
สินค้า

สำหรับการไสไม้หลายท่านเกิดคำถามว่าไสทำไม เมื่อเป็นแผ่นไม้แล้วก็สามารถนำมาใช้งานได้เลย แต่ตามหลักแล้วไม้ที่นำมาใช้งานจริงจะต้องมีความเรียบ ไม่โก่ง ไม่นูน ไม่บิดเบี้ยว การไสไม้จึงเป็นงานหนึ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับงานไม้ เพราะการไสไม้เป็นเป็นงานเบื้องต้นสำหรับไม้ทุกแผ่นเลยก็ว่าได้ เราจะพาทุกคนทำความเข้าใจกับบทความต่อจากนี้กันเลย
ไสไม้คืออะไร? ความสำคัญของการไสไม้ในงานไม้
ไสไม้ เป็นกระบวนการสำคัญในงานไม้ที่ช่วยปรับพื้นผิวของไม้ให้เรียบเสมอกัน เพื่อให้ง่ายต่อการนำไปใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่ง หรือการก่อสร้างโครงสร้างไม้ต่าง ๆ การไสไม้มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มคุณภาพและความสวยงามของผลงานไม้ อีกทั้งยังช่วยเตรียมไม้ให้เหมาะสมกับการใช้งานในขั้นตอนต่อไป[1]
ไสไม้คืออะไร?
การไสไม้ คือกระบวนการลบชั้นผิวของไม้ที่ไม่เรียบหรือมีความหนาเกินไป ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า กบไสไม้ หรือ เครื่องไสไม้ ซึ่งมีทั้งแบบใช้มือและเครื่องจักรอัตโนมัติ กระบวนการนี้ช่วยปรับระดับผิวไม้ให้เรียบเสมอและตรงตามความหนาที่ต้องการ
ความสำคัญของการไสไม้ในงานไม้
เพิ่มความเรียบและความสวยงาม
การไสไม้ช่วยลบผิวหยาบหรือรอยขรุขระ ทำให้ไม้มีผิวสัมผัสที่เรียบเนียนและดูสวยงามเหมาะสำหรับงานตกแต่ง
ปรับขนาดและความหนาให้เหมาะสม
การไสไม้ช่วยปรับขนาดของไม้ให้ได้มาตรฐานและเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น การนำไปทำแผ่นไม้สำหรับเฟอร์นิเจอร์หรือชิ้นส่วนโครงสร้าง
เตรียมไม้สำหรับการติดกาวหรือต่อไม้
ไม้ที่ผ่านการไสจะมีพื้นผิวที่เรียบและติดกาวได้ดีขึ้น ทำให้งานประกอบไม้มีความแข็งแรงและทนทาน
ช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงาน
การไสไม้ช่วยให้ไม้มีความตรงและสมดุล ซึ่งช่วยลดปัญหาเช่น การประกอบไม้ที่ไม่พอดีหรือการเกิดรอยแตกร้าว
เพิ่มคุณภาพของชิ้นงาน
ชิ้นงานที่ใช้ไม้ที่ผ่านการไสจะมีคุณภาพและความคงทนที่ดีกว่า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าของผลงานไม้อีกด้วย
เครื่องมือที่ใช้ในการไสไม้
กบไสไม้มือ
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความประณีตและการควบคุมมากขึ้น เช่น งานเฟอร์นิเจอร์หรือไม้ตกแต่ง
เครื่องไสไม้ไฟฟ้า
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเร็วและปริมาณมาก เช่น การไสไม้ในโรงงานหรือโครงการก่อสร้าง
การไสไม้เป็นกระบวนการที่ขาดไม่ได้ในงานไม้ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมไม้ให้เรียบเนียนหรือการปรับขนาดให้เหมาะสม การทำความเข้าใจถึงความสำคัญของการไสไม้จะช่วยให้ช่างไม้หรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับไม้สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพและความสวยงามสูงสุดได้[1]

ขั้นตอนการไสไม้ให้เรียบและได้มาตรฐาน
การ ไสไม้ เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยปรับผิวไม้ให้เรียบเนียนและได้ขนาดตามต้องการ เพื่อนำไปใช้ในงานตกแต่งหรือโครงสร้างต่าง ๆ การไสไม้ที่ถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงามของชิ้นงาน แต่ยังช่วยให้โครงสร้างแข็งแรงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ในบทความนี้เราจะมาแนะนำขั้นตอนการไสไม้ให้เรียบและได้มาตรฐาน พร้อมเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณได้งานที่สมบูรณ์แบบ[2]
ขั้นตอนการไสไม้ให้เรียบและได้มาตรฐาน
1. เตรียมอุปกรณ์และพื้นที่ทำงาน
เครื่องมือที่จำเป็น:
กบไสไม้มือ หรือเครื่องไสไม้ไฟฟ้า
ฉากวัดระดับ (Square)
กระดาษทรายสำหรับขัดผิว
อุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงมือ แว่นตา และหน้ากากกันฝุ่น
การเตรียมพื้นที่:
เลือกพื้นที่ทำงานที่สะอาดและโล่ง
จัดเตรียมโต๊ะหรือแท่นยึดไม้ให้มั่นคง
2. ตรวจสอบและเตรียมไม้ก่อนการไส
เลือกไม้ที่แห้งสนิทและไม่มีความชื้นสูง
ตรวจดูว่าชิ้นไม้ไม่มีตะปู เศษโลหะ หรือสิ่งแปลกปลอม
หากไม้มีรอยแตกร้าว ควรตัดส่วนที่เสียออกก่อน
3. กำหนดขนาดและความหนาที่ต้องการ
วัดขนาดไม้ที่ต้องการด้วยฉากวัดระดับและดินสอ
กำหนดความลึกของการไส โดยปรับระดับเครื่องไสไม้ (สำหรับเครื่องไฟฟ้า) หรือควบคุมแรงกด (สำหรับกบไสไม้มือ)
4. เริ่มต้นการไสไม้
สำหรับกบไสไม้มือ:
วางกบไสไม้ลงบนผิวไม้ให้แนบสนิท
ดันกบไสไม้ไปข้างหน้าด้วยแรงสม่ำเสมอ
ทำซ้ำจนได้ความเรียบและขนาดที่ต้องการ
สำหรับเครื่องไสไม้ไฟฟ้า:
ตั้งเครื่องในระดับความลึกที่เหมาะสม
เลื่อนชิ้นไม้เข้าสู่เครื่องอย่างระมัดระวัง
ตรวจสอบผิวไม้ระหว่างการไสเพื่อป้องกันการตัดเกิน
5. ขัดผิวไม้ให้เรียบเนียน
หลังจากไสไม้เสร็จ ใช้กระดาษทรายขัดผิวไม้เพื่อกำจัดรอยเสี้ยน
เริ่มจากกระดาษทรายหยาบ (เบอร์ 80-100) และค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นกระดาษทรายละเอียด (เบอร์ 180-220)
6. ตรวจสอบและปรับแต่งงาน
ตรวจสอบความเรียบและความหนาของไม้โดยใช้ฉากวัดระดับ
หากพบจุดที่ไม่สม่ำเสมอ ให้ไสไม้หรือขัดเพิ่มเติม
เคล็ดลับสำหรับการไสไม้ให้ได้มาตรฐาน
ฝึกฝนการใช้แรงกด: การไสไม้ด้วยแรงที่สม่ำเสมอช่วยให้ผิวไม้เรียบเนียน
รักษาความคมของใบมีด: ใบมีดที่คมจะช่วยให้การไสไม้เป็นไปอย่างราบรื่น
ตรวจสอบทิศทางลายไม้: ควรไสไม้ตามทิศทางของลายไม้เพื่อลดการฉีกขาด
ใช้ความเร็วที่เหมาะสม: สำหรับเครื่องไสไม้ไฟฟ้า ควรปรับความเร็วให้เหมาะกับชนิดของไม้
การไสไม้ให้เรียบและได้มาตรฐานไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องและมีความระมัดระวังในทุกกระบวนการ เครื่องมือที่เหมาะสมและการเตรียมงานที่ดีจะช่วยให้คุณได้งานไม้ที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการ[2]

ประเภทของเครื่องมือไสไม้ และการเลือกใช้ให้เหมาะสม
ไสไม้ เป็นขั้นตอนสำคัญในงานไม้ที่ช่วยปรับผิวไม้ให้เรียบและได้ขนาดตามต้องการ การเลือกใช้เครื่องมือไสไม้ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของงาน เครื่องมือสำหรับไสไม้มีหลายประเภท ทั้งแบบมือและแบบเครื่องจักร ซึ่งแต่ละแบบเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน[3]
ประเภทของเครื่องมือไสไม้
1. กบไสไม้มือ (Hand Planer)
ลักษณะ: เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้แรงมือในการไสไม้ มีส่วนใบมีดสำหรับตัดผิวไม้และตัวจับเพื่อควบคุม
เหมาะสำหรับ:
งานที่ต้องการความละเอียดและประณีต เช่น งานตกแต่งหรือการแก้ไขชิ้นงานเฉพาะจุด
การไสไม้ขนาดเล็กหรือการปรับแต่งไม้ให้ได้รูปทรงตามต้องการ
ข้อดี: ควบคุมง่าย ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า เหมาะกับงาน DIY
ข้อเสีย: ใช้เวลาและแรงมากในการทำงาน
2. เครื่องไสไม้ไฟฟ้า (Electric Planer)
ลักษณะ: เป็นเครื่องมือไฟฟ้าที่มีใบมีดหมุนเพื่อตัดผิวไม้ ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำ
เหมาะสำหรับ:
งานที่ต้องการไสไม้จำนวนมากในเวลาสั้น
งานที่ต้องการความหนาและขนาดที่เที่ยงตรง เช่น การทำไม้แผ่นหรือเฟอร์นิเจอร์
ข้อดี: ประหยัดเวลาและแรง สามารถปรับระดับความลึกของการไสได้
ข้อเสีย: ต้องใช้งานด้วยความระมัดระวังและมีราคาสูงกว่ากบไสไม้มือ
3. เครื่องไสไม้แบบตั้งโต๊ะ (Benchtop Planer)
ลักษณะ: เครื่องไสไม้ขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการไสไม้แผ่นหนาและยาว มักใช้ในโรงงานหรือช่างมืออาชีพ
เหมาะสำหรับ:
งานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น การผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ขนาดใหญ่
การไสไม้แผ่นใหญ่ที่ต้องการความสม่ำเสมอในทุกชิ้น
ข้อดี: สามารถไสไม้ได้ปริมาณมากในเวลาอันสั้น
ข้อเสีย: ขนาดใหญ่และต้องการพื้นที่สำหรับการติดตั้ง
4. เครื่องไสไม้แบบรวมฟังก์ชัน (Combination Planer and Jointer)
ลักษณะ: รวมฟังก์ชันไสไม้และปรับผิวไม้ในเครื่องเดียว
เหมาะสำหรับ:
ช่างมืออาชีพที่ต้องการเครื่องมืออเนกประสงค์
งานที่ต้องการทั้งการปรับผิวไม้และไสไม้ในกระบวนการเดียว
ข้อดี: ประหยัดพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ข้อเสีย: ราคาสูงและต้องการการดูแลรักษาที่ดี
การเลือกใช้เครื่องมือไสไม้ให้เหมาะสม
ลักษณะงาน
สำหรับงานเล็กหรือการตกแต่งเฉพาะจุด ใช้กบไสไม้มือ
สำหรับงานใหญ่หรือปริมาณมาก เลือกเครื่องไสไม้ไฟฟ้าหรือแบบตั้งโต๊ะ
ความชำนาญ
หากเป็นมือใหม่ ควรเริ่มจากกบไสไม้มือเพื่อเรียนรู้การควบคุม
สำหรับผู้มีประสบการณ์ เครื่องไสไม้ไฟฟ้าจะช่วยประหยัดเวลา
งบประมาณ
หากงบจำกัด กบไสไม้มือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า
หากมีงบประมาณ เครื่องไสไม้แบบตั้งโต๊ะจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
ขนาดของไม้ที่ใช้งาน
ไม้ขนาดเล็กเหมาะกับกบไสไม้มือ
ไม้แผ่นใหญ่เหมาะกับเครื่องไสไม้แบบตั้งโต๊ะ
การเลือกเครื่องมือไสไม้ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มคุณภาพของงานไม้และลดเวลาที่ใช้ในกระบวนการ เครื่องมือแต่ละประเภทมีข้อดีและเหมาะสมกับงานที่ต่างกัน ดังนั้นควรเลือกใช้งานตามความต้องการและลักษณะงานที่ทำ[3]

ระดับของการไสไม้
การ ไสไม้ เป็นกระบวนการสำคัญในงานไม้ที่ช่วยปรับแต่งผิวไม้ให้เรียบและได้ขนาดตามต้องการ ในงานไม้ที่ต้องการความแม่นยำและความสวยงาม การไสไม้ไม่ได้มีเพียงขั้นตอนเดียว แต่สามารถแบ่งออกเป็นระดับต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทของงานและผลลัพธ์ที่ต้องการ ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับระดับของการไสไม้ พร้อมคำแนะนำสำหรับการใช้งานในแต่ละระดับ
1. การไสไม้ขั้นต้น (Rough Planing)
การไสไม้ขั้นต้นคือการปรับแต่งผิวไม้เบื้องต้นเพื่อกำจัดส่วนที่ไม่เรียบ เช่น เปลือกไม้ รอยตัดที่ไม่เท่ากัน หรือพื้นผิวที่ขรุขระ
ลักษณะงาน:
ใช้สำหรับไม้ที่ยังไม่ได้ผ่านการแปรรูป
ช่วยกำหนดขนาดและรูปร่างคร่าว ๆ ของชิ้นงาน
เครื่องมือที่ใช้:
กบไสไม้มือแบบหยาบ
เครื่องไสไม้ไฟฟ้าที่ตั้งระดับความลึกมาก
2. การไสไม้ระดับกลาง (Intermediate Planing)
ขั้นตอนนี้จะช่วยให้ผิวไม้เรียบยิ่งขึ้นหลังจากการไสขั้นต้น และปรับขนาดให้ใกล้เคียงกับที่ต้องการมากขึ้น
ลักษณะงาน:
เน้นการปรับแต่งผิวไม้ให้เรียบกว่าเดิม
ลดความผิดเพี้ยนจากขั้นตอนแรก
เครื่องมือที่ใช้:
กบไสไม้มือที่มีใบมีดละเอียดกว่า
เครื่องไสไม้ไฟฟ้าที่ตั้งระดับความลึกปานกลาง
3. การไสไม้ขั้นละเอียด (Fine Planing)
ขั้นตอนนี้เป็นการไสไม้ขั้นสุดท้ายที่มุ่งเน้นการทำให้ผิวไม้เรียบเนียนและได้ขนาดที่แม่นยำ
ลักษณะงาน:
ใช้สำหรับงานตกแต่งหรืองานที่ต้องการความสวยงาม
เตรียมพื้นผิวสำหรับการทำสีหรือเคลือบ
เครื่องมือที่ใช้:
กบไสไม้มือแบบละเอียด
เครื่องไสไม้ไฟฟ้าที่ตั้งระดับความลึกต่ำ
กระดาษทรายขัดเพิ่มเติมหลังการไส
ข้อควรระวังในแต่ละระดับของการไสไม้
ตรวจสอบลายไม้: ควรไสไม้ตามทิศทางของลายไม้เพื่อลดการฉีกขาดของเนื้อไม้
ปรับระดับความลึกให้เหมาะสม: การตั้งค่าความลึกที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ไม้เสียหาย
ใช้แรงกดที่สม่ำเสมอ: เพื่อป้องกันการเกิดรอยลึกหรือพื้นที่ที่ไม่สม่ำเสมอบนผิวไม้
ประโยชน์ของการไสไม้ในแต่ละระดับ
ช่วยให้ได้งานไม้ที่มีความเรียบและสวยงาม
เพิ่มความแม่นยำในงานประกอบไม้
ช่วยลดเวลาและความยุ่งยากในกระบวนการทำสีหรือเคลือบ
การไสไม้สามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ไสไม้ขั้นต้น ระดับกลาง และขั้นละเอียด แต่ละระดับมีความสำคัญในกระบวนการผลิตชิ้นงานไม้ที่มีคุณภาพ การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมและการปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องจะช่วยให้ได้ผลงานที่สวยงาม แข็งแรง และมีความแม่นยำ

ประโยชน์ของการไสไม้ในงานตกแต่งและก่อสร้าง
การ ไสไม้ เป็นขั้นตอนสำคัญที่มีบทบาททั้งในงานตกแต่งและงานก่อสร้าง โดยช่วยปรับแต่งพื้นผิวไม้ให้เรียบเนียน ได้มาตรฐาน และเหมาะสมต่อการใช้งานต่าง ๆ ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าการไสไม้มีประโยชน์อย่างไร และส่งผลดีต่อกระบวนการทำงานไม้ในด้านใดบ้าง
1. ช่วยปรับผิวไม้ให้เรียบเนียน
การไสไม้ช่วยขจัดความขรุขระ รอยตัด และข้อบกพร่องของพื้นผิวไม้ ทำให้ไม้ดูเรียบเนียนและพร้อมสำหรับการตกแต่งหรือประกอบในโครงสร้าง
เหมาะสำหรับ:
งานเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ ตู้ และเก้าอี้
งานพื้นและผนังไม้
2. เพิ่มความแม่นยำในขนาดและรูปร่าง
การไสไม้ช่วยปรับขนาดและรูปร่างของไม้ให้ตรงตามที่ต้องการ ทำให้ง่ายต่อการนำไปประกอบเข้ากับส่วนอื่น ๆ
เหมาะสำหรับ:
การสร้างโครงสร้างไม้ เช่น เสา คาน และแป
งานต่อเติมและตกแต่ง เช่น การประกอบบานประตูหรือหน้าต่าง
3. ช่วยลดการเกิดปัญหาในงานประกอบ
พื้นผิวไม้ที่ผ่านการไสอย่างเหมาะสมช่วยลดปัญหาในการประกอบ เช่น การเกิดรอยต่อที่ไม่สนิท หรือการบิดงอที่ทำให้โครงสร้างไม่แข็งแรง
ผลลัพธ์ที่ได้:
งานประกอบมีความแข็งแรงและสวยงาม
ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหา
4. เตรียมพื้นผิวสำหรับงานตกแต่งเพิ่มเติม
การไสไม้เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนการทำสี การเคลือบ หรือการลงน้ำมัน ช่วยให้สีหรือน้ำยาเคลือบซึมเข้าสู่เนื้อไม้ได้ดีขึ้นและให้ผลลัพธ์ที่สวยงาม
เหมาะสำหรับ:
งานเฟอร์นิเจอร์ไม้
งานตกแต่งภายใน เช่น ผนังและเพดานไม้
5. ช่วยยืดอายุการใช้งานของไม้
การไสไม้ช่วยขจัดส่วนที่เป็นข้อบกพร่อง เช่น รอยแตกหรือเปลือกไม้ที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาว เช่น การผุกร่อนหรือการเป็นที่สะสมของแมลง
ประโยชน์ในด้านอายุการใช้งาน:
ลดความเสี่ยงต่อการผุพัง
เพิ่มความทนทานของโครงสร้าง
6. ส่งเสริมความสวยงามของงานไม้
พื้นผิวไม้ที่เรียบเนียนและมีลายไม้เด่นชัด ช่วยเพิ่มความสวยงามและมูลค่าให้กับงานไม้ ไม่ว่าจะเป็นงานตกแต่งภายในหรืองานเฟอร์นิเจอร์
ตัวอย่างงาน:
งานไม้สไตล์ธรรมชาติ
งานไม้ที่โชว์ลายไม้เป็นเอกลักษณ์
7. ลดของเสียจากกระบวนการผลิต
การไสไม้ช่วยปรับแต่งไม้ที่อาจไม่ได้มาตรฐานให้กลับมาใช้งานได้ดี ลดการสูญเสียวัสดุและช่วยประหยัดต้นทุนในกระบวนการผลิต
ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ:
ลดค่าใช้จ่ายในงานไม้
ใช้วัสดุไม้ได้อย่างคุ้มค่า
การ ไสไม้ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความเรียบเนียนและความสวยงามให้กับไม้ แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงและยืดอายุการใช้งานของไม้ในงานตกแต่งและก่อสร้าง การเลือกใช้เครื่องมือและเทคนิคที่เหมาะสม จะช่วยให้งานไม้ของคุณออกมามีคุณภาพและตรงตามความต้องการ

ข้อดีและข้อเสียของการไสไม้แบบมือและเครื่องจักร
การ ไสไม้ เป็นกระบวนการสำคัญในงานไม้ที่ช่วยปรับพื้นผิวและขนาดของไม้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน การไสไม้สามารถทำได้ทั้งด้วยมือและเครื่องจักร ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อเสียที่เหมาะกับการใช้งานแตกต่างกันไป ในบทความนี้เราจะเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของการไสไม้ทั้งสองแบบ เพื่อช่วยให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด
1. การไสไม้แบบมือ
ข้อดี
ความละเอียดและการควบคุม:
การไสไม้ด้วยมือช่วยให้สามารถควบคุมความลึกและทิศทางของการไสได้ดี เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียด เช่น การปรับแต่งเฟอร์นิเจอร์ไม้ความยืดหยุ่นในการใช้งาน:
ไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าหรือเครื่องมือที่ซับซ้อน สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่จำกัดต้นทุนต่ำ:
ไม่ต้องลงทุนในเครื่องจักรราคาแพง เพียงแค่มีเครื่องมือพื้นฐาน เช่น กบไสไม้ ก็สามารถเริ่มงานได้
ข้อเสีย
ใช้เวลามาก:
การไสไม้ด้วยมือใช้เวลานาน โดยเฉพาะกับไม้ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ต้องการทักษะและประสบการณ์:
การไสไม้ด้วยมือให้ได้คุณภาพสูงต้องอาศัยความชำนาญ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับมือใหม่ความเมื่อยล้า:
การทำงานด้วยมือในระยะเวลานานอาจทำให้เหนื่อยและลดประสิทธิภาพในการทำงาน
2. การไสไม้ด้วยเครื่องจักร
ข้อดี
รวดเร็วและประหยัดแรงงาน:
เครื่องจักรช่วยลดเวลาและแรงที่ใช้ในกระบวนการไสไม้ โดยเฉพาะสำหรับงานที่มีปริมาณมากความแม่นยำสูง:
เครื่องจักรสามารถปรับแต่งความลึกและความเรียบได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ได้งานที่มีคุณภาพสูงเหมาะสำหรับงานขนาดใหญ่:
การไสไม้ขนาดใหญ่หรือการผลิตจำนวนมากสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเครื่องจักร
ข้อเสีย
ต้นทุนเริ่มต้นสูง:
เครื่องจักรสำหรับไสไม้ เช่น เครื่องรีดไม้หรือกบไฟฟ้า มีราคาสูงและอาจเกินงบประมาณสำหรับผู้เริ่มต้นต้องการพื้นที่และพลังงาน:
การติดตั้งเครื่องจักรต้องการพื้นที่และแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่เหมาะสมการบำรุงรักษา:
เครื่องจักรต้องการการดูแลรักษาและการซ่อมแซมเมื่อชำรุด ซึ่งอาจเพิ่มค่าใช้จ่ายในระยะยาว
การเลือกวิธี ไสไม้ ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและทรัพยากรที่มี หากคุณต้องการงานละเอียด หรืองานชิ้นเล็ก ๆ การไสไม้แบบมือเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการผลิตงานจำนวนมากในเวลาสั้น ๆ การใช้เครื่องจักรจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากกว่า
จากบทความข้างต้นที่กล่าวมาการไสไม้เป็นขั้นตอนหนึ่งที่อยู่ในกระบวกการผลิตงานไม้ การไสไม้หรือไสชิดเพื่อให้ไม้ที่ได้มีความเรียบ ความสวยงาม และความหนาตามขนาดที่เราต้องการ การไสไม้โดยรวมแล้วสามารถเซาะร่องเพื่อทำวงกบ ประตู และหน้าต่างหรืองานไม่ที่ละเอียด เป็นต้น ไม้ที่นำมาไสใช้ได้ทั้งไม้เก่าและไม้ใหม่ ถ้าความนิยมเลือกใช้เป็นไม้เก่าดีกว่าเพราะเราต้องทำการไสเสี้ยน รอยตะปู หรือรอยค้อนออกได้เหมือนไม้ใหม่ และไม้เก่าที่ได้มีความแห้ง ไม่บิดเบี้ยว หรือโกงงอ เพราะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าไม้ใหม่นั้นเอง ไม้ไม่มีความชื้น อีกทั้งยังทนต่อความชื้นอีกด้วย และไม่ต้องกังวลศัตรูพืชเลย สุดท้ายนี้จากบทความทั้งหมดสิ่งสำคัญเลยของการไสไม้เลยก็คือ เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ทักษะ ความละเอียดสูง และต้องมีความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องมือและวัสดุอื่นๆที่จะต้องใช้ร่วมกับการไสไม้ เพื่อให้งานไม้ที่ผ่านการไสหรือไสชิดมีความสวยงาม เรียบร้อยใช้งานได้จริง เพราะเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งของบ้านเลยทีเดียวที่จะโชว์ลวดลายของบ้านให้มีความโดดเด่น
ถ้าหากท่านใดที่กำลังต้องการไม้เก่าคุณภาพดีและไม้อื่น เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็ง เป็นต้น สามารถเลือกซื้อสินค้าจากทางร้าน TWOMENWOOD มีไม้ให้เลือกหลายเกรดหลายชนิดเต็มประสิทธิภาพไม่ทำให้คุณลูกค้าผิดหวังในงานไม้ของเราอย่างแน่นอน สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี
หมายเหตุ ร้านเราจะขายไม้เก่าไทย เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็ง สามารถตรวจเช็คราคาได้ทางข้างล่าง
ตรวจสอบราคาสินค้า
อ้างอิง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการไสไม้
1. การไสไม้คืออะไร?
การไสไม้ (Wood Planing) เป็นกระบวนการปรับผิวไม้ให้เรียบ และลดความหนาของไม้ให้อยู่ในระดับที่ต้องการ โดยใช้เครื่องมือเช่นกบไสไม้หรือเครื่องไสไม้
2. การไสไม้มีประโยชน์อย่างไร?
ปรับผิวไม้ให้เรียบเนียน
ลดหรือปรับความหนาของไม้ให้สม่ำเสมอ
ทำให้ขอบไม้ตรงและเหมาะกับการประกอบชิ้นงาน
ขจัดเสี้ยนไม้และปรับสภาพไม้ให้เหมาะสมกับงานช่าง
3. เครื่องมือที่ใช้ในการไสไม้มีอะไรบ้าง?
กบไสไม้มือ (Hand Plane) – ใช้สำหรับงานไม้แบบดั้งเดิม
เครื่องไสไม้ไฟฟ้า (Electric Planer) – ช่วยลดแรงงานและทำให้ไสไม้ได้เร็วขึ้น
เครื่องไสไม้ตั้งโต๊ะ (Thickness Planer) – ใช้เพื่อลดความหนาของไม้ทั้งแผ่นให้เท่ากัน
เครื่องไสไม้หน้ากว้าง (Jointer Plane) – ใช้สำหรับปรับขอบไม้ให้เรียบตรง
4. เทคนิคการไสไม้ให้เรียบและสวยงามทำอย่างไร?
ตรวจสอบไม้ก่อนไส – ดูว่ามีตะปูหรือเศษแข็งติดอยู่หรือไม่
ตั้งค่าความลึกของใบมีดให้เหมาะสม – ไม่ควรตัดลึกเกินไปในครั้งเดียว
ไสตามแนวเสี้ยนไม้ – เพื่อป้องกันการฉีกขาดของเนื้อไม้
ใช้แรงกดที่สมดุล – ค่อยๆ ไสโดยใช้แรงกดสม่ำเสมอ
ขัดแต่งไม้หลังไส – ใช้กระดาษทรายขัดเพื่อให้ผิวเนียนขึ้น
5. ปัญหาที่พบบ่อยในการไสไม้มีอะไรบ้าง?
ไม้ฉีกขาดหรือขรุขระ – อาจเกิดจากการไสทวนเสี้ยนไม้
พื้นผิวไม้ไม่เรียบ – อาจเกิดจากแรงกดที่ไม่สม่ำเสมอ
ใบมีดทื่อหรือบิ่น – ควรลับใบมีดให้คมอยู่เสมอ
ไม้บางจุดไสบางเกินไป – ควรปรับระดับการไสให้เหมาะสมและทำทีละน้อย
6. วิธีเลือกกบไสไม้ที่เหมาะสมกับงาน?
กบไสไม้เบอร์ 4 หรือ 5 (Jack Plane) – เหมาะสำหรับงานทั่วไป
กบไสไม้ Jointer – เหมาะสำหรับปรับขอบไม้ให้ตรง
กบไสไม้ Block Plane – เหมาะสำหรับงานขนาดเล็กและละเอียด
7. ควรใช้เครื่องไสไม้หรือกบไสไม้มือ?
เครื่องไสไม้ – เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำ
กบไสไม้มือ – เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดและควบคุมรูปทรงเอง
8. วิธีดูแลและบำรุงรักษาเครื่องไสไม้มีอะไรบ้าง?
ลับใบมีดให้คมอยู่เสมอ
ทำความสะอาดเศษไม้และฝุ่นที่ติดค้าง
หยอดน้ำมันหล่อลื่นในจุดที่จำเป็น
ตรวจสอบใบมีดและตั้งค่าความลึกของการไสให้ถูกต้อง
9. ควรไสไม้ให้บางแค่ไหนในแต่ละครั้ง?
ขึ้นอยู่กับประเภทของไม้และเครื่องมือที่ใช้ แต่โดยทั่วไปควรไสไม้ทีละ 0.5 – 2 มม. ต่อครั้ง เพื่อป้องกันการฉีกขาดของไม้
10. การไสไม้กับการขัดไม้แตกต่างกันอย่างไร?
การไสไม้ – ใช้ใบมีดตัดเนื้อไม้ออกเป็นชิ้นบางๆ
การขัดไม้ – ใช้กระดาษทรายเพื่อลบเสี้ยนและทำให้ผิวเรียบขึ้น