สินค้า
ไม้ยูคาลิปตัส ไม้เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่ใคร ๆ ก็สามารถจับต้องได้
ส่วนส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ สำนักเศรษฐกิจการป่าไม้ ได้ให้ข้อมูลว่า ยูคาลิปตัส (Eucalyptus) เป็นพรรณไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปออสเตรเลีย เกาะแทสเมเนีย โดยมีการกระจายพันธุ์ตั้งแต่หมู่เกาะมินดาเนา เซลีเบส ปาปัวนิวกินี ในเขตพื้นที่ชุ่มที่มีน้ำขังในเขตร้อน โดยมีมากกว่า 700 ชนิดด้วยกัน สำหรับประเทศไทยมีการนำต้นยูคาลิปตัสเข้ามาปลูกครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2444 ณ พระที่นั่งวิมานเมฆ ไม้ยูคาลิปตัสสามารถเจริญเติบโตได้ในแทบทุกสภาพพื้นที่ และมีอัตราการเจริญเติบโตสูงจึงนิยมนำมาปลูกกันอย่างแพร่หลาย [1]
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นยูคาลิปตัส
• ลำต้น ยูคาลิปตัสเป็นไม้ยืนต้นที่มีความสูงประมาณ 10–25 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มหนาทึบ มีลักษณะค่อนข้างกลม ลำต้นเปลาตรง โดยมีเปลือกหุ้มอยู่ด้านนอก เปลือกเรียบเป็นมัน มีสีเทาสลับสีขาวและน้ำตาลแดงเป็นบางแห่ง มักจะแตกร่อนเป็นแผ่นแล้วหลุดออกจากผิวของลำต้น
• ใบ ใบเดี่ยว ออกเรียงสลับเป็นคู่ มีลักษณะเป็นรูปหอกยาว 3–12 นิ้ว และกว้าง 0.5 – 0.8 นิ้ว ก้านใบค่อนข้างสั้น มีความยาวเพียง 2 เซนติเมตร ใบมีสีเขียวอ่อนหม่น ๆ หรือสีเขียวอมน้ำเงินทั้งสองด้าน ใบห้อยลงตามกิ่ง ปลายใบแหลม แผ่นใบหนา และเส้นใบเด่นชัด
• ดอก ยูคาลิปตัสจะออกดอกเป็นช่อตามบริเวณข้อต่อระหว่างกิ่งและใบ หรือบางสายพันธุ์จะออกดอกเดี่ยวหรือออกเป็นกระจุกตามง่ามใบ ดอกมีสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน ก้านดอกเรียวยาว และมีก้านย่อยแยกออกไปอีก ซึ่งยูคาลิปตัสจะออกดอกเกือบตลอดทั้งปี
• ผล มีลักษณะเป็นครึ่งวงกลมหรือรูปถ้วย ปลายผลแหลม ในส่วนของผิวด้านนอกของผลจะมีความแข็ง ผลอ่อนจะมีสีเขียว จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อผลแก่ และปลายผลจะแยกออกด้วย [2]
ลักษณะ ไม้ ยู คา ลิป ตั ส
ไม้ ยู คา ลิป ตั ส เป็นไม้ที่ได้จากต้นยูคาลิปตัส เป็นไม้เนื้อแข็ง (ความแข็ง 731 กก.) ลักษณะเนื้อไม้จะมีแก่นไม้สีน้ำตาล ส่วนกระพี้มีสีน้ำตาลอ่อน จึงทำให้เห็นความแตกต่างระหว่างแก่นและกระพี้ไม้ได้ค่อนข้างชัดเจน สำหรับไม้ ยู คา ลิป ตั ส คามาลดูเลนซิส (Eucalyptus camaldulensis) หากมีอายุมากขึ้นจะมีสีน้ำตาลแดง ซึ่งถือว่าสีเข้มกว่าไม้ที่มีอายุน้อย โดยเนื้อไม้มีลักษณะค่อนข้างละเอียด เสี้ยนสน บางครั้งอาจพบว่ามีการบิดไปตามแนวลำต้น [1]
การใช้ประโยชน์ ไม้ ยู คา ลิป ตั ส
ไม้ ยู คา ลิป ตั ส เป็นไม้เนื้อแข็งที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย และสามารถนำไปใช้ในระยะเวลาอันสั้นได้ เพราะต้นยูคาลิปตัสเป็นไม้ยืนต้นที่มีอัตราการเจริญเติบโตเร็ว สำหรับไม้ที่มีอายุ 3–5 ปี ก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้แล้ว แต่ถ้าหากต้องการแก่นไม้ต้องรอให้ต้นยูคาลิปตัสมีอายุเกิน 15 ปีขึ้นไป สำหรับการนำไปใช้ประโยชน์นั้นมีตั้งแต่ผลิตกระดาษ ทำฟืนหรือเผาถ่าน ทำรั้ว เสา คอกปศุสัตว์ แปรรูปทำแผ่นชิ้นไม้อัด ทำเฟอร์นิเจอร์ ใช้ในการก่อสร้างต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ข้อดีของไม้ยูคาลิปตัส
• อัตราการเจริญเติบโตเร็ว เนื่องจากมีส่วนของกระพี้มาก จึงมีพื้นที่ลำเลียงน้ำขึ้นสู่เรือนยอดมากตามไปด้วย อีกทั้งยังเป็นพืชที่หาสารอาหารในดินเก่งกว่าพืชชนิดอื่นด้วย จึงสามารถตัดไม้ ยู คา ลิป ตั ส มาใช้งานได้ง่าย และถือเป็นไม้ที่มีการลงทุนค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับไม้โตเร็วชนิดอื่น เพราะต้นยูคาลิปตัสมีราคาไม่สูงมาก สามารถหามาปลูกได้ง่าย และยังเจริญเติบโตได้ในพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำอีกด้วย โดยราคา ไม้ ยู คา ตัน ละ 500 – 3,000 บาท (ไม้คละขนาด)
• ราคาถูกและหาซื้อง่าย ไม้ ยู คา ลิป ตั ส มีราคาค่อนข้างถูก เพราะเป็นไม้โตเร็วที่ใช้เวลาเจริญเติบโตไม่นานมาก หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากแก่นไม้ก็สามารถตัดไปใช้งานได้ตั้งแต่อายุ 3–5 ปีขึ้นไป แต่ถ้าหากต้องการแก่นไม้ที่เพียงพอต่อการใช้งานต้องรอให้มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งถือว่าไม่นานมากเมื่อเทียบกับไม้เนื้อแข็งชนิดอื่น ๆ นอกจากนี้ไม้ยูคาลิปตัสยังหาซื้อได้ง่ายอีกด้วย จึงทำให้ราคา ไม้ ยู คา ตัน ละ ไม่ค่อยสูงนัก
• ใช้ทำฟืนและถ่านได้ดี หากใช้ไม้ยูคาลิปตัสทำถ่านจะทำให้ได้ถ่านคุณภาพดี เพราะให้ความร้อนสูง เมื่อนำไปเผาจะไม่แตกและไม่มีควัน ซึ่งคุณภาพของถ่านนั้นจะมีความใกล้เคียงกับถ่านจากไม้โกงกาง
• แปรรูปได้อย่างหลากหลาย ไม้ ยู คา ลิป ตั ส เป็นไม้เนื้อแข็งที่สามารถแปรรูปเป็นแผ่นเส้นใยไม้อัด แผ่นชิ้นไม้อัด แผ่นไม้อัดซีเมนต์ แผ่นไม้ประกอบต่าง ๆ รวมถึงแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์และวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างต่าง ๆ อีกด้วย
• เหมาะกับการผลิตกระดาษ เมื่อไม้ยูคาลิปตัสมีอายุ 3–6 ปี เนื้อไม้จะเหมาะกับการนำไปผลิตเยื่อกระดาษ จากการประเมินสามารถกล่าวได้ว่าเยื่อไม้ยูคาลิปตัส 1 ตัน จะผลิตเยื่อกระดาษได้ประมาณ 1 ตัน และด้วยความที่เยื่อไม้ยูคาลิปตัสมีความฟูสูง ทึบแสง อีกทั้งยังมีไฟเบอร์ที่แข็งแรง จึงเหมาะกับการนำไปผลิตเป็นกระดาษพิมพ์เขียวประเภทต่าง ๆ
ข้อเสียของไม้ยูคาลิปตัส
• มีโอกาสบิดงอได้ง่าย เมื่อนำไม้ยูคาลิปตัสไปแปรรูปจะมีโอกาสที่ไม้จะบิดงอได้ง่าย เนื่องจากเนื้อไม้มีเสี้ยนบิดเป็นเกลียวและแตกร้าว ทำให้เหมาะกับการใช้งานหน้าแคบและสั้นมากกว่า
• ไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศเย็นจัด แมลงและสัตว์รบกวนได้ ถึงแม้ว่าไม้ ยู คา ลิป ตั ส จะเป็นไม้เนื้อแข็ง แต่คุณสมบัติอย่างหนึ่งที่ทำให้ไม่น่าใช้งานคือมีความสามารถในการทนต่อสภาพอากาศเย็นจัดต่ำกว่าไม้เนื้อแข็งชนิดอื่น ๆ อีกทั้งยังไม่ทนต่อความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและศัตรูพืชอีกด้วย หากเวลาผ่านไปจะทำให้ไม้เปลี่ยนสีและเริ่มสูญเสียเนื้อไม้ไปในที่สุด
• อายุการใช้งานค่อนข้างสั้น เมื่อเทียบกับไม้เนื้อแข็งอย่างไม้สักที่มีอายุการใช้งานนานถึง 50–70 ปี ไม้ยูคาลิปตัสถือว่าด้อยกว่ามาก ๆ เพราะเป็นไม้ที่มีอายุการใช้งานเพียง 25 ปีเท่านั้น หากต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่มีความทนทานและสามารถอยู่ได้นานมากกว่า 25 ปี ไม้ยูคาลิปตัสอาจไม่ตอบโจทย์นัก
จุดเด่น
ไม้ ยู คา ลิป ตั ส เป็นไม้เนื้อแข็งที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เร็วกว่าไม้เนื้อแข็งชนิดอื่น ๆ เพราะเป็นไม้ที่มีอัตราการเจริญเติบโตค่อนข้างเร็ว หากต้องการแก่นไม้ที่แข็งแรงและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ต้องรอ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งต่างจากไม้เนื้อแข็งชนิดอื่นที่มักต้องรอนานถึงหลายสิบปีหรืออาจถึงร้อยปีกว่าจะมีแก่นไม้ที่เพียงพอ นอกจากนี้ไม้ยูคาลิปตัสยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายอีกด้วย เช่นนี้จึงทำให้หลายคนปลูกต้นยูคาลิปตัสเป็นพืชเศรษฐกิจ
ยูคาลิปตัส เป็นไม้โตเร็วต่างถิ่น โดยจัดเป็นพืชประจำถิ่นออสเตรเลีย ปัจจุบันพบปลูกมากในประเทศจีนและบราซิล ส่วนประเทศไทยมีการนำเข้าและปลูกอย่างจริงจังเมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว นอกจากเป็นไม้โตเร็วแล้ว ไม้ ยู คา ลิป ตั ส ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายอีกด้วย จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งไม้ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน แต่กว่าจะมีแก่นไม้ต้องใช้เวลานานกว่า 15 ปีเลยทีเดียว หากใครสนใจไม้เก่า คุณภาพดีที่พร้อมนำไปใช้งาน TWOMENWOOD มีสินค้าพร้อมส่งทั่วประเทศด้วย สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี
หมายเหตุ ร้านเราจะขายไม้เก่าไทย เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็ง สามารถตรวจเช็คราคาได้ทางข้างล่าง