สินค้า
ทำความรู้จักกับไม้ยาง เหตุใดจึงนิยมนำมาใช้งาน
หากกล่าวถึงพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม้ยางก็เป็นหนึ่งในไม้ที่สำคัญ เรียกว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ โดยทั่วไปจะเน้นส่งออกน้ำยางดิบไปต่างประเทศ แต่ในส่วนของไม้ที่ไม่มีน้ำยางแล้วนั้น มักจะถูกโค่นและนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง ไม้ลัง ไม้พาเลท รวมถึงใช้เป็นวัสดุของเฟอร์นิเจอร์ประเภทต่าง ๆ ได้อีกด้วย[1]
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ข้อมูลว่ายางนาเป็นไม้ที่มีอัตราการเจริญเติบโตช้า สำหรับไม้ยางนาที่มีอายุประมาณ 14 ปี จะมีความโตทางเส้นรอบวงเฉลี่ยถึง 82.84 เซนติเมตร ส่วนยางพาราจะมีอัตราการเจริญเติบโตอยู่ในระดับปานกลาง ขึ้นอยู่กับการดูแลจัดการ เมื่อต้นยางพารามีอายุประมาณ 25–30 ปี ก็จะถูกโค่นและนำไม้ไปขายเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป เนื่องจากไม้ดังกล่าวมีปริมาณน้ำยางน้อย[2]
ไม้ยางไทยคืออะไร?
ไม้ยาง ไทย เป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน และมีลวดลายที่สวยงาม ทำให้ไม้ยางไทยถูกนำมาใช้ในงานก่อสร้างและงานไม้มาอย่างยาวนาน [5]
• ลักษณะเฉพาะของ ไม้ยาง ไทย
ไม้ยาง ไทยมีเนื้อไม้สีเหลืองอ่อนถึงน้ำตาลอมแดง ขึ้นอยู่กับอายุและแหล่งปลูก ไม้ชนิดนี้มักถูกนำมาใช้ในงานที่ต้องการความแข็งแรง เช่น เสาคานบ้าน โครงสร้างอาคาร หรือแม้กระทั่งการทำพื้นไม้และบันได เนื้อไม้ของ ไม้ยาง มีความแน่นและทนต่อแรงกระแทก จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับงานหนัก
• ความแตกต่างระหว่าง ไม้ยาง ไทยกับไม้ชนิดอื่น
ไม้ยาง ไทยแตกต่างจาก ไม้ยางพารา ที่มักใช้ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์เบาๆ โดยไม้ยางพาราจะมีเนื้ออ่อนกว่าและมีความยืดหยุ่นมากกว่า ในขณะที่ ไม้ยาง มีความแข็งแรงกว่าและเหมาะกับงานโครงสร้างที่ต้องการความทนทาน
• การใช้งานของ ไม้ยาง ไทย
ไม้ยาง ไทยถูกใช้ในหลากหลายรูปแบบ เช่น:
งานก่อสร้างบ้านเรือนไทยดั้งเดิม
เฟอร์นิเจอร์ไม้แท้ เช่น โต๊ะ ตู้ และเก้าอี้
ความงามตามธรรมชาติของ ไม้ยาง ช่วยเสริมให้พื้นที่ดูอบอุ่นและคลาสสิก
ไม้ยาง ไทยเป็นวัสดุธรรมชาติที่มีคุณภาพสูงและเหมาะกับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ หากคุณกำลังมองหาไม้ที่มีความแข็งแรง ทนทาน และดูมีเอกลักษณ์ ไม้ยาง เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม [5]
ชนิดของไม้ยางที่ได้รับความนิยม
• ไม้ยางนา ถือเป็นไม้ที่คนไทยในอดีตนิยมนำไปใช้ในการก่อสร้างบ้านเรือน เนื้อไม้มีสีน้ำตาลแดง เสี้ยนตรง เนื้อหยาบ และมีความแข็งอยู่ในระดับปานกลาง (ความแข็ง 470 กก.) สามารถเลื่อยไสกบตกแต่งให้เรียบได้ง่าย โดยจะนิยมนำมาเลื่อยทำเสาบ้าน ตง โครงหลังคา ฝ้าเพดาน รั้วบ้าน ไม้พื้น ไม้ระแนง ไม้คร่าว รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ[3-4]
• ไม้ ยางพารา จัดเป็นไม้เนื้อแข็งปานกลาง (ความแข็ง 538 กก.) หากอายุยังน้อยจะมีเปลือกไม้สีเขียว และเมื่ออายุมากขึ้นจะมีเปลือกสีเทาอ่อน เทาดำ หรือน้ำตาล ซึ่งเปลือกของไม้ ยางพาราจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ Cork เป็นส่วนเปลือกแข็งที่อยู่ชั้นนอกสุด, Hard Bark เป็นชั้นถัดมาที่อยู่ด้านใน โดยมีท่อน้ำยางอายุมากกระจัดกระจายอย่างไม่ต่อเนื่อง และ Soft Bark เป็นส่วนในสุดของเปลือกที่อยู่ติดกับเนื้อเยื่อ สามารถนำไปแปรรูป เลื่อย ตัด หรือไสได้หลายวิธี นอกจากนี้ยังสามารถย้อมสี อัดประสาน และทาน้ำยาเคลือบเพิ่มได้ด้วย[3-4]
ความแตกต่างระหว่างไม้ยางพาราและไม้ยางนา
• ไม้ยางพารา เป็นไม้ที่ได้จากต้นยางพาราจัดเป็นไม้เนื้อแข็งปานกลาง หากเป็นไม้สดจะมีสีขาวอมเหลือง และเมื่อแห้งแล้วจะมีสีขาวจางเนื้อไม้หยาบปานกลาง มีเสี้ยนตรง และวงรอบปีไม่ค่อยชัด คุณสมบัติโดยรวมค่อนข้างใกล้เคียงกับไม้สักแต่จะเกิดเชื้อราได้ง่ายและมอดมักจะกินเนื้อไม้ อย่างไรก็ตามไม้ยางพารายังถือเป็นไม้ที่สามารถนำไปแปรรูปได้ง่ายและหลากหลายวิธี
• ไม้ยางนา เป็นไม้ที่ได้จากต้นยางนา จัดเป็นไม้เนื้อแข็งปานกลาง เนื้อไม้หยาบ มีสีน้ำตาลแดงหรือน้ำตาลเทา และมีเสี้ยนตรง ด้วยความที่ต้นยางนามีลำต้นตรงเปลาและไม่ค่อยแตกกิ่งก้านเยอะ จึงทำให้ไม้ยางนาเหมาะกับการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในปัจจุบันนิยมนำไปใช้ในงานก่อสร้าง รวมถึงแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์และเครื่องมือเครื่องใช้
ลักษณะของไม้ยางที่เหมาะกับการแปรรูป
ไม้ยางที่สามารถนำไปแปรรูปได้นั้นจะต้องมีลักษณะโดยรวมค่อนข้างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นขนาดของไม้ สภาพภายนอก รวมถึงอายุของไม้ยางพาราหรือไม้ยางนาจะต้องถึงเกณฑ์ที่สามารถนำไปแปรรูปได้ สำหรับไม้ยางที่เหมาะต่อการนำไปแปรรูปควรเป็นไม้ที่ได้จากต้นยางอายุมากพอสมควร เพื่อให้มีเนื้อไม้ที่แข็งแรงทนทาน โดยส่วนมากจะเป็นไม้ที่มีอายุประมาณ 25–30 ปีขึ้นไป
เปรียบเทียบไม้ยางไทยกับไม้ชนิดอื่น: เลือกแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งาน?
ไม้ยาง ไทย เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับงานไม้และการก่อสร้างในประเทศไทย แต่เมื่อพูดถึงการเลือกไม้สำหรับงานต่างๆ หลายคนอาจสงสัยว่า ไม้ยาง ไทยแตกต่างจากไม้ชนิดอื่นอย่างไร บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจข้อดีและข้อเสียของ ไม้ยาง เมื่อเปรียบเทียบกับไม้ชนิดอื่น เช่น ไม้สัก ไม้เต็ง และไม้แดง [6]
1. ลักษณะเนื้อไม้
ไม้ยาง
มีเนื้อไม้ที่แน่น แข็งแรง และมีลวดลายที่สวยงาม สีของไม้ยางมักเป็นสีเหลืองอ่อนถึงน้ำตาลอมแดง ทำให้ดูอบอุ่นและเป็นธรรมชาติไม้สัก
เนื้อไม้มีความละเอียดและมีน้ำมันธรรมชาติที่ช่วยป้องกันปลวกและแมลง สีของไม้สักจะออกเหลืองทองถึงน้ำตาลเข้ม ดูหรูหราไม้เต็ง
เป็นไม้ที่แข็งมากและมีความหนาแน่นสูง เนื้อไม้มีสีน้ำตาลแดงถึงน้ำตาลเข้ม ทนต่อสภาพอากาศได้ดีไม้แดง
ไม้เนื้อแข็งที่มีความคงทนสูง สีไม้แดงมีความโดดเด่นในโทนน้ำตาลแดงสด ทำให้เป็นที่นิยมในงานโครงสร้างและตกแต่ง
2. ความแข็งแรงและความทนทาน
ไม้ยาง
แข็งแรงพอสำหรับการใช้งานในโครงสร้างและเฟอร์นิเจอร์ทั่วไป แต่หากไม่ได้เคลือบป้องกัน อาจเสี่ยงต่อปลวกหรือความชื้นในระยะยาวไม้สัก
ทนทานสูงมาก และมีคุณสมบัติธรรมชาติในการป้องกันแมลงและเชื้อรา เหมาะกับงานทั้งในร่มและกลางแจ้งไม้เต็ง
เหมาะสำหรับงานโครงสร้างหนัก เช่น เสาและคาน เนื่องจากมีความแข็งแรงมากไม้แดง
ทนต่อแรงกระแทกและการใช้งานหนัก เหมาะสำหรับงานโครงสร้างบ้านหรือสะพาน
3. การใช้งานที่เหมาะสม
ไม้ยาง
เหมาะสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งภายใน วงกบ ประตู และงานไม้ทั่วไปไม้สัก
นิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง เช่น ตู้ เตียง และไม้ปูพื้นไม้เต็ง
ใช้ในงานโครงสร้าง เช่น เสาและคาน หรือพื้นระเบียงที่ต้องรับน้ำหนักไม้แดง
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น สะพาน พื้นไม้ และรั้ว
4. ราคา
ไม้ยาง
มีราคาย่อมเยากว่าไม้สัก แต่ยังคงความสวยงามและคุณภาพดีไม้สัก
ราคาสูงที่สุดในบรรดาไม้เหล่านี้ เนื่องจากความทนทานและความสวยงามไม้เต็งและไม้แดง
ราคาอยู่ในระดับกลาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไม้แข็งแรงในราคาที่สมเหตุสมผล
หากคุณต้องการไม้ที่มีความสมดุลระหว่างความสวยงามและราคา ไม้ยาง ไทย เป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการไม้ที่มีความทนทานสูงหรือดูหรูหรา ไม้สัก, ไม้เต็ง, หรือไม้แดง อาจตอบโจทย์มากกว่า การเลือกไม้ขึ้นอยู่กับการใช้งานและงบประมาณที่คุณมี [6]
เหตุผลที่นิยมใช้ไม้ยาง
เนื่องจากไม้ยางมีความอ่อนตัวสูง จัดเป็นไม้เนื้อแข็งปานกลางที่มีราคาไม่แพง สามารถหาซื้อได้ง่าย จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หลายคนนิยมนำไปแปรรูปและผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ประเภทต่าง ๆ ซึ่งโรงไม้ของเราก็มีสินค้าไม้เก่าที่สามารถนำไปผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้ด้วย โดยคุณสมบัติของไม้ยางที่มีความอ่อนตัวสูงนั้นทำให้สามารถนำไปตัดแต่งได้ง่ายกว่าไม้เนื้อแข็งชนิดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อย ตัด ไส ย้อมสี อัดประสาน หรือทาน้ำยาเคลือบ ก็สามารถทำได้ง่าย
ข้อดีของไม้ยาง
• ลวดลาย และสีสันสวยงาม ไม้ยางจะมีลวดลายและสีสันที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติและมีเอกลักษณ์ อีกทั้งยังสามารถนำไปตกแต่งให้สวยขึ้นได้ไม่ยาก จึงนิยมใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นโชว์ลายไม้ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ เตียง ตู้เก็บของ เป็นต้น
• ย้อมสีได้ ด้วยความที่เนื้อไม้ ยางพารามีสีขาว จึงสามารถนำไปย้อมสีหรือตกแต่งเพิ่มได้ง่าย ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่ทำให้ไม้ ยางพาราได้รับความนิยม
• เนื้อไม้มีความแข็งแรง ไม้ยางจัดเป็นไม้เนื้อแข็งปานกลางที่มีความแข็งแรงและทนทานสูง โดยเนื้อไม้นั้นจะมีความหนาแน่นใกล้เคียงกับไม้สัก
• แปรรูปได้หลากหลาย เนื่องจากไม้ยางเป็นไม้ที่สามารถตัดแต่งได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการตัดแต่งทรง ขัดสี ย้อมสี อัดประสาน ไปจนถึงการทาน้ำยาเคลือบ ก็สามารถทำได้ง่าย จึงทำให้ไม้ชนิดนี้นำไปแปรรูปได้อย่างหลากหลายนั่นเอง
• สามารถเพิ่มประสิทธิภาพไม้ได้ โดยการอัดน้ำยาเข้าไป เพื่อป้องกันเชื้อราและแมลงที่จะเข้ามาทำลายไม้ นอกจากนี้ยังสามารถอบน้ำยาเพื่อให้ไม้ยังคงมีสีสันที่สวยงาม และยังช่วยป้องกันการแตกของไม้จากภายในได้ด้วย รวมถึงการเพิ่มคุณสมบัติในการต้านการติดไฟ, แสง UV, ความชื้น และอื่น ๆ
ข้อเสียของไม้ยาง
• อัตราการยืดหดตัวสูง และบิดงอได้ง่าย จึงทำให้ไม่เหมาะกับการนำไปใช้เป็นโครงสร้างบ้าน หรืองานตกแต่งภายนอก เพราะคุณสมบัติทนต่อสภาพอากาศจะมีน้อยกว่าไม้ชนิดอื่น ๆ
• ขนาดของไม้ไม่ใหญ่ ถึงแม้ว่าไม้ ยางพาราจะสามารถนำไปแปรรูปได้ง่ายและหลากหลาย แต่ในขณะเดียวกันเมื่อนำไปตัดหรือซอยเป็นท่อน หรือเป็นแผ่น จะได้ไม้ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก
• มีขีดจำกัดในการรับน้ำหนัก เนื่องจากเป็นไม้เนื้อแข็งปานกลาง ซึ่งมีความอ่อนตัวสูง จึงทำให้มีขีดจำกัดในการรับน้ำหนัก ด้วยเหตุนี้จึงไม่นิยมนำไม้ยางไปใช้เป็นโครงสร้างของอาคารบ้านเรือน
• มีสารอาหารที่ปลวกและเชื้อราชอบ ซึ่งอยู่ภายในเนื้อไม้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไม้ยางนั้นไม่ค่อยทนต่อปลวก ความชื้น และเชื้อรา
• เนื้อไม้แตกได้ง่าย เนื่องจากเป็นไม้ที่มีความอ่อนตัวสูง ถึงแม้ว่าจะสามารถนำไปแปรรูปได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกันหากมีการตอกตะปูหรือทำอะไรก็แล้วแต่ที่มีความรุนแรง ไม้ยางจะแตกได้ง่าย เพราะไม่สามารถรับแรงกระแทกได้นั่นเอง
คุณสมบัติเด่นของไม้ยาง
ไม้ยางเป็นไม้ที่มีน้ำหนักเบา มีความอ่อนตัวค่อนข้างสูง ลายไม้ดูเป็นธรรมชาติ มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และสีของเนื้อไม้จะเป็นสีอ่อน จึงง่ายต่อการแปรรูป เพราะสามารถเลื่อยไสและย้อมสีไม้ได้ไม่ยาก และด้วยความที่ลายไม้ดูชัดเจนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อนำไปแปรรูปแล้วจะทำให้เฟอร์นิเจอร์หรือผลิตภัณฑ์นั้นดูสวยงามและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
การใช้ประโยชน์ไม้ยาง
ในปัจจุบันมีการนำไม้ยางไปแปรรูปแล้วทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครื่องเรือนที่เน้นโชว์ความสวยงามของลายไม้ มักจะนิยมนำไม้ยางไปใช้กัน นอกจากนี้ยังมีการนำไม้ยางไปทำเป็นวัสดุตกแต่งบ้านทั้งภายในและภายนอกด้วย เช่น ใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ใช้ทำเรือขุด เรือขนาดย่อม เครื่องเรือน ใช้ทำพื้น ฝาเพดาน รอด ตง เป็นไม้หมอนรองรางรถไฟ ฯลฯ [4]
ไม้ยางเก่า แปรรูปเป็นอะไรได้บ้าง ?
ไม้ยางเก่าที่มีสภาพสมบูรณ์สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้ค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ บานประตู ไม้พื้น ไม้บันได กรอบรูป รวมถึงไม้สำหรับตกแต่งภายในที่เน้นโชว์ความสวยงามของลายไม้เป็นพิเศษ เนื่องจากเนื้อไม้มีสีน้ำตาลแดงหรือน้ำตาลเทา เสี้ยนตรงเนื้อไม้หยาบ แข็งปานกลาง เลื่อยไสกบตกแต่งให้เรียบได้ง่าย จึงนิยามนำมาเลื่อยทำ ฝาบ้าน ทำไม้คร่าว ไม้ระแนง โครงหลังคา ทำพื้น เพดาน รอด ตง และ เครื่องเรือนต่าง ๆ [4]
จุดเด่นของไม้ยาง
ไม้ยางจะมีความอ่อนตัวสูง มีน้ำหนักเบา จึงง่ายต่อการนำไปแปรรูปในลักษณะต่าง ๆ โดยเฉพาะสีของเนื้อไม้ที่สามารถแต่งเติมได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งลวดลายของไม้ยังดูเป็นธรรมชาติ สวยงามและมีเอกลักษณ์ และที่สำคัญลายไม้ที่ได้จากการเลื่อยตัดรัศมีจะดูมีความโดดเด่นและแตกต่างไปจากไม้ชนิดอื่น ๆ เมื่อนำไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ก็จะทำให้ดูมีเอกลักษณ์มากขึ้น
จะเห็นได้ว่าไม้ยางก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย หากคุณกำลังมองหาไม้ราคาถูกที่สามารถนำไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือวัสดุตกแต่งบ้าน ก็สามารถใช้ไม้ ยางพารา หรือไม้ยางนาได้เลย อย่างไรก็ตามหากคุณผู้อ่านท่านใดที่ต้องการไม้เก่า หรือไม้แปรรูปอื่น ๆ ที่มีคุณภาพดี TWOMENWOOD ก็มีสินค้าพร้อมจัดจำหน่ายและส่งทั่วประเทศด้วย เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี
หมายเหตุ ร้านเราจะขายไม้เก่าไทย เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็ง สามารถตรวจเช็คราคาได้ทางข้างล่าง