สินค้า
ไม้พยุง ไม้เศรษฐกิจที่ได้ชื่อว่าเป็นไม้ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก
หากกล่าวถึงไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม้หลายชนิดเป็นที่ต้องการในตลาด ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ การใช้ไม้สร้างที่อยู่อาศัย ทำเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ ยังคงได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าไม้แท้คุณภาพดีในปัจจุบันจะหาได้ยากก็ตาม แต่ความต้องการยังคงมีมากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อกล่าวถึงไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ หนึ่งในนั้นต้องมีไม้เนื้อแกร่งอย่างพยุง หรือไม้พะยูงอย่างแน่นอน
จากข้อมูลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ระบุว่า พะยูง(Siamese rosewood) เป็นไม้มงคลอีกชนิดหนึ่งที่มีราคาแพงที่สุดในโลก เพราะเป็นไม้เศรษฐกิจที่มีความต้องการมากตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะประเทศจีนที่นิยมนำไม้พะยูงไปซ่อมแซมราชวังโบราณ แกะสลักรูปปั้น ทำเฟอร์นิเจอร์ วัตถุมงคลและของแต่งบ้านชิ้นเล็ก ๆ ไม้พะยูง(Siamese rosewood) ในป่าของประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและกัมพูชาได้สูญพันธุ์ไปหมด เพราะถูกใช้เป็นสินค้าส่งออกจำนวนมากและขาดการอนุรักษ์ แต่ไม้พะยูงในประเทศไทยนั้นยังคงมีอยู่ ซึ่งจะพบขึ้นอยู่ในป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณเทือกเขาภูพานและเทือกเขาพนมดงรัก ตั้งแต่นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ไม้พะยุงเป็นไม้เนื้อแข็ง โตช้า อย่างน้อยต้องใช้เวลาถึง 40 กว่าปี กว่าที่จะโตเป็นไม้พะยุงขนาดใหญ่พอใช้ประโยชน์ได้ [1]
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของพยุง
พยุง หรือพะยูง (Dalbergia cochinchinensis Pierre) เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบที่สูงได้ถึง 25 เมตร ลำต้นมีเปลือกสีเทา หรือสีน้ำตาลแดงเรียบ มักแตกสะเก็ดหรือลอกเป็นแผ่นบาง ๆ ส่วนเปลือกในจะมีสีขาวอมชมพู แก่นไม้พะยูงจะมีตั้งแต่สีส้ม แดงเลือดหมู แดงอมม่วง ม่วงอมน้ำตาลดำ หรือน้ำตาลดำ เกลี้ยงเป็นมัน มีลายเส้นวงสีเข้มออกโทนน้ำตาลอมดำ หรือสีน้ำตาลอ่อน เสี้ยนสนเป็นริ้วแคบ เนื้อละเอียดและแข็ง ใบประกอบแบบขนนก ปลายคี่ ออกเรียงสลับ ใบย่อยเป็นรูปไข่แกมรูปขอบขนาน ออกเรียงสลับ ปลายใบแหลม โคนใบมน กลม ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม ท้องใบสีขาวนวล ดอกมีสีขาว หรือขาวอมม่วง มีขนาดเล็ก ออกรวมกันเป็นช่อตามง่ามใบและปลายกิ่ง และผลเป็นฝักรูปขอบขนาน แบนและบาง ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาล 1–4 เมล็ด [1]
ถิ่นกำเนิดของต้นพยุง
พยุง หรือพะยูง(Siamese rosewood) เป็นไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดอยู่หลายประเทศด้วยกัน คือ ไทย เมียนมาร์ กัมพูชา ลาว และเวียดนาม สำหรับประเทศไทยจะพบพยุงได้ตามธรรมชาติในป่าดิบแล้ง , ป่าเบญจพรรณชื้นทางภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100–200 เมตร ด้วยความเป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในหลายประเทศ จึงทำให้การกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นลักษณะและองค์ประกอบทางพันธุกรรม ความสามารถในการปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์ อีกทั้งยังเป็นเป็นพันธุ์ไม้พระราชทานเพื่อปลูกเป็นไม้มงคลประจำจังหวัดหนองบัวลำภู [1]
การเจริญเติบโตและการเก็บเกี่ยวผลผลิตไม้พยุง
ถึงแม้ว่าพยุงจะเป็นไม้มีค่าทางเศรษฐกิจที่มีความต้องการสูง แต่ทว่าการปลูกสร้างสวนป่าไม้พะยูงนั้นอาจไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เพราะเป็นไม้ที่มีอัตราการเจริญเติบโตค่อนข้างช้า กว่าจะมีขนาดเนื้อไม้มากพอที่จะสามารถนำไปใช้งานได้ก็ต้องรอราว ๆ 30 ปีขึ้นไป สำหรับพยุงที่เป็นกล้าไม้หรือไม้เล็ก หากปลูกในระยะ 2×3 เมตร เมื่อกล้าไม้มีอายุ 1–2 ปี จะมีความสูง 1.1 เมตร และ 2.1 เมตร ตามลำดับ และกล้าไม้อายุ 4 ปี หากปลูกในระยะ 2×2 เมตร จะมีความสูง 4.4 เมตร ส่วนการเก็บเกี่ยวจะต้องรอประมาณ 20–30 ปีขึ้นไป [2]
คุณสมบัติของไม้พยุง
ไม้พยุงถือเป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่มีคุณค่ามากที่สุดในโลก ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในด้านความสวยงามและความทนทาน ทำให้ไม้พยุงเป็นที่นิยมสำหรับการใช้งานหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการทำเฟอร์นิเจอร์ งานศิลปะ หรือการตกแต่งบ้าน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับคุณสมบัติสำคัญของไม้พยุง [3]
1. ความแข็งแรงและความทนทาน
ไม้พยุงเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความหนาแน่นสูงมาก ทำให้มีความทนทานต่อแรงกระแทกและการสึกหรอได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ ไม้พยุงยังทนต่อปลวกและแมลงกัดกินไม้ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความทนทานในระยะยาว
2. ลวดลายและสีที่สวยงาม
ลวดลายของไม้พยุงเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์และสีไม้ที่มีตั้งแต่สีน้ำตาลแดงไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม สีและลวดลายเหล่านี้ทำให้ไม้พยุงมีความหรูหราและเหมาะสำหรับงานตกแต่งระดับพรีเมียม
3. คุณสมบัติพิเศษด้านการใช้งาน
ไม้พยุงมีความยืดหยุ่นในระดับที่เหมาะสม ทำให้ง่ายต่อการตัด เจาะ และแปรรูป นอกจากนี้ ยังสามารถขัดเงาให้มีความมันวาวได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้พยุงมีความโดดเด่นและสวยงาม
4. ความหายากและมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ไม้พยุงเป็นไม้ที่หายากและมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง ด้วยเหตุนี้ ไม้พยุงจึงถูกจัดเป็นไม้ที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมการค้าไม้และเป็นที่ต้องการในตลาดทั้งในและต่างประเทศ
5. การดูแลรักษาไม้พยุง
แม้ไม้พยุงจะมีความทนทานสูง แต่การดูแลรักษาก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีความเป็นกรดหรือด่างสูง เพื่อป้องกันความเสียหายต่อผิวไม้ และควรหมั่นขัดเงาเพื่อรักษาความสวยงามของไม้พยุง [3]
ประเภทและพันธุ์ของไม้พยุง
ไม้พยุงถือเป็นไม้เศรษฐกิจที่มีคุณค่าและความต้องการสูงในตลาดไม้ทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพันธุ์ไม้แต่ละชนิด บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ ประเภทและพันธุ์ของไม้พยุง ที่น่าสนใจ
1. พยุงไทย
พยุงไทยเป็นพันธุ์ไม้ที่พบได้ในประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเด่นของพยุงไทยคือเนื้อไม้มีสีน้ำตาลแดงเข้ม พร้อมลายเส้นที่ชัดเจนและสวยงาม มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว ไม้พยุงไทยยังเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และงานศิลปะ เนื่องจากความงามของเนื้อไม้
2. พยุงลาว
พยุงลาวหรือไม้พยุงที่พบในประเทศลาว มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับพยุงไทย แต่ลายไม้ของพยุงลาวจะมีความละเอียดและอ่อนโยนกว่าเล็กน้อย ราคาของไม้พยุงลาวมักจะต่ำกว่าพยุงไทยเนื่องจากความนิยมในตลาดน้อยกว่า แต่ยังคงได้รับความสนใจจากผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่ง
3. พยุงอินโดจีน
พยุงอินโดจีนเป็นพันธุ์ไม้ที่พบได้ในประเทศแถบอินโดจีน เช่น กัมพูชาและเวียดนาม ลักษณะเด่นของไม้ชนิดนี้คือเนื้อไม้มีสีเข้มและลวดลายคมชัด ทำให้เป็นที่ต้องการในงานหัตถกรรมและของตกแต่งบ้าน
4. พยุงพม่า
ไม้พยุงจากพม่ามีลักษณะเนื้อไม้ที่ใกล้เคียงกับพยุงลาวและพยุงอินโดจีน แต่มีสีอ่อนกว่าเล็กน้อย พยุงพม่าเป็นไม้ที่มีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับพันธุ์พยุงจากประเทศอื่นๆ และมักถูกใช้ในงานที่ต้องการความคุ้มค่าด้านต้นทุน
5. พยุงพันธุ์หายาก
พันธุ์ไม้พยุงหายาก เช่น พยุงทองคำ หรือพยุงแดง เป็นพันธุ์ที่มีเนื้อไม้และลวดลายพิเศษ มักพบในพื้นที่เฉพาะและมีปริมาณน้อย ความหายากนี้ทำให้ราคาสูงและเป็นที่ต้องการของนักสะสม
ปัจจัยที่ทำให้ไม้พยุงมีราคาแพงและหาได้ยาก
สิ่งที่ทำให้ไม้พยุง(Siamese rosewood) มีราคาแพงคือคุณสมบัติของเนื้อไม้ เนื่องจากเนื้อไม้พยุงมีคุณภาพสูง โดยเฉพาะส่วนที่เรียกว่าแก่นไม้ เมื่อนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ จะอยู่ได้นานมากกว่า 10 ปีเลยก็ว่าได้ เพราะเนื้อไม้มีความหนาแน่น (ความแน่น 1,032 กก/ม3) ความแข็ง (ความแข็ง 1,175 กก.) และชักเงาได้ดี อีกทั้งยังทนต่อฝนและความชื้น นอกจากนี้ลวดลายไม้ยังมีหลากสี ดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญคือเป็นไม้ที่หาได้ยากและความต้องการสูง ในป่าธรรมชาติมีค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ที่มีอายุไม่มาก ส่วนไม้ที่จะนำไปใช้งานได้ก็ต้องรอนานหลายสิบปี นั่นจึงทำให้ไม้พะยูงหาได้ยาก [2]
เทคนิคการแยกแยะไม้พยุงแท้และปลอม
ไม้พยุงเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการในตลาดเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่ง ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในด้านความสวยงามและความทนทาน แต่ความนิยมของไม้พยุงทำให้เกิดปัญหาไม้ปลอมและไม้เลียนแบบจำนวนมาก บทความนี้จะแนะนำ เทคนิคการแยกแยะไม้พยุงแท้และปลอม เพื่อให้คุณมั่นใจในคุณภาพของไม้พยุงที่เลือกใช้ [4]
1. ตรวจสอบลวดลายและสีของไม้พยุง
ไม้พยุงแท้จะมีลวดลายที่ชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์ โดยลายไม้จะเป็นเส้นคมชัด มีลักษณะเป็นวงแหวนหรือเส้นโค้งคล้ายลายเสือ สีของไม้พยุงแท้มักมีตั้งแต่สีน้ำตาลแดงจนถึงสีน้ำตาลเข้ม หากพบว่าไม้มีลายที่ดูผิดธรรมชาติหรือสีสม่ำเสมอจนเกินไป อาจเป็นสัญญาณว่าเป็นไม้เลียนแบบ
2. น้ำหนักและความหนาแน่นของไม้
ไม้พยุงแท้มีความหนาแน่นและน้ำหนักมากกว่าไม้ชนิดอื่น การยกหรือถือไม้พยุงแท้จะรู้สึกถึงความหนักแน่น หากไม้ที่ตรวจสอบมีน้ำหนักเบากว่าที่ควร หรือมีลักษณะเนื้อไม้ที่โปร่ง อาจเป็นไม้ชนิดอื่นที่นำมาทำเลียนแบบ
3. กลิ่นของไม้พยุง
ไม้พยุงแท้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะเมื่อขัดหรือเลื่อยกลิ่นจะยิ่งชัดเจน ไม้ปลอมหรือไม้เลียนแบบมักจะไม่มีกลิ่นหอม หรือบางครั้งอาจมีกลิ่นของสารเคมีจากการย้อมสี
4. ทดสอบด้วยการขัดผิวไม้
ลองขัดผิวไม้เบาๆ ด้วยกระดาษทรายแล้วสังเกตสีและลวดลายของไม้ ไม้พยุงแท้จะมีลายที่ยังคงชัดเจนและสีที่เข้มขึ้นหลังการขัด แต่ไม้ปลอมมักจะมีการเคลือบสีบนผิวไม้ เมื่อลองขัดสีอาจหลุดออกมาหรือไม่ตรงกับสีลึกภายในเนื้อไม้
5. ตรวจสอบด้วยสารเคมี
ในบางกรณี คุณอาจใช้สารเคมีเฉพาะเพื่อทดสอบไม้พยุง เช่น การหยดน้ำยาลงบนไม้พยุงแท้ที่ยังไม่ได้เคลือบผิว หากเป็นไม้แท้ สีและลวดลายจะไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่ไม้ปลอมอาจเกิดการซีดจางหรือเปลี่ยนสี
6. ขอใบรับรองหรือเอกสารยืนยันแหล่งที่มา
ไม้พยุงแท้ที่ถูกต้องตามกฎหมายจะมาพร้อมเอกสารยืนยันแหล่งที่มาหรือใบอนุญาตการค้า โดยเฉพาะไม้พยุงที่นำเข้าจากต่างประเทศ ควรขอเอกสารเหล่านี้เพื่อความมั่นใจว่าไม่ได้เป็นไม้เถื่อนหรือไม้ปลอม
การใช้ประโยชน์ไม้พยุง
ไม้ พยุง เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความเหนียว แข็งแรงและทนทาน ชักเงาได้ดี ลวดลายสวยงาม มีความละเอียด ดูมีสีสันและเป็นเอกลักษณ์ จึงเหมาะกับการนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ ด้ามเครื่องมือ เครื่องดนตรี เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ รวมถึงงานแกะสลัก เพราะไม้พะยูงที่มีอายุหลายสิบปีจะทนทานมากเป็นพิเศษ เมื่อนำไปแปรรูปเป็นเครื่องเรือนหรือเครื่องใช้ต่าง ๆ จะมีอายุการใช้งานยาวนานมาก ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยนิยมนำไปสร้างที่อยู่อาศัย เพราะเป็นไม้ที่มีราคาแพงมาก อีกทั้งยังมีน้ำมันในตัวด้วย ซึ่งสามารถติดไฟได้ง่าย
ข้อดีของไม้พยุง
• เนื้อไม้ละเอียด แข็งแรง ทนทาน ชักเงาได้ดี ถือเป็นคุณสมบัติที่ดีของไม้ที่จะนำไปแปรรูป ซึ่งไม้พะยูงสามารถนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ เครื่องดนตรี ด้ามจับเครื่องมือ เครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ รวมถึงการแกะสลัก ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวจะทำให้ไม้พะยูงที่ผ่านการแปรรูปมีคุณภาพและมีอายุการใช้งานยาวนานมากพอสมควร
• เนื้อไม้มีสีสันและลวดลายสวยงาม แก่นไม้พะยูงจะมีสีสันหลากหลาย ตั้งแต่สีส้ม แดงเลือดหมู แดงอมม่วง ม่วงอมน้ำตาลดำ และน้ำตาลดำ ส่วนลวดลายเนื้อไม้จะเกลี้ยงเป็นมัน มีลายเส้นวงสีเข้มออกโทนน้ำตาลอมดำหรือสีน้ำตาลอ่อน และเสี้ยนสนเป็นริ้วแคบ เมื่อนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์แล้วจะดูสวยงามและน่าใช้งาน
• ขายได้ราคาดี เนื่องจากเป็นไม้ที่หาได้ยาก แต่ในขณะเดียวกันความต้องการก็สูงมากเช่นกัน ไม้พะยูงถูกจัดให้เป็นหนึ่งในไม้มีค่าทางเศรษฐกิจที่มีราคาแพงมากที่สุดในโลก ด้วยคุณภาพของเนื้อไม้ที่เหมาะกับการนำไปแปรรูปและผลิตเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ประเภทต่าง ๆ จึงทำให้เป็นที่ต้องการมาก หากขายก็จะได้ราคาสูงพอสมควร
