สินค้า
ไม้มะฮอกกานี สุดยอดไม้คุณภาพดีที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย
จากข้อมูลของส่วนปลูกป่าภาคเอกชน สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ ได้ระบุว่าไม้มะฮอกกานีที่พบในประเทศไทยมีอยู่ด้วยกัน 2 สปีชีส์ ได้แก่ มะฮอกกานีใบใหญ่ และมะฮอกกานีใบเล็ก แต่ส่วนมากจะพบเป็นมะฮอกกานีใบใหญ่ โดยเนื้อไม้จะมีสีแดงอมน้ำตาล มีแถบแววสีทอง ขว้างเสี้ยนไม้ดูสวยงาม สามารถเลื่อยไสกบ ตบแต่งและขัดเงาได้ง่าย มีคุณสมบัติทนต่อปลวก นิยมใช้ประโยชน์ในด้านการแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์และใช้ก่อสร้างภายในได้ดี ด้ามเครื่องมือ ต่อเรือ และทำเครื่องดนตรีบางประเภท [1]
มะฮอกกานีที่ทั่วโลกนิยมปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้จะมีอยู่ 3 สปีชีส์ด้วยกัน คือ West Indian mahogany, Hondurus mahogany และ Swietenia humulis โดยมีถิ่นกำเนิดมาจากอเมริกากลาง ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกไปจนถึงฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกาใต้ จัดเป็นพืชเขตร้อนชื้นที่สามารถพบได้ในป่าทุกประเภท ตั้งแต่ป่าสน ทุ่งหญ้าเขตร้อน ไปจนถึงป่าดงดิบ เดิมมะฮอกกานีเป็นพันธุ์ไม้ที่พบได้ยากมาก ต่อมาเริ่มเป็นที่รู้จักจนมีการขยายพันธุ์จากการเพาะเมล็ด และถูกนำเข้าไปยังประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยด้วย มะฮอกกานีเป็นพันธุ์ไม้ที่เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนหรือดินทรายปนดินเหนียวเล็กน้อยที่มีการระบายน้ำได้ดี น้ำไม่ท่วมขัง ประเทศไทยมีการนำต้นไม้มะฮอกกานีมาปลูกในจังหวัดเพชรบุรีเป็นที่แรก ความโดดเด่นของต้นไม้ชนิดนี้ คือ เป็นไม้สูงใหญ่ที่มีอายุยืนอยู่ได้นับร้อยปี และยังเป็นไม้ที่สำคัญต่อระบบนิเวศของสัตว์ป่าอีกด้วย [2]
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของมะฮอกกานี
• ลำต้น มะฮอกกานีเป็นไม้ต้นขนาดใหญ่ มีรากพูพอนที่โคน ลำต้นสูงประมาณ 15–25 เมตร ขนาดทรงพุ่ม 6–10 เมตร จัดเป็นไม้ผลัดใบ มีลักษณะเป็นทรงกระบอก ค่อนข้างแน่น ลำต้นเปลาตรง ในส่วนของเปลือกต้นมีสีน้ำตาลหรือเทาอมดำ แตกเป็นร่องตามแนวยาวและหลุดล่อนเป็นแผ่น มีความหยาบ หนา และขรุขระ แก่นไม้มีสีแดงออกชมพู เมื่ออายุมากขึ้นจะมีสีเข้มขึ้น ตั้งแต่สีชมพูเข้มไปจนถึงน้ำตาล ส่วนกระพี้ไม้จะมีสีออกเหลือง เสี้ยนเชื่อมหรือบางครั้งตรง เสี้ยนละเอียดหรือค่อนข้างหยาบ ผิวลื่น จัดเป็นไม้เนื้อแข็ง มีความแข็งแรงและทนทาน ขัดแล้วไม่แตกหักหรืองอ
• ใบ ใบมะฮอกกานีเป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงเวียนสลับ แกนกลางใบ ประกอบยาว 20–50 เซนติเมตร ใบย่อยมี 3–8 คู่ เรียงตรงข้าม มีลักษณะเป็นรูปรีแกมรูปขอบขนาน มีความกว้าง 2.5–6 เซนติเมตร และมีความยาว 6–15 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบเบี้ยว ขอบใบเป็นคลื่น แผ่นใบบางแต่ค่อนข้างเหนียวและย่น มีลักษณะเป็นลอน สีเขียวเข้มเป็นมัน
• ดอก ดอกมะฮอกกานีจะออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงที่บริเวณซอกใบใกล้กับปลายกิ่ง ดอกเป็นสีเหลืองแกมเขียว มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่อดอกตั้งยาว 10–15 เซนติเมตร มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวอ่อน โคนเชื่อมติดกัน กลีบดอก 5 กลีบ มีลักษณะเป็นรูปช้อน ปลายมน ติดอยู่กับหลอดเกสรตัวผู้โดยที่โคนกลีบเชื่อมติดกัน เกสรเพศผู้มี 8–10 อัน เชื่อมติดกันเป็นหลอด เส้นผ่านศูนย์กลางดอกอยู่ที่ 0.7–1.2 เซนติเมตร
• ผล ผลมะฮอกกานีมีจะออกผลเป็นลักษณะเดี่ยว เป็นรูปไข่ แห้งแตก โดยมีความกว้าง 6–9 เซนติเมตร และความยาว 14–18 เซนติเมตร เปลือกหนา มีสีน้ำตาลอมเหลือง เมื่อสุกจะมีสีน้ำตาลอมเทา โดยจะแตกจากโคนเป็น 5 พู
• เมล็ด ภายในผลมะฮอกกานีจะมีเมล็ดอยู่หลายเมล็ด โดยเมล็ดจะมีลักษณะเป็นแผ่น มีปีกรูปรียาว ปลายปีกของเมล็ดจะบางและมีสีน้ำตาล [3]
การใช้ประโยชน์ไม้มะฮอกกานี
ประโยชน์ของต้นมะฮอกกานีนอกจากให้ร่มเงาเป็นแนวกันลมแล้ว เนื้อไม้ที่มีสีน้ำตาลแดงเข้ม เนียนเรียบ ผิวลื่น สามารถนำไปใช้ประโยชน์ ผลิตเป็นเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ เช่น กีต้าร์โปร่ง วงกบประตู หน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ไม้ ปูพื้น และอัดเป็นไม้วีเนียร์เพื่อตกแต่งภายใน ด้วยความโดดเด่นของเนื้อไม้ ที่สามารถขัดเงาได้ง่ายและมีสีสวย [2]
ไม้เก่า ของไทยที่มีความคล้ายคลึงไม้มะฮอกกานี
ไม้มะฮอกกานีจัดเป็นไม้ต่างประเทศ โซนอเมริกากลาง ปัจจุบันมีการเพราะพันธุ์ที่ประเทศไทยบ้างแล้ว ทาง “กลุ่มไม้เก่าไทย” จึงได้นำไม้ของไทยที่มีความใกล้เคียงกับไม้มะฮอกกานี มาเปรียบเทียบเรื่องความสวยงามและการใช้งาน ได้แก่ไม้ประดู่และไม้มะค่า เพราะไม้มะค่า (ความแข็ง 808 กก.) และไม้ประดู่ (ความแข็ง 925 กก.) เป็นไม้เนื้อแข็ง ซึ่งไม้มะฮอกกานีมีความแข็งแรง (ความแข็ง 859 กก.)ทนทานต่อสภาพอากาศได้ดีรวมทั้งยังทนต่อปลวกและมอดอีกด้วย และมีสีสันลวดลายสวยงามใกล้เคียงกับไม้มะฮอกกานี[1]
ข้อดีของไม้มะฮอกกานี
• เนื้อไม้มีความสวยงาม แข็งแรงและทนกับทุกสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นฟ้า แดด ลม และฝน เมื่อนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องดนตรี ด้ามเครื่องมือ หรือใช้ก่อสร้างที่อยู่อาศัย จะทำให้มีลักษณะสวยงามและมีอายุการใช้งานยาวนานอีกด้วย
• ทนต่อการทำลายของปลวกได้ดี ถือเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่ทำให้ไม้มะฮอกกานีได้รับความนิยม นอกจากแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์และเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ได้แล้ว ด้วยความที่มีคุณสมบัติทนต่อการทำลายของปลวก จึงสามารถนำไปสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยได้อีกด้วย
• เหมาะกับงานตกแต่งภายใน และการตกแต่งที่เน้นความสวยงาม ด้วยคุณสมบัติของเนื้อไม้ที่มีความสวยงาม ผิวลื่น แข็งแรงและทนทาน อีกทั้งยังขัดเงาได้ง่าย จึงสามารถอัดเป็นไม้วีเนียร์เพื่อใช้ในงานตกแต่งภายใน และใช้ทำเครื่องดนตรีอย่างกีตาร์ได้อีกด้วย
• อัตราการเจริญเติบโตค่อนข้างเร็ว เมื่อเทียบกับไม้เนื้อแข็งชนิดอื่น มะฮอกกานีถือเป็นไม้ที่เจริญเติบโตเร็วพอสมควร หลายคนจึงนิยมปลูกเพื่อการค้า โดยใช้เวลาในการเจริญเติบโตประมาณ 10–15 ปี ก็สามารถตัดขายได้แล้ว
• ขายได้ราคาดี นอกจากความสวยงามของลายไม้แล้ว เนื้อไม้มะฮอกกานียังมีความแข็งและทนทาน สามารถใช้ทำเครื่องเรือน เครื่องดนตรี เครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ รวมถึงใช้ก่อสร้างที่อยู่อาศัยได้ด้วย จึงทำให้มีราคาแพง ยิ่งถ้าหากผ่านการแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็จะยิ่งทำให้มีราคาสูงมากขึ้น
• สามารถใช้เป็นยารักษาอาการต่าง ๆ ในส่วนของเปลือกไม้มะฮอกกานีนั้นจะมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการเจริญอาหาร แก้ไข้ และสมานแผล จึงนิยมนำมาต้มเป็นยาเจริญอาหาร และแก้อาการดังกล่าว
ข้อเสียของไม้มะฮอกกานี
• ปัญหาหนอนและแมลงในช่วงแรก ไม้มะฮอกกานีที่เพิ่งปลูกได้ใน 1–2 ปีแรก มักพบกับปัญหาหนอน แมลงและด้วงเข้ามาเจาะเนื้อไม้ ซึ่งทำให้เกิดโพรงด้านใน ส่งผลให้ต้นหักโค่นจนอาจถึงตายได้ ฉะนั้นจึงไม่ควรปลูกเป็นพืชเชิงเดี่ยว แนะนำให้ปลูกผสมกับสะเดาเทียม
• ไม่เหมาะกับการปลูกไว้ในบริเวณที่อยู่ใกล้กับตัวบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่เป็นพื้นปูน เนื่องจากต้นมะฮอกกานีมีรากพูพอนที่โคนต้น ซึ่งจะทำให้พื้นบ้านและกำแพงได้รับความเสียหาย อีกทั้งผลของมะฮอกกานียังมีขนาดใหญ่ หากตกใส่หลังคาบ้านจะทำให้เกิดเสียงดังรบกวนได้
จุดเด่นของไม้มะฮอกกานี
เนื้อไม้มะฮอกกานีมีความสวยงาม เหมาะกับการตกแต่งภายในและทำเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์และสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย จึงเป็นที่นิยมในตลาดไม้แปรรูป โดยแก่นไม้มะฮอกกานีนั้นจะมีสีแดงออกชมพู และเมื่ออายุมากขึ้นก็จะมีสีเข้มขึ้น ตั้งแต่ชมพูเข้มไปจนถึงน้ำตาล ทำให้ไม้มะฮอกกานีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากสีของไม้จะดูสวยงามแล้ว ผิวไม้ยังลื่นอีกด้วย สามารถขัดเงาได้ง่าย ไม่แตกหักหรืองอ นอกจากนี้ยังมีความแข็งแรงและทนทานอีกด้วย
มะฮอกกานี เป็นไม้เศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง เพราะเป็นไม้ที่มีคุณภาพและสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังมีอัตราการเจริญเติบโตเร็วอีกด้วย ด้วยความสวยงามและความแข็งแรงของเนื้อไม้ ทำให้ถูกนำไปใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์ เครื่องดนตรี เครื่องมือเครื่องใช้ และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ก่อสร้างที่อยู่อาศัยได้อีกด้วย ทั้งนี้หากใครสนใจไม้จริง ไม้แปรรูป หรือไม้เก่าคุณภาพดี อาทิเช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ TWOMENWOOD เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทุกคนสามารถติดต่อสั่งซื้อสินค้าไม้แปรรูปได้ สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี