สินค้าไม้เก่า
ไม้เก่าคืออะไร และทำไมถึงได้รับความนิยม เสน่ห์แห่งวัสดุธรรมชาติที่ไม่เคยล้าสมัย
ไม้เก่า ถือเป็นวัสดุที่มีเอกลักษณ์และคุณค่าเฉพาะตัว ด้วยร่องรอยการใช้งานที่สะท้อนประวัติศาสตร์และเสน่ห์จากธรรมชาติ ไม้เก่าจึงเป็นที่นิยมอย่างมากในงานตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักไม้เก่าและเหตุผลที่ทำให้มันยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง[1]
ไม้เก่าคืออะไร?
ไม้เก่า คือไม้ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วและถูกนำกลับมาใช้ใหม่ มักได้มาจากบ้านเก่า อาคารยุ้งฉาง หรือโครงสร้างอื่น ๆ ที่ถูกรื้อถอน ไม้เหล่านี้จะมีลักษณะเฉพาะ เช่น ลวดลายที่โดดเด่น ร่องรอยจากการใช้งาน และสีสันที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา[1]
คุณสมบัติเด่นของไม้เก่า:
ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์: การเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติทำให้ไม้เก่ามีลวดลายที่หาไม่ได้จากไม้ใหม่
ความแข็งแรง: ผ่านกระบวนการบ่มตามธรรมชาติ ทำให้เนื้อไม้แน่นและแข็งแรง
เรื่องราวและประวัติศาสตร์: ไม้เก่ามักมีเรื่องราวเฉพาะตัว สร้างความทรงจำที่มีคุณค่า
ทำไมไม้เก่าถึงได้รับความนิยม?
1. ความสวยงามที่เป็นธรรมชาติ
ไม้เก่ามีความสวยงามที่มาจากธรรมชาติและกาลเวลา ร่องรอยของตะปู รอยขีดข่วน หรือสีที่จางลง กลายเป็นจุดเด่นที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับงานตกแต่ง
2. ความทนทานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ไม้เก่าผ่านการใช้งานและกระบวนการบ่มตามธรรมชาติมาแล้ว ทำให้มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว
3. สร้างบรรยากาศอบอุ่นและคลาสสิก
ไม้เก่ามักถูกนำมาใช้ในงานตกแต่งสไตล์วินเทจหรือลอฟท์ ซึ่งช่วยเพิ่มความอบอุ่นและสร้างบรรยากาศที่โดดเด่นให้กับพื้นที่
4. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การนำไม้เก่ามาใช้ใหม่ช่วยลดการตัดต้นไม้ใหม่และลดขยะจากวัสดุที่ถูกทิ้ง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
5. เพิ่มคุณค่าให้กับบ้านและเฟอร์นิเจอร์
เฟอร์นิเจอร์หรือการตกแต่งที่ใช้ไม้เก่ามักมีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้จากวัสดุอื่น
การใช้งานไม้เก่าในงานตกแต่ง
1. เฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า
โต๊ะ ตู้ เตียง และเก้าอี้ที่ทำจากไม้เก่าให้ความรู้สึกหรูหราและมีเอกลักษณ์
2. การตกแต่งผนังและพื้น
ไม้เก่าสามารถนำมาตกแต่งผนังหรือพื้นเพื่อเพิ่มความอบอุ่นและสร้างบรรยากาศที่ดูหรูหรา
3. ประตูและหน้าต่าง
ไม้เก่าเหมาะสำหรับการทำประตูหรือหน้าต่างที่ต้องการความทนทานและลวดลายธรรมชาติ
ข้อควรพิจารณาเมื่อเลือกใช้ไม้เก่า
ตรวจสอบคุณภาพ: เลือกไม้ที่ไม่มีรอยแตกหรือเสียหายมากเกินไป
ป้องกันปลวกและแมลง: ใช้สารป้องกันแมลงหรือเคลือบน้ำยารักษาไม้
เลือกแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้: เพื่อให้มั่นใจว่าได้ไม้เก่าคุณภาพดี
ไม้เก่าเป็นวัสดุที่ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังเต็มไปด้วยคุณค่าและเรื่องราวในตัวเอง ด้วยความแข็งแรง ลวดลายธรรมชาติ และเสน่ห์เฉพาะตัว ไม้เก่าจึงยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในงานตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ การเลือกใช้ไม้เก่าไม่เพียงช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่ แต่ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย[1]
จากข้อมูลของกรมป่าไม้ได้ระบุไว้ว่า ไม้เป็นวัสดุที่มีการจำแนกประเภทไว้อย่างชัดเจน โดยหลัก ๆ ไม้จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ไม้เนื้ออ่อน (ความทนทานน้อยกว่า 2 ปี), ไม้เนื้อแข็งปานกลาง (ความทนทานอยู่ในระหว่าง 2–6 ปี) และไม้เนื้อแข็ง (ความทนทานต้องมากกว่า 6 ปี) ซึ่งเมื่อเทียบกับวัสดุประเภทอื่น ๆ แล้ว ไม้ถือเป็นวัสดุท้องถิ่นที่ได้จากธรรมชาติ โดยลวดลายและสีสันของไม้จะเกิดจากธรรมชาติที่ได้รังสรรค์ออกมา แต่ด้วยความที่จำนวนไม้จริงในปัจจุบันมีน้อยลง ทำให้ผู้คนหันมาผลิตไม้เทียมเพื่อใช้แทนไม้จริงเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามคุณสมบัติของไม้ทั้ง 2 ประเภทจะไม่เหมือนกัน [2]
ทำความรู้จักกับไม้เก่า
ไม้เก่า เป็นไม้ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ส่วนใหญ่ได้มาจากการรื้อถอนอาคารบ้านเรือนที่ใช้ไม้เป็นส่วนประกอบ หรืออาจเป็นไม้เหลือทิ้งจากการใช้งานในด้านอื่นก็ได้เช่นกัน โดยเฉพาะไม้เสาไฟฟ้า ไม้พาเลท และไม้ลัง ซึ่งผ่านการใช้งานมาแล้วในอดีต ไม้เหล่านี้มักมีตำหนิจากการใช้งานเมื่อเวลาผ่านไปนานหลายปีก็จะทำให้เนื้อไม้มีความทนทานมากขึ้น ความชื้นในตัวไม้ก็ลดน้อยลง ไม่บิด โก่งงอ และโช์ลวดลายสวยงามอย่างชัดเจน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไม้แต่ละชนิดด้วย ถึงแม้ว่าสภาพภายนอกจะดูเก่าและไม่สวยเท่าไม้ใหม่ แต่ไม้เก่าก็ถือเป็นไม้ที่มีคุณภาพดีที่สุด ซึ่งโรงไม้ของเราก็มีสินค้าไม้เก่าคุณภาพดีให้คุณสามารถเลือกซื้อเพื่อนำไปใช้งานในด้านต่าง ๆ ได้ด้วย [3]
ประเภทของไม้เก่าและการนำไปใช้งาน แนวทางเลือกใช้ไม้เก่าให้เหมาะกับความต้องการ
ไม้เก่า เป็นวัสดุที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และคุณค่าเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรง ความสวยงามจากลวดลายธรรมชาติ หรือร่องรอยการใช้งานที่สะท้อนเรื่องราวในอดีต บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักประเภทของไม้เก่าและการนำไปใช้งาน เพื่อช่วยให้คุณเลือกไม้เก่าได้อย่างเหมาะสม
ประเภทของไม้เก่า
1. ไม้สักเก่า
ไม้สักเก่าเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีลวดลายงดงามและมีน้ำมันธรรมชาติช่วยป้องกันปลวกและเชื้อรา
การนำไปใช้งาน:
เฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง
งานตกแต่งภายใน เช่น ผนัง พื้น หรือบานประตู
2. ไม้เต็งเก่า
ไม้เต็งเป็นไม้เนื้อแข็งที่ทนทานต่อแรงกระแทกและความชื้น มีสีแดงน้ำตาลที่โดดเด่น
การนำไปใช้งาน:
งานโครงสร้าง เช่น เสา คาน
งานภายนอก เช่น รั้ว หรือพื้นระเบียง
3. ไม้แดงเก่า
ไม้แดงมีเนื้อไม้ที่แข็งแรงและทนทาน เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความแข็งแกร่ง
การนำไปใช้งาน:
พื้นไม้
งานเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นความทนทาน
4. ไม้ประดู่เก่า
ไม้ประดู่เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีลวดลายสวยงาม สีแดงน้ำตาลเข้ม และมีความทนทานสูง