ข้อเสียของไม้พยุง
• ราคาแพงและหาได้ยาก ด้วยคุณสมบัติของไม้ที่ตอบโจทย์และเป็นที่ต้องการมากในตลาด แต่ในขณะเดียวกันไม้พะยูงกลายเป็นไม้ที่หาได้ยาก เพราะเป็นไม้ที่มีอัตราการเจริญเติบโตค่อนข้างช้า คนส่วนมากจึงไม่ค่อยนิยมปลูกนัก ถึงแม้ว่าความต้องการจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ตาม นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม้พะยูงมีราคาแพงและหาได้ยาก
• ใช้เวลานานหลายปีกว่าจะนำมาใช้งานได้ โดยเฉลี่ยไม้พะยูงที่สามารถตัดขายได้จะอยู่ที่ประมาณ 20–30 ปีขึ้นไป ยิ่งมีอายุมากก็ยิ่งดี เพราะแก่นไม้จะมีขนาดใหญ่มากขึ้น และความหนาแน่นก็จะเพิ่มขึ้นด้วย แต่ระยะเวลาดังกล่าวถือว่านานพอสมควร นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ไม้พะยูงได้รับความนิยมน้อยลง
• ไม่เหมาะกับการนำมาสร้างที่อยู่อาศัย เนื่องจากไม้พะยูงมีน้ำมันอยู่ในตัว หากนำไปก่อสร้างบ้านเรือนจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ง่ายกว่าไม้ชนิดอื่น เพราะไม้ดังกล่าวจะติดไฟได้ค่อนข้างง่ายนั่นเอง
จุดเด่นของไม้พยุง
จุดเด่นของไม้พยุงจะอยู่ที่เนื้อไม้ โดยเนื้อไม้พยุงนั้นจะมีความละเอียด เหนียวและแข็ง และที่สำคัญคือมีน้ำมันอยู่ในตัว ถือเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและทนทานมากพอสมควร สามารถชักเงาได้ดี นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้ไม้พยุง(Siamese rosewood) โดดเด่นก็คือสีและลวดลายของไม้ ถึงแม้ว่าจะดูคล้ายกับไม้ชิงชันก็ตาม แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างคือไม้พยุงจะมีแก่นไม้สีแดงเข้ม ส้ม หรือน้ำตาลอ่อน ส่วนกระพี้จะมีสีเหลืองอ่อน ในขณะที่ไม้ชิงชันจะมีแก่นไม้สีแดงเข้มถึงค่อนข้างดำ และมีเส้นแทรกสีดำมากกว่า ส่วนกระพี้จะมีสีขาวอมเหลือง
8 อันดับไม้ราคาแพงที่สุดในประเทศไทย
อันดับที่ 1 ไม้พยุง รายละเอียดเรื่องไม้พยุง
อันดับที่ 2 ไม้ชิงชัน
อันดับที่ 3 ไม้กระพี้เขาควาย
อันดับที่ 4 ไม้สาทร
อันดับที่ 5 ไม้มะเกลือ
อันดับที่ 6 ไม้สักทอง รายละเอียดเรื่องไม้สักทอง (ตรวจสอบราคา)
อันดับที่ 7 ไม้มะค่า รายละเอียดเรื่องไม้มะค่า (ตรวจสอบราคา)
อันดับที่ 8 ไม้ประดู่ รายละเอียดเรื่องไม้ประดู่ (ตรวจสอบราคา)
ไม้พะยูง(Siamese rosewood) ถือเป็นไม้ที่หาได้ยาก เพราะปัจจุบันนี้เหลือเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและกัมพูชาที่เคยมีมากก็ถูกตัดไปใช้งานหมดแล้ว เพราะฉะนั้นต้นพยุงที่มีอยู่ตอนนี้เหลือเพียงแค่สายพันธุ์เดียว นั่นก็คือสายพันธุ์ไทยดั้งเดิม ซึ่งถือได้ว่าเป็นพันธุ์ที่มีเนื้อไม้แข็งแรงและทนทาน ลวดลายสวยงาม โดยเฉพาะไม้พะยูงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เมื่อนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ต่าง ๆ จะทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานมากทีเดียว สำหรับใครที่สนใจงานไม้เก่า ไม้จริง หรือจะเป็น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง คุณภาพดี TWOMENWOOD เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่คุณสามารถดูสินค้า สอบถามและสั่งซื้อไม้เก่า หรือไม้แปรรูปชนิดต่าง ๆ ได้ สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี