สินค้า
ทำความรู้จักกับไม้แดง อีกหนึ่งไม้เนื้อแข็งที่มีดีไม่แพ้ไม้ชนิดอื่น
ส่วนส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจ
สำนักเศรษฐกิจการป่าไม้ ได้กล่าวว่า ไม้แดงเป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและมีคุณคุณค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ
โดยจะขึ้นอยู่ทั่วไปตามป่าเบญจพรรณแล้งและชื้น รวมถึงป่าเต็งรังที่อยู่ทางภาคเหนือ
ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ที่อยู่เหนือจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ไม้แดงจัดอยู่ในประเภทไม้เนื้อแข็ง มีความแน่น ทนทาน รับน้ำหนักได้ดี
เนื้อไม้มีสีน้ำตาลอมแดง และมีจุดดำแทรกในเนื้อไม้ ปัจจุบันนิยมนำไปใช้ในการก่อสร้างทั้งภายนอกและภายในอาคาร
อาทิ เช่น ปูพื้น เสา คาน ฝาบ้าน ชายคา ตง รั้วไม้ เป็นต้น [1]
กรมป่าไม้ได้ให้ข้อมูลว่า ไม้แดงเป็นไม้ที่เติบโตได้ช้า แต่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจของไทยอยู่พอสมควร จัดเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่แห้งแล้ง อุณหภูมิสูงถึง 38–39 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยประมาณ 1,000 มิลลิเมตร/ปี และสภาพดินที่ค่อนข้างลึก โดยเฉลี่ยแล้วไม้แดงอายุ 5 ปี จะมีความสูงประมาณ 25 ฟุต และมีเส้นรอบวงกลม 10 นิ้ว ในขณะที่ไม้แดงอายุ 10 ปี จะมีความสูงประมาณ 60 ฟุต และมีเส้นรอบวงกลม 22 นิ้ว สำหรับไม้แดงที่เหมาะกับการนำมาใช้งานจะเป็นไม้แดงที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ซึ่งโรงไม้ของเราก็มีสินค้าไม้แดงแปรรูปจัดส่งทั่วประเทศด้วย [2]
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นแดง
แดง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีการผลัดใบสูงถึง 15–25 เมตร ลำต้นมีลักษณะเปลาตรงเปลือกเรียบสีเทาอมแดง ตกสะเก็ดออกเป็นแผ่นกลมบางๆ รอบลำต้น ลักษณะเนื้อไม้สีแดงเรื่อๆ หรือสีน้ำตาลอมแดง เนื้อละเอียดพอประมาณ แข็ง เหนียว ใบเป็นช่อแบบขนนกสองชั้น ช่อใบยาว 10 – 22 เซนติเมตร ดอกสีเหลือง ขนาดเล็ก ขึ้นอัดกันแน่นบนช่อกลมเดี่ยวๆ และผลเป็นฝักแบน รูปขอบขนานเรียวและโค้งงอที่ส่วนปลาย ฝักแข็ง สีน้ำตาลอมเทา ผิวเรียบ ไม่มีขนปกคลุม ยาวประมาณ 7 – 10 เซนติเมตร [1]
คุณสมบัติและลักษณะเฉพาะของไม้แดง ไม้เนื้อแข็งที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
ไม้แดง เป็นไม้เนื้อแข็งที่ได้รับความนิยมในงานก่อสร้างและตกแต่งในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยคุณสมบัติเด่นที่เหมาะสำหรับงานโครงสร้างและงานตกแต่งที่ต้องการความสวยงามและทนทาน มาดูรายละเอียดเกี่ยวกับ ไม้แดง เพื่อเข้าใจคุณค่าของไม้นี้มากขึ้น
1. ความแข็งแรงและความทนทาน
ไม้แดง มีชื่อเสียงเรื่องความแข็งแกร่งและความทนทานสูง ด้วยโครงสร้างเนื้อไม้ที่หนาแน่น ทำให้ไม้แดงสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี ทนต่อแรงกระแทก และไม่บิดงอง่ายเมื่อใช้งานในระยะยาว
ทนต่อปลวกและแมลง: ไม้แดงมีความต้านทานต่อปลวกและแมลงตามธรรมชาติ ทำให้งานก่อสร้างที่ใช้ไม้แดงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ทนต่อสภาพอากาศ: ไม้แดงเหมาะสำหรับใช้งานทั้งภายในและภายนอก เพราะสามารถทนต่อความชื้นและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดี
2. ลักษณะลวดลายและสีสัน
ไม้แดง มีลวดลายที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ สีของไม้มีโทนแดงเข้มถึงน้ำตาลแดง ซึ่งเพิ่มความอบอุ่นและความหรูหราให้กับงานตกแต่ง
ผิวไม้: ผิวไม้แดงเรียบเนียน แต่ยังคงรักษาความรู้สึกของไม้ธรรมชาติ
ความเปลี่ยนแปลงของสี: เมื่อใช้งานไปนานๆ สีของไม้แดงจะเข้มขึ้นเล็กน้อย ยิ่งเพิ่มความคลาสสิกให้กับเฟอร์นิเจอร์หรือพื้นที่ใช้งาน
3. การใช้งานที่หลากหลาย
ไม้แดง ถูกนำมาใช้ในงานหลากหลายประเภท ตั้งแต่งานโครงสร้างไปจนถึงงานตกแต่ง
งานโครงสร้าง: เช่น เสา คาน และโครงสร้างบ้าน เนื่องจากไม้แดงรองรับน้ำหนักได้ดี
งานตกแต่ง: พื้นไม้ ผนังไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะและเก้าอี้ ซึ่งต้องการความแข็งแรงควบคู่กับความสวยงาม
4. การดูแลรักษาไม้แดง
แม้ว่า ไม้แดง จะมีความทนทานสูง แต่การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีย่อมช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีก
การเคลือบผิวไม้: การเคลือบด้วยน้ำมันหรือแลคเกอร์ช่วยปกป้องผิวไม้จากความชื้นและรอยขีดข่วน
การทำความสะอาด: ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดเช็ดเพื่อรักษาความเงางามและกำจัดฝุ่น
ทำไมไม้แดงถึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม?
ด้วยความแข็งแรง สีสันสวยงาม และความสามารถในการใช้งานที่หลากหลาย ไม้แดงจึงเป็นไม้เนื้อแข็งที่เหมาะกับทั้งงานโครงสร้างและงานตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้าน ตกแต่งภายใน หรือทำเฟอร์นิเจอร์ การเลือก ไม้แดง จากแหล่งที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ในคุณภาพและอายุการใช้งาน
ชนิดของไม้แดง
ไม้แดงจะมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน ซึ่งลักษณะของไม้จะไม่ต่างกันมากนัก โดยสามารถจำแนกได้ ดังนี้
• ไม้แดงชนิด Xylia xylocarpa (Roxb.) Taub จัดเป็นไม้แดงขนาดใหญ่ มักขึ้นในป่าชื้นและป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือ และภาคใต้ (อย่างน้อยไปถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี) ใบมีลักษณะเกลี้ยง และปลายเกสรตัวผู้มีต่อม
• ไม้แดงชนิด Xylia kerrii Craib & Hutch เป็นไม้แดงขนาดย่อม มักขึ้นในป่าเต็งรัง หรือขึ้นอยู่ประปรายในทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ยังสามารถพบได้มากตามป่าสัก ในส่วนของท้องใบจะมีขน และปลายเกสรตัวผู้จะไม่มีต่อม [2]
เปรียบเทียบไม้แดงกับไม้ชนิดอื่น ไม้แบบไหนเหมาะกับคุณ ?
ไม้แดง เป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งยอดนิยมที่มีคุณสมบัติเด่นเรื่องความแข็งแรงและทนทาน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับไม้ชนิดอื่น เช่น ไม้เต็ง ไม้สัก และไม้พะยูง คุณอาจสงสัยว่าไม้ชนิดใดเหมาะสมกับงานของคุณมากที่สุด บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบคุณสมบัติของ ไม้แดง กับไม้ชนิดอื่นเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ไม้แดง vs ไม้เต็ง
ความแข็งแรง: ไม้แดงมีความแข็งแรงใกล้เคียงกับไม้เต็ง แต่ไม้แดงมีความเหนียวและทนต่อแรงกระแทกมากกว่า
ลักษณะลวดลาย: ไม้แดงมีสีแดงอมน้ำตาลและลวดลายเด่นชัด ขณะที่ไม้เต็งมีสีออกเหลืองน้ำตาล
การใช้งาน: ทั้งสองเหมาะสำหรับงานโครงสร้าง เช่น เสา หรือคานไม้ แต่ ไม้แดง เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความสวยงามเพิ่มเติม เช่น พื้นหรือเฟอร์นิเจอร์
ไม้แดง vs ไม้สัก
ความทนทาน: ไม้แดงแข็งกว่ามากเมื่อเทียบกับไม้สัก และทนต่อปลวกโดยธรรมชาติได้ดี
น้ำหนัก: ไม้แดงมีน้ำหนักมากกว่าไม้สัก จึงเหมาะกับงานที่ต้องการความแข็งแกร่ง เช่น พื้นบ้านหรือสะพาน
ความสวยงาม: ไม้สักมีลวดลายละเอียดและสีทองอันโดดเด่น ขณะที่ ไม้แดง มีลายชัดและดูคลาสสิก
ไม้แดง vs ไม้พยุง
ราคา: ไม้พะยูงมีราคาสูงกว่าไม้แดงอย่างมาก เนื่องจากความหายากและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์
ความแข็งแรง: ไม้แดงมีความแข็งแรงกว่าไม้พะยูงในแง่การใช้งานจริง
การใช้งาน: ไม้พะยูงมักถูกใช้ในงานตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์หรูหรา ในขณะที่ ไม้แดง มีความหลากหลายและเหมาะกับงานโครงสร้างเช่นเดียวกัน
ทำไมควรเลือกไม้แดง?
หากคุณมองหาไม้ที่มีความแข็งแรง ทนทาน และราคาคุ้มค่า ไม้แดง เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทั้งงานโครงสร้างและงานตกแต่ง นอกจากนี้ ไม้แดงยังมีสีสันและลวดลายที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านหรืออาคารของคุณ
เลือกไม้แดงจากผู้จัดจำหน่ายที่มีคุณภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าได้ไม้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแท้จริง
ข้อดีของไม้แดง
• เนื้อไม้มีความหนาแน่น (ความแน่น 1,010 กก.ม3) แข็งแรงและทนทาน (ความแข็ง 1,030 กก.) จึงสามารถรับน้ำหนักได้มากพอสมควร โดยเฉพาะไม้แดงเก่าจะมีความสามารถในการรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้ดีมาก
• ไม้แดงมีลายเส้นสีเข้ม สวยงาม โดยโทนสีของไม้แดงจะอยู่ในโทนน้ำตาลอมแดง ซึ่งจัดเป็นสีที่มีความโดดเด่น เหมาะกับการตกแต่งบ้านเรือน และงานเฟอร์นิเจอร์อย่างมาก
• ไม้แดงเป็นไม้ที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องปลวก และแมลงมารบกวน เนื่องจากเนื้อไม้มีความแข็งและแน่นเป็นพิเศษ ซึ่งยากต่อการกัดแทะ จึงนิยมนำมาแปรรูปเพื่อใช้งานในด้านต่าง ๆ
ข้อเสียของไม้แดง
• เนื้อไม้แดงมีความแข็งและแน่นมาก ในขณะเดียวกันก็จัดเป็นไม้ที่มีอัตราการยืดและหดตัวสูง จึงอาจจะไม่เหมาะกับการใช้เป็นโครงสร้างของอาคารบ้านเรือน รวมถึงงานตกแต่งภายนอก ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมใช้ตกแต่งภายในมากกว่า
• ด้วยความที่เนื้อไม้มีความแข็งและหนาแน่น จึงทำให้ยากต่อการตัดแต่งและการเจาะ
• เนื่องจากเนื้อไม้แดงมีความหนาแน่นค่อนข้างมาก จึงส่งผลให้มีน้ำหนักมากตามไปด้วย ซึ่งอาจจะทำให้ลำบากต่อการเคลื่อนที่และขนย้าย
ไม้แดงเก่า แปรรูปเป็นอะไรได้บ้าง ?
ไม้แดงเก่า เป็นไม้ที่ผ่านการใช้งานมาแล้วหลายปี จึงทำให้ไม้จำนวนมากมีตำหนิ ส่วนใหญ่จะได้จากบ้านไม้เก่าหรือไม้แดงเหลือทิ้งที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว หากเป็นไม้แดงเก่าที่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้อย่างหลากหลาย เช่น ไม้พื้น ไม้ฝา ไม้เสา เฟอร์นิเจอร์ เครื่องมือทางการเกษตร เป็นต้น
ประเภทและขนาดของไม้ที่ทางร้านจำหน่าย
• ไม้พื้น เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถรับน้ำหนักได้ดี เหมาะกับการนำไปใช้เป็นไม้พื้นตามบริเวณต่าง ๆ ขนาดจำหน่ายมีตั้งแต่ 1“, 1.5” และ 2“
• ไม้ฝา เป็นไม้เทียมที่มีลักษณะคล้ายไม้จริง แต่สามารถทนต่อสภาพอากาศและการใช้งานได้เป็นอย่างดี จึงสามารถใช้ตกแต่งได้ทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นส่วนของผนัง ฝ้า เพดาน รวมถึงรั้วบ้าน ขนาดจำหน่ายมีตั้งแต่ 1“, 1.5” และ 2“
• ไม้เสา เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีอายุมากหรือไม้เก่าที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ทำให้เนื้อไม้มีความแข็งแรงและทนทานมากเป็นพิเศษ สามารถแบกรับน้ำหนักส่วนต่าง ๆ ของบ้านได้เป็นอย่างดี ขนาดจำหน่ายมีตั้งแต่ 1“, 1.5” และ 2“
ไม้แดงเก่าแปรรูป และขนาดมาตรฐาน
ขนาดมาตรฐานของไม้แดงเก่าแปรรูปจะขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้งาน รวมถึงสภาพโดยรวมของไม้ ซึ่งสามารถแบ่งไม้แดงเก่าแปรรูปออกเป็นหลายประเภทด้วยกัน ดังนี้
• ไม้กระดาน หากเป็นไม้กระดานสำหรับใช้ทำพื้นจะมีขนาดตั้งแต่ 1×4, 1×6 และ 1×8 นิ้ว ส่วนไม้กระดานสำหรับใช้ทำฝาหรือเชิงชายจะมีขนาดเริ่มต้นที่ 1/2×6 นิ้ว และ 3/4×8 นิ้ว
• ไม้คานหรือตง ขนาดมาตรฐานของไม้คาน คือ 2×6 นิ้ว, 2/2×6 นิ้ว, 2×8 นิ้ว และ 2×10 นิ้ว ส่วนขนาดมาตรฐานของตง คือ 1 1/2×5 นิ้ว และ 2×6 นิ้ว @0.50 เมตร
• ไม้อเส ขื่อ อกไก่และจันทัน ขนาดมาตรฐานของอเส ขื่อและอกไก่ คือ 2×6 นิ้ว และ 2×8 นิ้ว ส่วนขนาดมาตรฐานของจันทัน คือ 1 1/2×5 นิ้ว, 2×6 นิ้ว @1 เมตร
• ไม้เสา ขนาดมาตรฐานของเสาไม้ต้องมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเท่านั้น เช่น 4×4 นิ้ว, 6×6 นิ้ว และ 8×8 นิ้ว หรือเสากลม
• ไม้วงกบประตูและหน้าต่าง ขนาดมาตรฐานหรือขนาดทั่วไปของไม้วงกบประตูและหน้าต่างจะอยู่ที่ 2×4 นิ้ว ทั้งนี้ขนาดของไม้จะขึ้นอยู่กับรูปแบบของประตูหรือหน้าต่าง
การใช้ประโยชน์ไม้แดง
ไม้แดงมีเนื้อไม้แข็งแรง ทนทาน สามารถทนทานต่อแรงกระแทกได้สูง อีกทั้งยังทนต่อปลวกหรือแมลงกัดกิน จึงนำมาแปรรูปใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย นิยมใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน เช่น ทำเสาบ้าน รอด ตง ใช้ทำกระดานพื้นบ้าน ฝาบ้าน เป็นต้น นอกจากนั้นยังสามารถนำไปทำเป็นเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น ใช้ทำด้าม ทำหมอนรางรถไฟ ทำคันไถ ครง สาก ฯลฯ [3]
จุดเด่นของไม้แดง
เนื้อไม้แดงจะแข็งและแน่น จึงทำให้ตัดหรือเจาะได้ยาก หากสังเกตดี ๆ บริเวณหน้าตัดของไม้แดงจะมีรอยเยิ้ม ซึ่งเกิดจากยางไม้ ส่วนของเส้นไม้จะค่อนข้างละเอียดจนในบางครั้งแทบจะมองไม่เห็นลายไม้เลยก็ว่าได้ แต่โดยรวมแล้วยังมีความโดดเด่นและสวยงาม ซึ่งเนื้อไม้จะมีสีแดงระเรื่อ หรือสีน้ำตาลอมแดง ไม้แดงใหม่จะมีกลิ่นเหม็น ต่างจากไม้เก่าที่แห้งแล้วจะไม่มีกลิ่น เพราะฉะนั้นไม้แดงเก่าที่มีอายุมากกว่า 10 ปี จะเหมาะกับการนำไปใช้ในการก่อสร้างมากกว่า
จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า ไม้แดงถือเป็นไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีคุณค่าและควรอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างยิ่ง เพราะจัดเป็นไม้ประเภทโตช้า ในขณะเดียวกันความต้องการในตลาดก็มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากคุณสมบัติที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ไม้แดงยังมีคุณสมบัติที่ทนต่อไฟอีกด้วย จึงเหมาะที่จะเป็นวัสดุก่อสร้าง และเครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ หากพูดถึงไม้แดง ราคาอาจแพงหน่อย ขึ้นอยู่กับขนาดและคุณภาพ หากคุณสนใจไม้เก่า ไม้จริงหรือไม้แดงแปรรูปคุณภาพดี TWOMENWOOD ก็มีสินค้าจำหน่ายและจัดส่งทั่วประเทศด้วยเช่นกัน สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี