Your Cart

ประตูไม้ ประตูที่พบได้มากที่สุดในอดีต และยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

ประตูไม้ ประตูที่พบได้มากที่สุดในอดีต และยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

ประตูยุคแรกที่ใช้กันในอู่อารยธรรมเมโสโปเตเมียและโลกยุคโบราณจะเป็นเพียงหนังและสิ่งทอเท่านั้น ซึ่งประตูที่ทำจากวัสดุถาวรอันแข็งแกร่งได้ปรากฏขึ้นพร้อมกับสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ และประตูห้องที่มีความสำคัญมักทำด้วยหินหรือทองสัมฤทธิ์ (Tikkanen, 2023) [1]  อย่างไรก็ตามวิวัฒนาการของประตูได้ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบันจะเห็นได้ว่าประตูถูกผลิตขึ้นด้วยวัสดุต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นประตูไม้จริง ไม้เทียม เหล็ก อลูมิเนียม กระจก PVC และอื่น ๆ อีกมากมาย

https://image.makewebeasy.net

ประตู คืออะไร

ประตู คือ สิ่งก่อสร้างหรือสิ่งกีดขวางที่สามารถเคลื่อนที่ได้ โดยปกติประตูจะเป็นแบบทึบ ซึ่งใช้ในการเปิด-ปิดทางเข้า เพื่อใช้ปิดกั้นทางเข้าไปยังพื้นที่ที่ถูกปิดไว้ นอกจากนี้จะพบประตูได้จากเฟอร์นิเจอร์บางประเภท อาทิ ตู้ ตู้เก็บของ และสิ่งอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน โดยส่วนใหญ่ประตูมักจะมีบานพับหรือบานเลื่อน (Dictionary.com, LLC, 2023) [2]

รูปแบบของประตูไม้ที่ได้รับความนิยม

ประตูไม้ ถือเป็นประตูที่พบมากที่สุดในสมัยโบราณ หลักฐานทางโบราณคดีและวรรณกรรมได้ระบุว่าประตูไม้แพร่หลายในอียิปต์และเมโสโปเตเมีย และมักจะพบตามภาพจิตรกรรมฝาผนังของปอมเปอี รวมถึงชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ (Tikkanen, 2023) [1] ในปัจจุบันประตูไม้ก็ยังคงได้รับความนิยม แต่ทว่าคุณภาพของไม้อาจลดลง เนื่องจากไม้จริงที่มีอายุมากนั้นหาได้ยาก สำหรับรูปแบบของประตูไม้ที่ได้รับความนิยมก็คือ ประตูไม้บานเปิด บานเลื่อน บานเฟี้ยมและบานเกล็ด ดังนั้นประตูไม้ที่ได้รับความนิยมควรเลือกใช้ไม้เนื้อแข็งที่มีความแข็งแรงทนทานกันน้ำกันฝนได้ดี

ชนิดของไม้ที่เหมาะต่อการทำประตู

ส่วนใหญ่ประตูไม้จะนิยมใช้ไม้ที่มีความแข็งแรงและลวดลายสวยงาม เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานและการตกแต่งบ้าน หากเป็นไม้จริงมักใช้ไม้เนื้อแข็งเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นไม้มะค่า ไม้เต็ง ไม้แดง ไม้ประดู่ ไม้ตะเคียน ไม้ตะแบก รวมถึงไม้เนื้ออ่อนอย่างไม้สัก นอกจากนี้ในปัจจุบันยังนิยมใช้ไม้ MDF (Medium Density Fiber Board), ไม้ HDF (High Density Fiber) หรือ ฮาร์ดบอร์ด, ไม้เอ็นจีเนียร์, ไม้สังเคราะห์ และไม้พลาสติก WPC (Wood-Plastic Composite) ซึ่งไม้จริงเนื้อและลวดลายของไม้จะมีความเป็นเอกลักษณ์ มีกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังทนทานแข็งแรงไม่ต่างจากวัสดุอื่นๆ [3]

ประตูไม้
https://www.dohome.co.th/media/catalog/product/1/0/10029515_ban_1200_1_4_1.jpg

ข้อแตกต่างระหว่างประตูไม้ และประตู PVC

• ลักษณะภายนอก โดยทั่วไปประตูไม้จะมีสีสันและลวดลายให้เลือกอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะประตูที่ทำจากไม้จริงจะมีลายไม้ที่สวยงามแตกต่างกันออกไป ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการโชว์ลายไม้โดยเฉพาะ ส่วนประตู PVC ที่ถูกผลิตขึ้นมาจากวัสดุประเภทพลาสติกสังเคราะห์จะมีลักษณะหนาและแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง แต่จะไม่มีสีสันและลวดลายให้เลือกเท่ากับประตูไม้

• คุณสมบัติของวัสดุ ไม้เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทาน โดยเฉพาะไม้เนื้อแข็งมักจะถูกนำมาทำเป็นบานประตูหลายรูปแบบ ในขณะที่ PVC เป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้าได้ดี โดยกระแสไฟฟ้าจะไม่สามารถไหลผ่านได้ หากมีเหตุไฟไหม้แล้วลามมาถึงประตูก็จะสามารถดับลงเองได้ ซึ่งประตูไม้จะไม่สามารถทำได้เช่นนั้น

• ความทนต่อน้ำ ความเป็นกรด-ด่าง และสารเคมี ประตูที่ทำจากไม้จริงสามารถทนแดดและทนฝนได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะเสื่อมสภาพตามกาลเวลา อาจเกิดการบวมและบิดงอได้และเมื่อสัมผัสกับความชื้น ความเป็นกรด-ด่าง และสารเคมีบางชนิดในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ บางคนอาจเลือกใช้ไม้สังเคราะห์แทนไม้จริง ในขณะที่ประตู PVC จะสามารถทนต่อน้ำ ความเป็นกรด-ด่าง และสารเคมีได้เป็นอย่างดี นิยมใช้ภายใน

• ความทนต่อแสงแดดและความร้อน ประตูที่ทำจากไม้เนื้อแข็งหรือไม้ชนิดอื่น ๆ จะสามารถทนต่อแสงแดดและความร้อนได้ค่อนข้างนาน เมื่อเวลาผ่านไปอาจพบว่าสีซีดจางหรือหลุดลอกออกตามธรรมชาติ แต่ก็ยังสามารถบำรุงรักษาให้กลับมาสวยงามเช่นเดิมได้ แต่ประตู PVC จะไม่สามารถทนต่อแสงแดดและความร้อนได้นานนัก เพราะจะส่งผลให้เนื้อไม้กรอบและแตกหักได้ง่าย ซึ่งไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอก

• อายุการใช้งาน ประตูที่ทำจากไม้จะมีอายุการใช้งานค่อนข้างยาวนาน โดยเฉพาะไม้เนื้อแข็งที่มีอายุมาก หรือไม้เก่า เมื่อนำมาแปรรูปเป็นประตูแล้วจะมีความแข็งแรงและทนต่อสภาพอากาศได้ดี จึงทำให้มีอายุการใช้งานนานมากกว่า 10 ปี ส่วนประตู PVC โดยรวมจะไม่ค่อยทนทานมากนัก เพราะมีความยืดหยุ่นสูง ถึงแม้ว่าจะทนต่อน้ำ ความเป็นกรด-ด่าง และสารเคมีได้ดี แต่จะไม่ทนต่อแสงแดดและความร้อน จึงทำให้มีอายุการใช้งานสั้น ซึ่งไม่เหมาะกับการใช้งานในระยะยาว [4]

ขนาดมาตรฐานของประตูไม้ที่นิยมใช้

สำหรับขนาดมาตรฐานของประตูไม้ที่นิยมนำมาใช้งานนั้นจะมีอยู่หลายขนาดด้วยกัน ซึ่งสามารถแบ่งออกตามประเภทของประตูที่ใช้ได้ ดังนี้

• บานประตูห้องน้ำ หรือห้องซักล้าง นิยมใช้ขนาด 70 x 200 และ 70 x 180 (เซนติเมตร)

• บานประตูห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว และห้องทั่วไป นิยมใช้ขนาด 80 x 200 และ 90 x 200 (เซนติเมตร)

• บานประตูเดี่ยวหน้าบ้าน หรือบานทั่วไป นิยมใช้ขนาด 90 x 200 และ 100 x 200 (เซนติเมตร) [3]

ประตูไม้สัก
https://www.twoodbyt.com

วิธีเลือกซื้อประตูไม้ให้ตอบโจทย์การใช้งาน

• จุดประสงค์ของการใช้งาน เป็นสิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจเลือกประตูไม้ เพราะประตูแต่ละประเภทจะแตกต่างกัน ผู้ใช้งานควรทราบว่าต้องการใช้ประตูไม้ด้วยจุดประสงค์ใด ต้องการเน้นความแข็งแรงหรือความสวยงามเป็นหลัก หรือต้องการทั้งความแข็งแรงและความสวยงามก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด

• รูปแบบของประตูไม้ มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นประตูไม้บานเปิด บานเลื่อน บานเฟี้ยม และบานเกล็ด ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน สำหรับวิธีเลือกให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุดควรเลือกรูปแบบของประตูไม้ที่เหมาะสมกับพื้นที่และลักษณะการตกแต่งของห้องหรือสถานที่นั้น ๆ

• ชนิดของไม้ นอกจากรูปแบบของประตูไม้แล้ว ชนิดของไม้ที่ใช้ทำประตูก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งไม้แต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน หากเป็นประตูไม้ที่ใช้งานภายนอกควรเลือกไม้เนื้อแข็ง เพราะสามารถทนแดดและทนฝนได้ดี ส่วนประตูไม้ที่ใช้ภายในอาคารสามารถเลือกไม้เนื้ออ่อน ไม้อัด หรือไม้สังเคราะห์ที่ดูสวยงามและมีน้ำหนักเบาก็ได้เช่นกัน

• แหล่งผลิตประตูไม้ ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าไม้เป็นวัสดุที่หาได้ทั่วไป แต่ทว่าไม้คุณภาพดีนั้นหาได้ค่อนข้างยาก ฉะนั้นการเลือกซื้อประตูไม้จึงควรพิจารณาแหล่งผลิตประตูไม้ให้ดีก่อนตัดสินใจ แนะนำให้ดูประวัติของแหล่งผลิตที่มีความน่าเชื่อถือเป็นหลัก ซึ่งถ้าหากใครสนใจประตูไม้สวย ๆ คุณภาพดี TWOMENWOOD เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทุกคนสามารถสั่งทำประตูตามความต้องการได้ นอกจากนี้เรายังมีประตูไม้ให้เลือกหลากหลายแบบอีกด้วย[5]

วิธีบำรุงรักษาประตูไม้

• การเตรียมพื้นผิว ทำความสะอาด เป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญอย่างมาก ในกรณีที่ประตูไม้ได้รับความเสียหาย เช่น มีรอยแตก หรือรอยบิ่น จำเป็นต้องทำการอุด โป๊ว ซ่อม และขัดให้เรียบร้อย

• การเคลือบรักษางานไม้ สามารถทำได้ 2 วิธี คือ การย้อมสีไม้ และการเคลือบผิวไม้ด้วยโพลียูรีเทน สำหรับการย้อมสีไม้จะช่วยให้ลายไม้สวยชัดมากขึ้น หากเป็นไม้เก่าหรือไม้ที่มีสีไม่สม่ำเสมอก็สามารถย้อมเพื่อให้สีไม้ดูกลมกลืนได้เช่นกัน ซึ่งต้องใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมสีไม้ให้ถูกต้องตามประเภทที่ต้องการ ส่วนการเคลือบผิวไม้ด้วยโพลียูรีเทนจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการโชว์เนื้อไม้โดยเฉพาะ สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบใสชนิดเงาหรือชนิดด้านก็ได้ ซึ่งมีทั้งประเภทสีย้อมไม้และโพลียูรีเทน

• การเลื่อยเพื่อนำส่วนที่บวมออก ในกรณีที่พบว่าเนื้อไม้ของบานประตูบวมจนปิดไม่สนิท สามารถเลื่อยเพื่อเอาส่วนดังกล่าวออกไปได้ แต่ต้องเลื่อยออกให้พอดีกับกรอบประตู จากนั้นทาทับด้วยสีน้ำมันหรือสีย้อมไม้เพื่อให้ซึมเข้าสู่ด้านใน โดยวิธีนี้จะไม่เป็นการทำลายลวดลายของไม้ แต่จะช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดที่ส่องเข้ามาทำลายเนื้อไม้จนเกิดความเสียหายได้ [6]

ในปัจจุบันประตูมีหลายประเภทด้วยกัน และมีวัสดุหลายชนิดที่สามารถนำมาทำเป็นบานประตูได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าประตูไม้เป็นประตูที่มีมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันประตูที่ทำจากไม้ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะแข็งแรงและคงทนแล้ว ประตูไม้ยังมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยสีสันและลวดลายของไม้แต่ละชนิดจะแตกต่างกัน สำหรับใครที่สนใจประตูไม้ หรือไม้เก่า ไม้แปรรูปต่างๆ TWOMENWOOD ก็มีให้เลือกหลากหลายแบบด้วยกัน นอกจากนี้ยังสามารถสั่งทำประตูไม้ตามความต้องการได้อีกด้วย สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี

หมายเหตุ ร้านเราจะขายไม้เก่าไทย เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็ง สามารถตรวจเช็คราคาได้ทางข้างล่าง

ตรวจสอบราคาสินค้า

อ้างอิง