การนำไปใช้งาน:
เฟอร์นิเจอร์ เช่น เก้าอี้ โต๊ะ
งานตกแต่งภายในที่ต้องการความหรูหรา
5. ไม้สนเก่า
ไม้สนเป็นไม้เนื้ออ่อนที่มีสีอ่อนและลวดลายธรรมชาติ เหมาะสำหรับงานตกแต่งเบา ๆ
การนำไปใช้งาน:
งานตกแต่งผนังหรือฝ้าเพดาน
งาน DIY เช่น ชั้นวางของ หรือของตกแต่ง
การนำไม้เก่าไปใช้งาน
1. เฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า
ไม้เก่ามักถูกนำมาใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ เตียง ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีเอกลักษณ์
2. การตกแต่งผนังและพื้น
ผนังไม้เก่าหรือพื้นไม้เก่าสามารถเพิ่มความคลาสสิกและบรรยากาศที่อบอุ่นให้กับบ้าน
3. งานโครงสร้าง
ไม้เก่าเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับงานโครงสร้าง เช่น คาน เสา และหลังคา เนื่องจากมีความแข็งแรงและทนทาน
4. ของตกแต่งบ้าน
ไม้เก่าสามารถนำมาสร้างของตกแต่ง เช่น กรอบรูป โคมไฟ หรือชั้นวางของ
5. งานภายนอกอาคาร
ไม้เก่าเหมาะสำหรับการทำระเบียง ซุ้มไม้ หรือรั้วที่ต้องการความแข็งแรงและลวดลายที่โดดเด่น
ไม้เก่า เป็นวัสดุที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความคุ้มค่า ด้วยประเภทที่หลากหลายและการใช้งานที่ยืดหยุ่น คุณสามารถนำไม้เก่าไปตกแต่งบ้านหรือสร้างเฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การเลือกไม้เก่าที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสวยงามและความอบอุ่นให้กับทุกพื้นที่
เปรียบเทียบไม้เก่ากับไม้ใหม่ ข้อดีข้อเสียที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกใช้
การเลือกใช้ไม้ในงานก่อสร้างหรือตกแต่งบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย โดยเฉพาะการพิจารณาระหว่าง ไม้เก่า และ ไม้ใหม่ ที่มีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและเลือกใช้ไม้ได้เหมาะสมกับความต้องการ[4]
ไม้เก่าคืออะไร?
ไม้เก่าคือไม้ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว มักได้จากการรื้อถอนบ้านเก่า อาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ไม้เหล่านี้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น เช่น ลวดลายธรรมชาติและร่องรอยจากกาลเวลา
ไม้ใหม่คืออะไร?
ไม้ใหม่เป็นไม้ที่ถูกตัดจากต้นไม้ที่เพิ่งถูกแปรรูปเพื่อนำมาใช้งาน โดยยังไม่มีการใช้งานหรือผ่านกระบวนการใด ๆ มาก่อน
ข้อดีของไม้เก่า
ความแข็งแรงและทนทาน
ไม้เก่าผ่านการบ่มตามธรรมชาติ ทำให้เนื้อไม้แน่น แข็งแรง และเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความคงทนเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ลวดลายธรรมชาติ ร่องรอยจากการใช้งาน เช่น รอยตะปูหรือรอยแตกเล็ก ๆ ช่วยเพิ่มเสน่ห์และความคลาสสิกเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การนำไม้เก่ากลับมาใช้ใหม่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ และลดปริมาณขยะเหมาะสำหรับงานตกแต่ง
ไม้เก่าเหมาะสำหรับงานตกแต่งที่ต้องการความวินเทจ คลาสสิก หรือเรียบหรู
ข้อเสียของไม้เก่า
อาจมีความเสียหาย
ไม้เก่าบางส่วนอาจมีรอยผุหรือแตกร้าว ต้องผ่านการซ่อมแซมก่อนนำมาใช้งานความยากในการหาแหล่งจำหน่าย
การหาไม้เก่าคุณภาพดีจากแหล่งที่น่าเชื่อถืออาจเป็นเรื่องที่ท้าทายต้องผ่านการบำบัด
เพื่อป้องกันปัญหาแมลงหรือเชื้อราที่อาจหลงเหลือในเนื้อไม้
ข้อดีของไม้ใหม่
สภาพสมบูรณ์
ไม้ใหม่มีความสดใหม่ ไม่มีรอยผุหรือร่องรอยการใช้งานง่ายต่อการหาและสั่งซื้อ
ไม้ใหม่มีจำหน่ายทั่วไปในตลาด ทำให้สะดวกต่อการใช้งานเหมาะกับงานโครงสร้างที่ต้องการมาตรฐาน
ไม้ใหม่สามารถเลือกขนาดและคุณสมบัติได้ตรงตามความต้องการ
ข้อเสียของไม้ใหม่
ยังไม่ผ่านการบ่มธรรมชาติ
ไม้ใหม่อาจมีการหดตัวหรือบิดงอเมื่อใช้ในระยะยาวขาดเอกลักษณ์และเสน่ห์
ลวดลายของไม้ใหม่มักยังไม่มีความโดดเด่นเหมือนไม้เก่าอาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม
การใช้ไม้ใหม่เพิ่มการตัดต้นไม้ ซึ่งอาจส่งผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ
การเลือกใช้ไม้ให้เหมาะสม
เลือกไม้เก่า
เหมาะสำหรับงานตกแต่งบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความคลาสสิกและเอกลักษณ์เลือกไม้ใหม่
เหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่ต้องการความสมบูรณ์แบบและมาตรฐาน
ไม้เก่าและไม้ใหม่ต่างมีข้อดีข้อเสียที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน หากคุณต้องการวัสดุที่มีเอกลักษณ์และทนทาน ไม้เก่า อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากต้องการความง่ายและรวดเร็วในกระบวนการก่อสร้าง ไม้ใหม่ ก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์[4]
ข้อดีของไม้เก่า
• ไม้เก่าจัดเป็นไม้คุณภาพดีที่สุด เนื่องจากเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและทนทาน ไม่ว่าจะเผชิญกับสภาพอากาศ หรือศัตรูไม้ ก็จะได้รับผลกรทบน้อยกว่าไม้ใหม่
• เนื่องจากเนื้อไม้เก่ามีความแข็งแรงททานเป็นพิเศษ จึงทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่าไม่ใหม่
• หากนำไม้เก่ามาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ โอกาสที่ไม้จะบิดงอนั้นมีค่อนข้างน้อย เพราะไม้เก่าส่วนใหญ่จะไม่มีความชื้นหลงเหลืออยู่
• ไม้เก่าบางชนิด อย่างเช่น ไม้สัก ถือเป็นไม้ชนิดหนึ่งที่ปลวกและมอดไม่ค่อยกัดแทะ เนื่องจากภายในเนื้อไม้สักเก่าจะมียางที่ปลวกและมอดไม่ค่อยชอบ
ข้อเสียของไม้เก่า
• ไม้เก่าจะมีรอยตำหนิ โดยเฉพาะรอยตะปูที่อยู่ตามเนื้อไม้ เนื่องจากเป็นไม้ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ทำให้สภาพภายนอกดูไม่สมบูรณ์เท่ากับไม้ใหม่
• เมื่อเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ไม้เก่าก็จะยิ่งขึ้นเสี้ยน และสีของไม้ก็จะชีดลงด้วย จากเดิมที่เป็นสีน้ำตาลเข้มก็จะกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน
• ด้วยความที่เป็นไม้เก่าและมีรอยตำหนิตามเนื้อไม้ การจะนำไปใช้งานจึงจำเป็นจะต้องคัดไม้ที่ยังมีสภาพดีอยู่ เพื่อให้สามารถนำไปแปรรูปในด้านต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งไม้เก่าที่มีสภาพดีอาจมีอยู่ค่อนข้างน้อย
• เมื่อไม้เก่าสภาพดีที่สามารถนำไปใช้งานต่อมีอยู่ค่อนข้างน้อย จึงทำให้ราคาของไม้ประเภทนี้สูงกว่าไม้ประเภทอื่น ซึ่งทำให้หลายคนหันไปใช้ไม้ใหม่หรือไม้เทียมแทน เพราะเป็นไม้ที่มีราคาถูกและสามารถหาซื้อได้ง่ายกว่าไม้เก่า [3]
การใช้ประโยชน์จากไม้เก่า
ไม้เก่าสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ไม้ที่ยังไม่แปรรูป และไม้ที่ผ่านการแปรรูปแล้วสำหรับไม้เก่าที่ยังไม่แปรรูปจะนิยมนำไปใช้เป็นโครงสร้างของอาคารบ้านเรือน ส่วนไม้เก่าแปรรูปนั้นจะสามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะใช้เป็นส่วนประกอบของอาคารบ้านเรือน ประตู หน้าต่าง ฝาผนัง ฝ้าเพดาน พื้นไม้ปาร์เก้ วัสดุตกแต่งบ้าน รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ประเภทต่าง ๆ [3]
วิธีเลือกใช้ไม้เก่าให้เหมาะสมกับงาน
ไม้เก่าสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ ไม้เก่าที่ยังไม่ผ่านการแปรรูป และไม้เก่าที่ผ่านการแปรรูปแล้ว ซึ่งการจะนำไม้เก่าทั้งสองประเภทมาใช้งานนั้นจะต้องเลือกให้เหมาะกับงานแต่ละรูปแบบ และวิธีเลือกใช้ไม้เก่าให้เหมาะสมกับงานต่าง ๆ มีอยู่ ดังนี้
• งานก่อสร้างและตกแต่งภายนอก สามารถเลือกใช้ได้ทั้งไม้เก่าที่ยังไม่แปรรูปและไม้เก่าที่แปรรูปแล้ว แต่ควรเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความแข็งแรงและทนทาน ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมก่อนนำไปใช้งานด้วย หากเป็นไม้เก่าขนาดใหญ่ที่ยังไม่แปรรูปก็สามารถใช้ทำเสาหรือคาน ส่วนไม้เก่าขนาดเล็กสามารถใช้ทำระแนงหรือราวกันตกก็ได้ ในกรณีที่เป็นไม้เก่าแปรรูปสามารถใช้เป็นส่วนโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนัก รวมถึงส่วนอื่น ๆ ของอาคารได้ด้วย
• งานก่อสร้างและตกแต่งภายใน ควรเลือกใช้ไม้เก่าแปรรูปที่มีสภาพสมบูรณ์ ซึ่งสามารถเลือกใช้ไม้เนื้ออ่อนหรือไม้เนื้อแข็งก็ได้ ทั้งนี้ต้องพิจารณาจากความเหมาะสมของพื้นที่ที่จะใช้ด้วย หากเป็นงานก่อสร้างและงานตกแต่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างโดยตรงก็สามารถเลือกใช้ไม้เก่าที่มีหน้าตัดเล็กหรือบางก็ได้
• งานปูพื้น สามารถเลือกใช้ไม้ปาร์เก้ที่ได้จากการรื้อบ้านเก่า หรือไม้พาเลทที่ยังมีคุณภาพดีมาใช้ในการปูพื้นก็ได้ ทั้งนี้ไม้เก่าที่จะนำมาปูพื้นควรเป็นไม้เนื้อแข็งที่สามารถรองรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายได้ง่ายในอนาคต
• งานเฟอร์นิเจอร์ จำเป็นต้องเลือกใช้ไม้เก่าที่ผ่านการแปรรูปแล้ว เพราะนอกจากฟังก์ชั่นการใช้งาน เฟอร์นิเจอร์ควรจะมีดีไซน์ที่สวยงามและใช้ตกแต่งบ้านได้ด้วย หากเป็นไม้เก่าที่ยังไม่ผ่านการแปรรูปอาจจะไม่เหมาะนัก เพราะสภาพภายนอกมีตำหนิและดูไม่สมบูรณ์อย่างที่ควรจะเป็น [3]
จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า ไม้เก่านั้นมีคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน และไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องศัตรูไม้นัก เพราะเป็นไม้ที่มีอายุมากและผ่านการใช้งานมาแล้ว ต่างจากไม้ใหม่ที่สภาพภายนอกยังดูสวยงาม แต่เมื่อเทียบกับความทนทานแล้วก็คงต้องยกให้ไม้เก่า สำหรับใครที่ต้องการไม้เก่าคุณภาพดี สามารถเลือกดูสินค้าจาก TWOMENWOOD ซึ่งโรงไม้ของเรามีสินค้าไม้เก่าพร้อมส่งทั่วประเทศด้วย เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่จังหวัดเพชรบุรี
หมายเหตุ ร้านเราจะขายไม้เก่าไทย เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็ง สามารถตรวจเช็ค ราคาไม้แปรรูปแต่ละชนิด ได้ทางข้างล่าง
ตรวจสอบราคาสินค้า
อ้างอิง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไม้เก่า
1. ไม้เก่าคืออะไร?
ไม้เก่า (Reclaimed Wood) คือไม้ที่ถูกนำมาใช้ใหม่หลังจากถูกถอดออกจากโครงสร้างเก่าหรือเฟอร์นิเจอร์ เช่น จากบ้านไม้เก่า โรงนา หรือสะพานไม้
2. ไม้เก่ามีข้อดีอะไรบ้าง?
ความแข็งแรงและทนทาน – มักเป็นไม้เนื้อแข็งที่ผ่านการใช้งานและอบแห้งมานาน
ลวดลายและผิวสัมผัสที่สวยงาม – ให้ความรู้สึกวินเทจและเป็นธรรมชาติ
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม – ลดการตัดไม้ใหม่และนำทรัพยากรกลับมาใช้
3. ข้อเสียของไม้เก่าคืออะไร?
อาจมีปลวกหรือแมลงกินไม้
อาจมีตะปูหรือรอยแตกที่ต้องซ่อมแซม
ต้องขัดทำความสะอาดและเคลือบป้องกันก่อนนำมาใช้งาน
4. ไม้เก่านำไปใช้อะไรได้บ้าง?
ทำเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง
ปูพื้นไม้ หรือกรุผนังให้ดูคลาสสิก
ทำประตู หน้าต่าง หรือโครงสร้างตกแต่งบ้าน
ใช้เป็นวัสดุ DIY สำหรับงานศิลปะและงานตกแต่ง
5. จะรู้ได้อย่างไรว่าไม้เก่ายังใช้งานได้?
ตรวจสอบความแข็งแรงของเนื้อไม้
ดูว่ามีปลวกหรือแมลงรบกวนหรือไม่
ตรวจสอบรอยแตกและตำหนิที่อาจต้องซ่อมแซม
6. วิธีดูแลไม้เก่าให้ใช้งานได้นาน?
ขัดผิวและเคลือบสารกันปลวก
ใช้สารเคลือบกันน้ำเพื่อป้องกันความชื้น
หลีกเลี่ยงการโดนน้ำหรือแดดจัดโดยตรง
7. ไม้เก่ากับไม้ใหม่ ต่างกันอย่างไร?
ไม้เก่า – มีความแข็งแรงสูง ผ่านกระบวนการแห้งตามธรรมชาติ ลายไม้มีเอกลักษณ์
ไม้ใหม่ – ต้องผ่านการอบแห้งและดูแลมากขึ้นเพื่อป้องกันการบิดงอ
8. ซ่อมแซมไม้เก่าต้องทำอย่างไร?
อุดรอยแตกด้วยกาวไม้หรืออีพ็อกซี่
ขัดผิวเพื่อเอาเศษสีหรือละอองฝุ่นออก
ทาน้ำยาเคลือบไม้เพื่อป้องกันปลวกและเชื้อรา
9. ซื้อไม้เก่าควรเลือกอย่างไร?
ตรวจสอบแหล่งที่มา ว่าเป็นไม้คุณภาพดีหรือไม่
เลือกไม้ที่ไม่มีปลวกหรือเชื้อรา
ดูว่ามีรอยแตกร้าวมากเกินไปหรือไม่
10. ไม้เก่าราคาแพงกว่าหรือถูกกว่าไม้ใหม่?
ขึ้นอยู่กับชนิดและคุณภาพของไม้ บางครั้งไม้เก่าหายากและมีราคาสูงกว่าไม้ใหม่ โดยเฉพาะไม้เนื้อแข็งคุณภาพดี