดูแล: เช่น การเคลือบน้ำยากันปลวกและเชื้อรา
ไม้ประกอบคืออะไร?
ไม้ประกอบ หรือที่รู้จักในชื่อไม้แปรรูป (Engineered Wood) คือวัสดุที่ผลิตจากเศษไม้จริง ผสมกับสารยึดเกาะหรือวัสดุอื่น ๆ ผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรม เช่น การอัดหรือการเคลือบ
ตัวอย่างของไม้ประกอบ:
ไม้ MDF: ทำจากเศษไม้ละเอียดอัดแน่น เหมาะสำหรับงานตกแต่งภายใน
ไม้อัด: ชั้นไม้บาง ๆ ประกบกันด้วยกาว เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์
ไม้ปาร์ติเกิลบอร์ด: ผลิตจากเศษไม้ขนาดเล็ก อัดด้วยกาว เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก
ข้อดีของไม้ประกอบ:
ราคาถูกกว่าไม้จริง: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการประหยัดต้นทุน
น้ำหนักเบา: ติดตั้งและขนย้ายได้ง่าย
รูปแบบหลากหลาย: มีให้เลือกหลายขนาดและพื้นผิว
ข้อเสียของไม้ประกอบ:
ความทนทานน้อยกว่า: ไม่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
อายุการใช้งานสั้นกว่า: อาจแตกร้าวหรือเสียรูปเมื่อใช้งานไปนาน ๆ
การเลือกใช้งานไม้จริงและไม้ประกอบ
เมื่อควรเลือกไม้จริง:
งานที่ต้องการความแข็งแรง เช่น โครงสร้างบ้าน พื้นไม้ หรือประตู
งานที่ต้องการความหรูหราและลวดลายธรรมชาติ เช่น เฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง
งานภายนอกอาคาร เช่น รั้วหรือพื้นระเบียง
เมื่อควรเลือกไม้ประกอบ:
งานที่ต้องการประหยัดต้นทุน เช่น ผนัง เฟอร์นิเจอร์ทั่วไป
งานที่ต้องการน้ำหนักเบา เช่น ของตกแต่งภายใน
งานที่ไม่ต้องการความทนทานสูง
ไม้จริงและไม้ประกอบมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน และเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับงบประมาณ ลักษณะงาน และความต้องการในด้านความสวยงามและความคงทน หากต้องการความเป็นธรรมชาติและความแข็งแรงในระยะยาว ไม้จริงเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการประหยัดและใช้งานในระยะสั้น ไม้ประกอบเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์[4]
ข้อดีของ ไม้จริง
• ลวดลายสวยงามและดูเป็นธรรมชาติ เรียกว่าเป็นจุดเด่นของไม้จริงเลยก็ว่าได้ ซึ่งลายไม้จริงบางชนิดจะมีความละเอียดสูง ทำให้สามารถเลียนแบบได้ค่อนข้างยากและแต่ละแผ่นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
• มีความแข็งแรง ทนทาน อย่างที่ทราบว่าไม้จริงจะมีทั้งไม้เนื้ออ่อนและไม้เนื้อแข็ง แต่โดยรวมแล้วไม้จริงแทบทุกชนิดต่างมีความแข็งแรงและทนทาน ต่อให้เป็นไม้เนื้ออ่อนก็ยังคงสามารถนำไปใช้ตกแต่งบ้าน และทำเฟอร์นิเจอร์ได้
• สามารถป้องกันและโดนน้ำได้ ไม้จริงหลายชนิดจะมีคุณสมบัติที่ทนน้ำและความชื้น บางชนิดทนกับทุกสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี แต่ไม้ชนิดนั้นจะต้องเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีคุณภาพและมีอายุนานหลายปี
• ใช้งานได้อย่างหลากหลาย อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าไม้จริงแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างอาคารบ้านเรือน การตกแต่งภายนอกและภายใน ทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องกสิกรรม เครื่องดนตรี รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ ด้วย
ข้อเสียของ ไม้จริง
• ราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะไม้บางชนิดที่หาได้ยาก บวกกับเป็นไม้คุณภาพดีและมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานก็จะยิ่งแพงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากทรัพยากรไม้ในปัจจุบันหาได้ค่อนข้างยาก จึงทำให้ไม้จริงที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้เป็นไม้ปลูก หรือไม้นำเข้าจากต่างประเทศ
• มีน้ำหนักมาก ไม้จริงหลายชนิด โดยเฉพาะไม้เนื้อแข็งที่มีน้ำหนักมากจะสามารถรับน้ำหนักได้สูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันการที่ไม้มีน้ำหนักมากเกินไปก็จะทำให้ผู้ใช้ขนย้ายได้อย่างลำบาก
• ไม้อายุน้อยจะไม่ค่อยมีคุณภาพ ด้วยความที่จำนวนไม้จริงในธรรมชาติมีน้อยลงไปทุกที จึงทำให้ผู้คนหันมาปลูกไม้ชนิดต่าง ๆ ทดแทนเพื่อหวังว่าจะตัดไปใช้งานในอนาคต แต่ไม้จริงที่มีคุณภาพและเหมาะกับการนำมาใช้งานนั้นจะต้องเป็นไม้ที่มีอายุหลายสิบปี ซึ่งต้องรอให้ไม้โตนานพอสมควร บางคนจึงตัดไม้อายุน้อยมาใช้แทน แต่ในเรื่องของคุณภาพก็ยังได้ไม่เต็มที่
• ปัญหาเรื่องปลวกหรือแมลง ไม้บางชนิดอาจมีคุณสมบัติบางอย่างที่ทำให้ปลวกและแมลงไม่เข้ามาทำลายได้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าไม้จริงจะไม่มีโอกาสพบเจอกับปัญหานี้เลย สำหรับไม้เนื้ออ่อนหรือไม้อายุน้อยที่มีส่วนของกระพี้ค่อนข้างมาก มีโอกาสที่ปลวกและแมลงจะเข้าไปทำลายสูง [5]
จุดเด่นของไม้จริง
ไม้จริง แต่ละชนิดจะมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยเฉพาะลวดลายและสีสันของไม้จะเห็นได้ว่าไม้จริงแต่ละชนิดจะถูกธรรมชาติรังสรรค์มาแบบไม่ซ้ำกันเลย ซึ่งลวดลายและพื้นผิวของไม้แต่ละชนิดก็จะแตกต่างกันออกไปนอกจากนี้ไม้จริงยังมีความแข็งแรงและทนทาน ซึ่งถ้าหากเป็นไม้เก่าหรือไม้ที่มีอายุหลายสิบปีก็จะยิ่งคงทนและใช้งานได้อย่างยาวนานอีกด้วย
มาถึงตรงนี้แล้ว หวังว่าทุกคนจะได้ทราบแล้วว่า ไม้ จริง ดีอย่างไร และมีเหตุผลอะไรที่ควรใช้ไม้จริงในการสร้างบ้าน และทำเฟอร์นิเจอร์ ต้องบอกว่าในปัจจุบันจำนวนไม้จริงที่มีคุณภาพนั้นหาได้ค่อนข้างยาก ทำให้มีการผลิตไม้เทียมเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ของไม้จริง สามารถแวะดูสินค้าไม้เก่า และไม้แปรรูปชนิดอื่น ๆ จาก TWOMENWOOD ของเราได้เลย สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี