
สินค้า
ไม้พยุง ไม้เศรษฐกิจที่ได้ชื่อว่าเป็นไม้ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก

หากกล่าวถึงไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม้หลายชนิดเป็นที่ต้องการในตลาด ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ การใช้ไม้สร้างที่อยู่อาศัย ทำเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ ยังคงได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าไม้แท้คุณภาพดีในปัจจุบันจะหาได้ยากก็ตาม แต่ความต้องการยังคงมีมากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อกล่าวถึงไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ หนึ่งในนั้นต้องมีไม้เนื้อแกร่งอย่างพยุง หรือไม้พะยูงอย่างแน่นอน
จากข้อมูลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ระบุว่า พะยูง(Siamese rosewood) เป็นไม้มงคลอีกชนิดหนึ่งที่มีราคาแพงที่สุดในโลก เพราะเป็นไม้เศรษฐกิจที่มีความต้องการมากตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะประเทศจีนที่นิยมนำไม้พะยูงไปซ่อมแซมราชวังโบราณ แกะสลักรูปปั้น ทำเฟอร์นิเจอร์ วัตถุมงคลและของแต่งบ้านชิ้นเล็ก ๆ ไม้พะยูง(Siamese rosewood) ในป่าของประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและกัมพูชาได้สูญพันธุ์ไปหมด เพราะถูกใช้เป็นสินค้าส่งออกจำนวนมากและขาดการอนุรักษ์ แต่ไม้พะยูงในประเทศไทยนั้นยังคงมีอยู่ ซึ่งจะพบขึ้นอยู่ในป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเทือกเขาภูพานและเทือกเขาพนมดงรัก ตั้งแต่นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ไม้พะยุงเป็นไม้เนื้อแข็ง โตช้า อย่างน้อยต้องใช้เวลาถึง 40 กว่าปี กว่าที่จะโตเป็นไม้พะยุงขนาดใหญ่พอใช้ประโยชน์ได้ [1]
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของพยุง
พยุง หรือพะยูง (Dalbergia cochinchinensis Pierre) เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบที่สูงได้ถึง 25 เมตร ลำต้นมีเปลือกสีเทา หรือสีน้ำตาลแดงเรียบ มักแตกสะเก็ดหรือลอกเป็นแผ่นบาง ๆ ส่วนเปลือกในจะมีสีขาวอมชมพู แก่นไม้พะยูงจะมีตั้งแต่สีส้ม แดงเลือดหมู แดงอมม่วง ม่วงอมน้ำตาลดำ หรือน้ำตาลดำ เกลี้ยงเป็นมัน มีลายเส้นวงสีเข้มออกโทนน้ำตาลอมดำ หรือสีน้ำตาลอ่อน เสี้ยนสนเป็นริ้วแคบ เนื้อละเอียดและแข็ง ใบประกอบแบบขนนก ปลายคี่ ออกเรียงสลับ ใบย่อยเป็นรูปไข่แกมรูปขอบขนาน ออกเรียงสลับ ปลายใบแหลม โคนใบมน กลม ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม ท้องใบสีขาวนวล ดอกมีสีขาว หรือขาวอมม่วง มีขนาดเล็ก ออกรวมกันเป็นช่อตามง่ามใบและปลายกิ่ง และผลเป็นฝักรูปขอบขนาน แบนและบาง ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาล 1–4 เมล็ด [1]

ถิ่นกำเนิดของต้นพยุง
พยุง หรือพะยูง(Siamese rosewood) เป็นไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดอยู่หลายประเทศด้วยกัน คือ ไทย เมียนมาร์ กัมพูชา ลาว และเวียดนาม สำหรับประเทศไทยจะพบพยุงได้ตามธรรมชาติในป่าดิบแล้ง , ป่าเบญจพรรณชื้นทางภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100–200 เมตร ด้วยความเป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในหลายประเทศ จึงทำให้การกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นลักษณะและองค์ประกอบทางพันธุกรรม ความสามารถในการปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์ อีกทั้งยังเป็นเป็นพันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นไม้มงคลประจำจังหวัดหนองบัวลำภู [1]
การเจริญเติบโตและการเก็บเกี่ยวผลผลิตไม้พยุง
ถึงแม้ว่าพยุงจะเป็นไม้มีค่าทางเศรษฐกิจที่มีความต้องการสูง แต่ทว่าการปลูกสร้างสวนป่าไม้พะยูงนั้นอาจไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เพราะเป็นไม้ที่มีอัตราการเจริญเติบโตค่อนข้างช้า กว่าจะมีขนาดเนื้อไม้มากพอที่จะสามารถนำไปใช้งานได้ก็ต้องรอราว ๆ 30 ปีขึ้นไป สำหรับพยุงที่เป็นกล้าไม้หรือไม้เล็ก หากปลูกในระยะ 2×3 เมตร เมื่อกล้าไม้มีอายุ 1–2 ปี จะมีความสูง 1.1 เมตร และ 2.1 เมตร ตามลำดับ และกล้าไม้อายุ 4 ปี หากปลูกในระยะ 2×2 เมตร จะมีความสูง 4.4 เมตร ส่วนการเก็บเกี่ยวจะต้องรอประมาณ 20–30 ปีขึ้นไป [2]

คุณสมบัติของไม้พยุง
ไม้พยุงถือเป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่มีคุณค่ามากที่สุดในโลก ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในด้านความสวยงามและความทนทาน ทำให้ไม้พยุงเป็นที่นิยมสำหรับการใช้งานหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการทำเฟอร์นิเจอร์ งานศิลปะ หรือการตกแต่งบ้าน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับคุณสมบัติสำคัญของไม้พยุง [3]
1. ความแข็งแรงและความทนทาน
ไม้พยุงเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความหนาแน่นสูงมาก ทำให้มีความทนทานต่อแรงกระแทกและการสึกหรอได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ ไม้พยุงยังทนต่อปลวกและแมลงกัดกินไม้ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความทนทานในระยะยาว
2. ลวดลายและสีที่สวยงาม
ลวดลายของไม้พยุงเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์และสีไม้ที่มีตั้งแต่สีน้ำตาลแดงไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม สีและลวดลายเหล่านี้ทำให้ไม้พยุงมีความหรูหราและเหมาะสำหรับงานตกแต่งระดับพรีเมียม
3. คุณสมบัติพิเศษด้านการใช้งาน
ไม้พยุงมีความยืดหยุ่นในระดับที่เหมาะสม ทำให้ง่ายต่อการตัด เจาะ และแปรรูป นอกจากนี้ ยังสามารถขัดเงาให้มีความมันวาวได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้พยุงมีความโดดเด่นและสวยงาม
4. ความหายากและมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ไม้พยุงเป็นไม้ที่หายากและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ด้วยเหตุนี้ ไม้พยุงจึงถูกจัดเป็นไม้ที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมการค้าไม้และเป็นที่ต้องการในตลาดทั้งในและต่างประเทศ
5. การดูแลรักษาไม้พยุง
แม้ไม้พยุงจะมีความทนทานสูง แต่การดูแลรักษาก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีความเป็นกรดหรือด่างสูง เพื่อป้องกันความเสียหายต่อผิวไม้ และควรหมั่นขัดเงาเพื่อรักษาความสวยงามของไม้พยุง [3]

ประเภทและพันธุ์ของไม้พยุง
ไม้พยุงถือเป็นไม้เศรษฐกิจที่มีคุณค่าและความต้องการสูงในตลาดไม้ทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพันธุ์ไม้แต่ละชนิด บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ ประเภทและพันธุ์ของไม้พยุง ที่น่าสนใจ
1. พยุงไทย
พยุงไทยเป็นพันธุ์ไม้ที่พบได้ในประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเด่นของพยุงไทยคือเนื้อไม้มีสีน้ำตาลแดงเข้ม พร้อมลายเส้นที่ชัดเจนและสวยงาม มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว ไม้พยุงไทยยังเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และงานศิลปะ เนื่องจากความงามของเนื้อไม้
2. พยุงลาว
พยุงลาวหรือไม้พยุงที่พบในประเทศลาว มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับพยุงไทย แต่ลายไม้ของพยุงลาวจะมีความละเอียดและอ่อนโยนกว่าเล็กน้อย ราคาของไม้พยุงลาวมักจะต่ำกว่าพยุงไทยเนื่องจากความนิยมในตลาดน้อยกว่า แต่ยังคงได้รับความสนใจจากผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่ง
3. พยุงอินโดจีน
พยุงอินโดจีนเป็นพันธุ์ไม้ที่พบได้ในประเทศแถบอินโดจีน เช่น กัมพูชาและเวียดนาม ลักษณะเด่นของไม้ชนิดนี้คือเนื้อไม้มีสีเข้มและลวดลายคมชัด ทำให้เป็นที่ต้องการในงานหัตถกรรมและของตกแต่งบ้าน
4. พยุงพม่า
ไม้พยุงจากพม่ามีลักษณะเนื้อไม้ที่ใกล้เคียงกับพยุงลาวและพยุงอินโดจีน แต่มีสีอ่อนกว่าเล็กน้อย พยุงพม่าเป็นไม้ที่มีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับพันธุ์พยุงจากประเทศอื่นๆ และมักถูกใช้ในงานที่ต้องการความคุ้มค่าด้านต้นทุน
5. พยุงพันธุ์หายาก
พันธุ์ไม้พยุงหายาก เช่น พยุงทองคำ หรือพยุงแดง เป็นพันธุ์ที่มีเนื้อไม้และลวดลายพิเศษ มักพบในพื้นที่เฉพาะและมีปริมาณน้อย ความหายากนี้ทำให้ราคาสูงและเป็นที่ต้องการของนักสะสม
ปัจจัยที่ทำให้ไม้พยุงมีราคาแพงและหาได้ยาก
สิ่งที่ทำให้ไม้พยุง(Siamese rosewood) มีราคาแพงคือคุณสมบัติของเนื้อไม้ เนื่องจากเนื้อไม้พยุงมีคุณภาพสูง โดยเฉพาะส่วนที่เรียกว่าแก่นไม้ เมื่อนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ จะอยู่ได้นานมากกว่า 10 ปีเลยก็ว่าได้ เพราะเนื้อไม้มีความหนาแน่น (ความแน่น 1,032 กก/ม3) ความแข็ง (ความแข็ง 1,175 กก.) และชักเงาได้ดี อีกทั้งยังทนต่อฝนและความชื้น นอกจากนี้ลวดลายไม้ยังมีหลากสี ดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญคือเป็นไม้ที่หาได้ยากและความต้องการสูง ในป่าธรรมชาติมีค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ที่มีอายุไม่มาก ส่วนไม้ที่จะนำไปใช้งานได้ก็ต้องรอนานหลายสิบปี นั่นจึงทำให้ไม้พะยูงหาได้ยาก [2]
เทคนิคการแยกแยะไม้พยุงแท้และปลอม
ไม้พยุงเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการในตลาดเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่ง ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในด้านความสวยงามและความทนทาน แต่ความนิยมของไม้พยุงทำให้เกิดปัญหาไม้ปลอมและไม้เลียนแบบจำนวนมาก บทความนี้จะแนะนำ เทคนิคการแยกแยะไม้พยุงแท้และปลอม เพื่อให้คุณมั่นใจในคุณภาพของไม้พยุงที่เลือกใช้ [4]
1. ตรวจสอบลวดลายและสีของไม้พยุง
ไม้พยุงแท้จะมีลวดลายที่ชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์ โดยลายไม้จะเป็นเส้นคมชัด มีลักษณะเป็นวงแหวนหรือเส้นโค้งคล้ายลายเสือ สีของไม้พยุงแท้มักมีตั้งแต่สีน้ำตาลแดงจนถึงสีน้ำตาลเข้ม หากพบว่าไม้มีลายที่ดูผิดธรรมชาติหรือสีสม่ำเสมอจนเกินไป อาจเป็นสัญญาณว่าเป็นไม้เลียนแบบ
2. น้ำหนักและความหนาแน่นของไม้
ไม้พยุงแท้มีความหนาแน่นและน้ำหนักมากกว่าไม้ชนิดอื่น การยกหรือถือไม้พยุงแท้จะรู้สึกถึงความหนักแน่น หากไม้ที่ตรวจสอบมีน้ำหนักเบากว่าที่ควร หรือมีลักษณะเนื้อไม้ที่โปร่ง อาจเป็นไม้ชนิดอื่นที่นำมาทำเลียนแบบ
3. กลิ่นของไม้พยุง
ไม้พยุงแท้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะเมื่อขัดหรือเลื่อยกลิ่นจะยิ่งชัดเจน ไม้ปลอมหรือไม้เลียนแบบมักจะไม่มีกลิ่นหอม หรือบางครั้งอาจมีกลิ่นของสารเคมีจากการย้อมสี
4. ทดสอบด้วยการขัดผิวไม้
ลองขัดผิวไม้เบาๆ ด้วยกระดาษทรายแล้วสังเกตสีและลวดลายของไม้ ไม้พยุงแท้จะมีลายที่ยังคงชัดเจนและสีที่เข้มขึ้นหลังการขัด แต่ไม้ปลอมมักจะมีการเคลือบสีบนผิวไม้ เมื่อลองขัดสีอาจหลุดออกมาหรือไม่ตรงกับสีลึกภายในเนื้อไม้
5. ตรวจสอบด้วยสารเคมี
ในบางกรณี คุณอาจใช้สารเคมีเฉพาะเพื่อทดสอบไม้พยุง เช่น การหยดน้ำยาลงบนไม้พยุงแท้ที่ยังไม่ได้เคลือบผิว หากเป็นไม้แท้ สีและลวดลายจะไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่ไม้ปลอมอาจเกิดการซีดจางหรือเปลี่ยนสี
6. ขอใบรับรองหรือเอกสารยืนยันแหล่งที่มา
ไม้พยุงแท้ที่ถูกต้องตามกฎหมายจะมาพร้อมเอกสารยืนยันแหล่งที่มาหรือใบอนุญาตการค้า โดยเฉพาะไม้พยุงที่นำเข้าจากต่างประเทศ ควรขอเอกสารเหล่านี้เพื่อความมั่นใจว่าไม่ได้เป็นไม้เถื่อนหรือไม้ปลอม

การใช้ประโยชน์ไม้พยุง
ไม้ พยุง เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความเหนียว แข็งแรงและทนทาน ชักเงาได้ดี ลวดลายสวยงาม มีความละเอียด ดูมีสีสันและเป็นเอกลักษณ์ จึงเหมาะกับการนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ ด้ามเครื่องมือ เครื่องดนตรี เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ รวมถึงงานแกะสลัก เพราะไม้พะยูงที่มีอายุหลายสิบปีจะทนทานมากเป็นพิเศษ เมื่อนำไปแปรรูปเป็นเครื่องเรือนหรือเครื่องใช้ต่าง ๆ จะมีอายุการใช้งานยาวนานมาก ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยนิยมนำไปสร้างที่อยู่อาศัย เพราะเป็นไม้ที่มีราคาแพงมาก อีกทั้งยังมีน้ำมันในตัวด้วย ซึ่งสามารถติดไฟได้ง่าย
ข้อดีของไม้พยุง
• เนื้อไม้ละเอียด แข็งแรง ทนทาน ชักเงาได้ดี ถือเป็นคุณสมบัติที่ดีของไม้ที่จะนำไปแปรรูป ซึ่งไม้พะยูงสามารถนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ เครื่องดนตรี ด้ามจับเครื่องมือ เครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ รวมถึงการแกะสลัก ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวจะทำให้ไม้พะยูงที่ผ่านการแปรรูปมีคุณภาพและมีอายุการใช้งานยาวนานมากพอสมควร
• เนื้อไม้มีสีสันและลวดลายสวยงาม แก่นไม้พะยูงจะมีสีสันหลากหลาย ตั้งแต่สีส้ม แดงเลือดหมู แดงอมม่วง ม่วงอมน้ำตาลดำ และน้ำตาลดำ ส่วนลวดลายเนื้อไม้จะเกลี้ยงเป็นมัน มีลายเส้นวงสีเข้มออกโทนน้ำตาลอมดำหรือสีน้ำตาลอ่อน และเสี้ยนสนเป็นริ้วแคบ เมื่อนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์แล้วจะดูสวยงามและน่าใช้งาน
• ขายได้ราคาดี เนื่องจากเป็นไม้ที่หาได้ยาก แต่ในขณะเดียวกันความต้องการก็สูงมากเช่นกัน ไม้พะยูงถูกจัดให้เป็นหนึ่งในไม้มีค่าทางเศรษฐกิจที่มีราคาแพงมากที่สุดในโลก ด้วยคุณภาพของเนื้อไม้ที่เหมาะกับการนำไปแปรรูปและผลิตเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ จึงทำให้เป็นที่ต้องการมาก หากขายก็จะได้ราคาสูงพอสมควร
ข้อเสียของไม้พยุง
• ราคาแพงและหาได้ยาก ด้วยคุณสมบัติของไม้ที่ตอบโจทย์และเป็นที่ต้องการมากในตลาด แต่ในขณะเดียวกันไม้พะยูงกลายเป็นไม้ที่หาได้ยาก เพราะเป็นไม้ที่มีอัตราการเจริญเติบโตค่อนข้างช้า คนส่วนมากจึงไม่ค่อยนิยมปลูกนัก ถึงแม้ว่าความต้องการจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ตาม นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม้พะยูงมีราคาแพงและหาได้ยาก
• ใช้เวลานานหลายปีกว่าจะนำมาใช้งานได้ โดยเฉลี่ยไม้พะยูงที่สามารถตัดขายได้จะอยู่ที่ประมาณ 20–30 ปีขึ้นไป ยิ่งมีอายุมากก็ยิ่งดี เพราะแก่นไม้จะมีขนาดใหญ่มากขึ้น และความหนาแน่นก็จะเพิ่มขึ้นด้วย แต่ระยะเวลาดังกล่าวถือว่านานพอสมควร นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ไม้พะยูงได้รับความนิยมน้อยลง
• ไม่เหมาะกับการนำมาสร้างที่อยู่อาศัย เนื่องจากไม้พะยูงมีน้ำมันอยู่ในตัว หากนำไปก่อสร้างบ้านเรือนจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ง่ายกว่าไม้ชนิดอื่น เพราะไม้ดังกล่าวจะติดไฟได้ค่อนข้างง่ายนั่นเอง

จุดเด่นของไม้พยุง
จุดเด่นของไม้พยุงจะอยู่ที่เนื้อไม้ โดยเนื้อไม้พยุงนั้นจะมีความละเอียด เหนียวและแข็ง และที่สำคัญคือมีน้ำมันอยู่ในตัว ถือเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและทนทานมากพอสมควร สามารถชักเงาได้ดี นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้ไม้พยุง(Siamese rosewood) โดดเด่นก็คือสีและลวดลายของไม้ ถึงแม้ว่าจะดูคล้ายกับไม้ชิงชันก็ตาม แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างคือไม้พยุงจะมีแก่นไม้สีแดงเข้ม ส้ม หรือน้ำตาลอ่อน ส่วนกระพี้จะมีสีเหลืองอ่อน ในขณะที่ไม้ชิงชันจะมีแก่นไม้สีแดงเข้มถึงค่อนข้างดำ และมีเส้นแทรกสีดำมากกว่า ส่วนกระพี้จะมีสีขาวอมเหลือง
8 อันดับไม้ราคาแพงที่สุดในประเทศไทย
อันดับที่ 1 ไม้พยุง รายละเอียดเรื่องไม้พยุง
อันดับที่ 2 ไม้ชิงชัน
อันดับที่ 3 ไม้กระพี้เขาควาย
อันดับที่ 4 ไม้สาทร
อันดับที่ 5 ไม้มะเกลือ
อันดับที่ 6 ไม้สักทอง รายละเอียดเรื่องไม้สักทอง (ตรวจสอบราคา)
อันดับที่ 7 ไม้มะค่า รายละเอียดเรื่องไม้มะค่า (ตรวจสอบราคา)
อันดับที่ 8 ไม้ประดู่ รายละเอียดเรื่องไม้ประดู่ (ตรวจสอบราคา)
ไม้พะยูง(Siamese rosewood) ถือเป็นไม้ที่หาได้ยาก เพราะปัจจุบันนี้เหลือเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและกัมพูชาที่เคยมีมากก็ถูกตัดไปใช้งานหมดแล้ว เพราะฉะนั้นต้นพยุงที่มีอยู่ตอนนี้เหลือเพียงแค่สายพันธุ์เดียว นั่นก็คือสายพันธุ์ไทยดั้งเดิม ซึ่งถือได้ว่าเป็นพันธุ์ที่มีเนื้อไม้แข็งแรงและทนทาน ลวดลายสวยงาม โดยเฉพาะไม้พะยูงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เมื่อนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ต่าง ๆ จะทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานมากทีเดียว สำหรับใครที่สนใจงานไม้เก่า ไม้จริง หรือจะเป็น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง คุณภาพดี TWOMENWOOD เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่คุณสามารถดูสินค้า สอบถามและสั่งซื้อไม้เก่า หรือไม้แปรรูปชนิดต่าง ๆ ได้ สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี
ตรวจสอบราคาสินค้า
อ้างอิง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไม้พยุงเก่า
1. ไม้พยุงเก่าคืออะไร?
ไม้พยุงเก่าหมายถึงไม้จากต้นพยุงที่ผ่านการใช้งานมานาน เช่น จากบ้านเก่า อาคาร หรือเฟอร์นิเจอร์เดิมที่ถูกรื้อถอน ไม้พยุงเก่ามีลักษณะเด่นคือเนื้อไม้แข็งแรง ลวดลายงดงาม และมีสีเข้มขึ้นตามอายุการใช้งาน
2. คุณสมบัติเด่นของไม้พยุงเก่าคืออะไร?
เนื้อไม้แข็งแรง: ทนต่อการใช้งานหนักและแรงกด
ลวดลายสวยงาม: มีลายเส้นไม้โดดเด่น สม่ำเสมอ และเป็นธรรมชาติ
สีเข้มและหรูหรา: ไม้พยุงเก่ามักมีสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีแดงเข้ม
ทนทานต่อปลวกและมอด: เพราะเป็นไม้เนื้อแข็ง
3. ไม้พยุงเก่านิยมใช้งานในด้านใด?
งานเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง และเก้าอี้
งานแกะสลักและตกแต่ง เช่น ประตูไม้ ลายฉลุ หรืองานศิลปะ
ของสะสมหรือเครื่องประดับ เช่น ด้ามมีดหรือกล่องไม้
งานโครงสร้าง เช่น เสาบ้านหรือคาน
4. วิธีตรวจสอบว่าเป็นไม้พยุงเก่าจริงหรือไม่?
ลวดลายไม้ชัดเจน โดยเฉพาะเส้นไม้ที่ดูเหมือนเส้นน้ำไหล
มีน้ำหนักมากกว่าไม้ทั่วไป
สีของไม้จะเข้มและมีความเงางามเมื่อถูกขัดเงา
เมื่อเคาะจะให้เสียงแน่นและหนักแน่น
5. ไม้พยุงเก่ามีราคาแพงไหม?
ใช่ ไม้พยุงเก่ามักมีราคาสูง เนื่องจากเป็นไม้หายาก มีคุณภาพสูง และความต้องการในตลาดสูง โดยเฉพาะไม้ที่มีลวดลายสวยงาม
6. การดูแลรักษาไม้พยุงเก่าต้องทำอย่างไร?
เช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าหมาด ๆ เพื่อกำจัดฝุ่น
ลงน้ำมันเคลือบไม้ เช่น น้ำมันมะเกลือหรือน้ำยาเคลือบไม้ เพื่อเพิ่มความเงางามและป้องกันความชื้น
หลีกเลี่ยงการวางไว้ในที่เปียกชื้นหรือโดนแสงแดดจัด
7. ไม้พยุงเก่ามีปัญหาอะไรบ้าง?
อาจมีรอยขีดข่วนหรือรอยแตกจากการใช้งานเดิม
หากไม่ได้ดูแลดี อาจมีปัญหาปลวกหรือเชื้อราในบางพื้นที่
บางชิ้นอาจต้องขัดและปรับแต่งใหม่ก่อนนำมาใช้งาน
8. วิธีการนำไม้พยุงเก่ากลับมาใช้งานใหม่คืออะไร?
ขัดผิวไม้เพื่อเผยลวดลายและสีสันที่แท้จริง
ลงน้ำยาเคลือบไม้เพื่อเพิ่มความทนทาน
ซ่อมแซมรอยแตกหรือรอยเสียหาย เช่น ใช้กาวไม้หรือต่อชิ้นไม้
9. ไม้พยุงเก่าต่างจากไม้พยุงใหม่อย่างไร?
ไม้พยุงเก่ามีสีเข้มและลวดลายที่ชัดเจนกว่า เนื่องจากเวลาทำให้ไม้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
เนื้อไม้เก่ามีความแกร่งและคงตัวกว่าเพราะผ่านการใช้งานและการปรับตัวตามธรรมชาติ
ไม้พยุงใหม่อาจต้องรอเวลาเพื่อให้สีและลายพัฒนาเต็มที่
10. ไม้พยุงเก่าหาได้จากที่ไหน?
ร้านขายไม้เก่าหรือเฟอร์นิเจอร์เก่า
บ้านหรืออาคารที่ถูกรื้อถอน
ตลาดไม้หายากหรือร้านขายงานไม้คุณภาพสูง