
สินค้า

สำหรับการรีดไม้เป็นการนำไม้จริงมารีดเพื่อให้งานหยาบเป็นงานละเอียด ซึ่งไม้ที่นำมารีดได้นั้นจะต้องผ่านกระบวนการเลื่อยจากไม้ท่อนกลมที่มีขนาดใหญ่ให้ได้ไม้แผ่นที่ขนาดเล็กสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย และนำไปใช้งานได้จริง และอาจมีตำหนิ ซึ่งอาจเกิดจาก ธรรมชาติ เครื่องมือกลในการตกแต่งไม้ จะมีรอย ตำหนิของเสี้ยนต่างๆ หรือเกิดจากตาไม้ รอยขรุขระทั่วบนแผ่นไม้ นี่คือเหตุผลหลักที่ต้องนำไปเข้าเครื่องรีด ในการรีดไม้ อีกทั้งเมื่อผ่านการรีดทำให้การนำไม้ไปใช้งานก็สะดวกมากขึ้น เมื่อทาสีแล้วมีลวดลายสวยงามจากไม้ เราจะพาไปทำความรู้จักการรีดไม้จากบทความต่อจากนี้ [1]
รีดไม้คืออะไร? ความสำคัญของการรีดไม้ในงานไม้
รีดไม้ เป็นกระบวนการสำคัญในงานไม้ที่ช่วยปรับสภาพและเตรียมไม้ให้มีพื้นผิวเรียบเนียน สม่ำเสมอ และขนาดที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน การรีดไม้เป็นขั้นตอนที่มักใช้ในงานก่อสร้าง งานเฟอร์นิเจอร์ และงานตกแต่งภายใน เพื่อให้ชิ้นไม้มีคุณภาพสูงและสามารถใช้งานได้ตามความต้องการ[2]
รีดไม้คืออะไร?
รีดไม้คือกระบวนการที่ใช้เครื่องมือหรือเครื่องจักรเฉพาะในการปรับพื้นผิวไม้ให้เรียบและขจัดส่วนที่ไม่สม่ำเสมอ เช่น ตะปุ่มตะป่ำ เสี้ยน หรือความไม่เท่ากันของพื้นผิวไม้
เครื่องมือที่ใช้รีดไม้สามารถเป็นเครื่องรีดไม้แบบมือหรือเครื่องรีดไม้ไฟฟ้า
กระบวนการรีดไม้ช่วยให้ไม้มีความหนาเท่ากันตลอดทั้งแผ่น
ความสำคัญของการรีดไม้ในงานไม้
1. เพิ่มความเรียบเนียนของพื้นผิวไม้
การรีดไม้ช่วยขจัดเสี้ยนและส่วนที่ไม่เรียบ ทำให้ไม้มีพื้นผิวที่เนียนและสวยงาม
เหมาะสำหรับงานตกแต่งที่ต้องการโชว์ลายไม้ธรรมชาติ
2. ปรับขนาดไม้ให้สม่ำเสมอ
ช่วยให้ไม้มีความหนาและขนาดที่เท่ากันทั่วทั้งชิ้น
เพิ่มความแม่นยำในการประกอบงานไม้ เช่น การทำเฟอร์นิเจอร์หรือโครงสร้าง
3. ลดปัญหาการประกอบหรือเชื่อมต่อ
ไม้ที่ผ่านการรีดจะช่วยให้ชิ้นงานประกอบกันได้ง่ายขึ้น
ลดปัญหาช่องว่างระหว่างชิ้นส่วน
4. เพิ่มคุณภาพและอายุการใช้งานของไม้
พื้นผิวไม้ที่เรียบเนียนช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกหรือความชื้น
เพิ่มความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว
5. เตรียมไม้สำหรับขั้นตอนต่อไป
ไม้ที่ผ่านการรีดสามารถนำไปเคลือบเงา ทาสี หรือติดตั้งได้ง่ายขึ้น
เพิ่มคุณภาพของงานในขั้นตอนสุดท้าย
ประเภทของเครื่องรีดไม้
เครื่องรีดไม้แบบมือ: เหมาะสำหรับงานขนาดเล็กหรือการปรับแก้ไขเฉพาะจุด
เครื่องรีดไม้ไฟฟ้า: ใช้สำหรับงานขนาดใหญ่และต้องการความรวดเร็ว
ข้อควรระวังในการรีดไม้
ตรวจสอบความคมของใบมีดเครื่องรีดไม้ก่อนใช้งาน
คำนึงถึงความหนาของไม้ที่ต้องการ เพื่อหลีกเลี่ยงไม้บางเกินไป
ใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากและแว่นตา เนื่องจากกระบวนการรีดไม้อาจเกิดฝุ่นและเศษไม้
การ รีดไม้ เป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ในงานไม้ที่ต้องการคุณภาพและความสวยงามของชิ้นงาน การทำให้ไม้เรียบเนียนและมีขนาดที่แม่นยำช่วยให้ชิ้นส่วนไม้เข้ากันได้ดี เพิ่มความประณีตของงาน และช่วยให้กระบวนการในขั้นตอนถัดไปง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง งานเฟอร์นิเจอร์ หรืองานตกแต่ง[2]

ขั้นตอนและกระบวนการรีดไม้ให้เรียบเนียน
การรีดไม้ เป็นกระบวนการสำคัญในการเตรียมไม้ให้มีพื้นผิวที่เรียบเนียนและขนาดที่เหมาะสมกับงานที่ต้องการ การทำให้ไม้เรียบเนียนไม่เพียงเพิ่มความสวยงาม แต่ยังช่วยให้ไม้ใช้งานได้สะดวกและมีคุณภาพสูงขึ้น บทความนี้จะอธิบายขั้นตอนและกระบวนการรีดไม้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด[3]
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการรีดไม้
เครื่องรีดไม้: อาจเป็นเครื่องรีดไม้มือหรือเครื่องรีดไม้ไฟฟ้า
ไม้บรรทัดหรือเครื่องวัดความหนา: สำหรับตรวจสอบความหนาของไม้
แปรงทำความสะอาด: ใช้ปัดฝุ่นและเศษไม้หลังการรีด
อุปกรณ์ป้องกัน: เช่น แว่นตาและหน้ากากกันฝุ่น
ขั้นตอนการรีดไม้ให้เรียบเนียน
1. เตรียมไม้ก่อนรีด
ตรวจสอบไม้: ตรวจดูความผิดปกติ เช่น รอยแตก ตะปู หรือเศษโลหะ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อเครื่องมือ
ตัดขนาดไม้: หากไม้มีขนาดใหญ่เกินไป ควรตัดให้เหมาะสมกับเครื่องรีดไม้
2. ตั้งค่าเครื่องรีดไม้
ปรับความหนา: ตั้งค่าความหนาที่ต้องการ โดยเริ่มจากการรีดในระดับที่บางกว่าเล็กน้อย
ตรวจสอบใบมีด: ให้แน่ใจว่าใบมีดมีความคมและอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
3. เริ่มกระบวนการรีดไม้
ป้อนไม้เข้าสู่เครื่อง: จับไม้ให้ตรงและป้อนเข้าเครื่องอย่างช้าๆ เพื่อให้ได้ความเรียบเนียนสม่ำเสมอ
ตรวจสอบพื้นผิวไม้: หลังจากรีดไม้แต่ละครั้ง ให้ตรวจสอบพื้นผิวว่าสม่ำเสมอหรือไม่
รีดซ้ำ (ถ้าจำเป็น): หากพื้นผิวไม้ยังไม่เรียบพอ สามารถปรับความหนาและรีดอีกครั้ง
4. ทำความสะอาดหลังการรีด
ใช้แปรงปัดฝุ่นและเศษไม้ที่เหลือออกจากไม้
เก็บเครื่องมือและทำความสะอาดเครื่องรีดไม้
เคล็ดลับในการรีดไม้ให้เรียบเนียน
อย่าปรับเครื่องรีดไม้ให้บางเกินไปในครั้งแรก: การรีดบางเกินไปอาจทำให้ไม้เสียหาย
ใช้ไม้ค้ำพยุง: สำหรับไม้ที่ยาวมาก ควรใช้ไม้ค้ำเพื่อช่วยป้องกันการโค้งงอ
ทำงานในพื้นที่โล่ง: การรีดไม้จะเกิดฝุ่นและเศษไม้ ควรทำงานในพื้นที่ที่มีระบบระบายอากาศที่ดี
ข้อควรระวังในการรีดไม้
ระมัดระวังขณะป้อนไม้เข้าสู่เครื่องเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ห้ามใช้เครื่องรีดไม้กับไม้ที่ยังมีตะปูหรือโลหะ เพราะอาจทำให้ใบมีดเสียหาย
ควรตรวจสอบเครื่องรีดไม้และใบมีดอย่างสม่ำเสมอ
การ รีดไม้ เป็นกระบวนการที่ช่วยให้ไม้มีพื้นผิวเรียบเนียนและเหมาะสำหรับการใช้งานในงานก่อสร้างและตกแต่ง การปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างถูกต้องและระมัดระวังจะช่วยให้ไม้มีคุณภาพสูง พร้อมสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย[3]
ประโยชน์ของการรีดไม้
การรีดไม้ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเพิ่มคุณภาพและความพร้อมของไม้สำหรับใช้งานในงานก่อสร้าง งานเฟอร์นิเจอร์ และงานตกแต่ง กระบวนการนี้ไม่เพียงช่วยปรับพื้นผิวของไม้ให้เรียบเนียน แต่ยังส่งผลต่อความสวยงาม ความแม่นยำ และความคงทนของชิ้นงานอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะมาดูประโยชน์ของการรีดไม้ในมุมมองที่หลากหลาย
1. ทำให้พื้นผิวไม้เรียบเนียนและสม่ำเสมอ
การรีดไม้ช่วยขจัดรอยขรุขระ ตะปุ่มตะป่ำ และเสี้ยนบนผิวไม้
ทำให้ไม้ดูสวยงามและเหมาะสมสำหรับการใช้งานที่ต้องการความประณีต เช่น งานเฟอร์นิเจอร์
2. ช่วยปรับขนาดไม้ให้แม่นยำ
กระบวนการรีดไม้ทำให้ได้ไม้ที่มีความหนาสม่ำเสมอทั่วทั้งแผ่น
เพิ่มความแม่นยำในการประกอบชิ้นส่วนไม้ เช่น การต่อโครงสร้าง หรือการทำบานประตู
3. เพิ่มคุณภาพของไม้ในงานก่อสร้างและตกแต่ง
ไม้ที่ผ่านการรีดจะมีคุณภาพสูงขึ้น ทำให้ใช้งานได้สะดวกและทนทาน
เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความสวยงาม เช่น พื้นไม้ บันได หรือชั้นวางของ
4. ลดปัญหาในการประกอบและติดตั้ง
พื้นผิวที่เรียบและขนาดที่แม่นยำช่วยลดช่องว่างหรือข้อผิดพลาดระหว่างชิ้นส่วนไม้
ทำให้การประกอบและติดตั้งทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
5. เตรียมไม้สำหรับขั้นตอนถัดไปได้ง่ายขึ้น
ไม้ที่เรียบเนียนและมีขนาดสม่ำเสมอสามารถนำไปผ่านกระบวนการอื่นๆ เช่น การขัด การทาสี หรือการเคลือบเงาได้ง่ายขึ้น
เพิ่มคุณภาพของงานในขั้นตอนสุดท้าย
6. ช่วยลดการสิ้นเปลืองวัสดุ
การรีดไม้ช่วยให้ได้ขนาดที่เหมาะสมโดยไม่ต้องตัดหรือปรับแต่งเพิ่มเติมมาก
ลดการสูญเสียเศษไม้หรือวัสดุที่ไม่จำเป็น
7. เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
ไม้ที่ผ่านการรีดจะมีพื้นผิวเรียบ ไม่มีเสี้ยนหรือขอบที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
ช่วยให้ชิ้นงานมีความปลอดภัยในการใช้งานทั้งในบ้านและในที่ทำงาน
การ รีดไม้ เป็นกระบวนการที่เพิ่มมูลค่าและคุณภาพให้กับไม้ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้พื้นผิวเรียบเนียน ขนาดแม่นยำ หรือเตรียมไม้สำหรับงานในขั้นตอนถัดไป การรีดไม้ช่วยให้ชิ้นงานสำเร็จรูปมีความสวยงาม ทนทาน และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีข้อเสียของการรีดไม้
การรีดไม้ เป็นกระบวนการสำคัญในงานไม้ที่ช่วยปรับสภาพพื้นผิวและขนาดไม้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน แม้ว่าการรีดไม้จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณาเช่นกัน ในบทความนี้ เราจะมาดูข้อดีและข้อเสียของการรีดไม้ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม
ข้อดีของการรีดไม้
1. ทำให้พื้นผิวเรียบเนียนและสวยงาม
การรีดไม้ช่วยขจัดรอยขรุขระ เสี้ยน และส่วนที่ไม่สม่ำเสมอ
ไม้ที่ผ่านการรีดจะดูเรียบเนียน เหมาะสำหรับงานตกแต่งที่ต้องการความประณีต
2. ปรับขนาดให้แม่นยำ
การรีดไม้ช่วยให้ไม้มีความหนาและขนาดที่เท่ากันตลอดทั้งแผ่น
เพิ่มความแม่นยำสำหรับการประกอบโครงสร้างหรือชิ้นส่วนต่างๆ
3. ลดเวลาและขั้นตอนในการเตรียมไม้
ไม้ที่ผ่านการรีดสามารถนำไปใช้งานต่อได้ทันที เช่น การขัด การทาสี หรือการเคลือบเงา
ลดความยุ่งยากในการตัดหรือปรับแต่งเพิ่มเติม
4. เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
ไม้ที่เรียบเนียนไม่มีเสี้ยนหรือขอบคมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
เหมาะสำหรับงานที่ต้องสัมผัสไม้โดยตรง เช่น เฟอร์นิเจอร์หรือพื้นบ้าน
5. เพิ่มคุณภาพและความทนทานของชิ้นงาน
การรีดไม้ช่วยลดการสะสมของฝุ่น ความชื้น และสิ่งสกปรก
เพิ่มความคงทนต่อการใช้งานระยะยาว
ข้อเสียของการรีดไม้
1. ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะและมีค่าใช้จ่าย
เครื่องรีดไม้มีราคาสูง โดยเฉพาะเครื่องรีดไม้ไฟฟ้าสำหรับงานขนาดใหญ่
หากไม่มีเครื่องรีดไม้ อาจต้องจ้างมืออาชีพ ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่าย
2. เสี่ยงต่อการเสียหายของไม้
หากตั้งค่าความหนาผิดพลาด อาจทำให้ไม้บางเกินไปหรือเสียรูปทรง
ไม้ที่มีคุณภาพต่ำอาจแตกหรือเสียหายระหว่างการรีด
3. เกิดเศษไม้และฝุ่นจำนวนมาก
การรีดไม้ทำให้เกิดเศษไม้และฝุ่นละอองที่ต้องจัดการ
จำเป็นต้องมีพื้นที่ทำงานที่เหมาะสมและระบบระบายอากาศที่ดี
4. ใช้เวลาและความชำนาญ
สำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ การรีดไม้อาจใช้เวลามากและมีโอกาสเกิดความผิดพลาด
ต้องเรียนรู้วิธีการใช้งานเครื่องรีดไม้และการตั้งค่าที่ถูกต้อง
5. ไม้บางชนิดอาจไม่เหมาะกับการรีด
ไม้ที่มีเนื้ออ่อนหรือมีปมเยอะอาจไม่สามารถรีดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ต้องเลือกไม้ที่เหมาะสมกับการรีด
การ รีดไม้ เป็นกระบวนการที่ช่วยเพิ่มคุณภาพและความพร้อมของไม้สำหรับงานต่างๆ แต่ก็มีข้อเสียที่ต้องพิจารณา เช่น ค่าใช้จ่าย อุปกรณ์ที่จำเป็น และความเสี่ยงในการเสียหายของไม้ การทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกใช้งานการรีดไม้ได้อย่างเหมาะสม

วัสดุไม้ที่เหมาะสมสำหรับการรีดไม้
การ รีดไม้ เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ไม้มีพื้นผิวเรียบเนียนและขนาดสม่ำเสมอ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในงานก่อสร้างและตกแต่งต่างๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ไม้ทุกชนิดที่เหมาะสมสำหรับการรีดไม้ การเลือกวัสดุไม้ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น[4]
คุณสมบัติของวัสดุไม้ที่เหมาะสมสำหรับการรีดไม้
ความแข็งแรงและความหนาแน่น
ไม้ควรมีความแข็งพอเหมาะเพื่อไม่ให้แตกหรือเสียหายระหว่างการรีด
เนื้อไม้ควรมีความหนาแน่นที่ช่วยให้พื้นผิวเรียบและเนียนหลังจากรีด
ความสม่ำเสมอของเนื้อไม้
ไม้ที่มีปมหรือรอยแตกน้อยจะรีดได้ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
เนื้อไม้ควรเรียบสม่ำเสมอเพื่อลดโอกาสเกิดความเสียหาย
ความแห้งของไม้
ไม้ที่มีความชื้นต่ำเหมาะสำหรับการรีด เพราะจะลดโอกาสการหดตัวหรือบิดงอ
ไม้ที่แห้งสนิทช่วยให้การรีดง่ายและได้พื้นผิวที่เรียบเนียน
ประเภทของไม้ที่เหมาะสำหรับการรีดไม้
1. ไม้เนื้อแข็ง
ไม้เนื้อแข็งมีความทนทานและเหมาะสำหรับการรีดไม้ที่ต้องการพื้นผิวคุณภาพสูง ตัวอย่างไม้เนื้อแข็งที่นิยมใช้:
ไม้สัก: มีความแข็งแรง ทนทาน และเนื้อไม้เรียบง่ายต่อการรีด
ไม้แดง: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความคงทนและความสวยงาม
ไม้ประดู่: มีเนื้อไม้ละเอียด ให้พื้นผิวที่เรียบเนียน
2. ไม้เนื้ออ่อน
เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องการความแข็งแรงมาก เช่น งานตกแต่งภายใน ตัวอย่างไม้เนื้ออ่อน:
ไม้สน: น้ำหนักเบา รีดง่าย และให้ลวดลายที่สวยงาม
ไม้อัด: แม้จะเป็นไม้ประกอบ แต่ก็สามารถรีดได้เพื่อปรับพื้นผิวให้เรียบ
3. ไม้แปรรูป
ไม้ที่ผ่านกระบวนการแปรรูปบางประเภทสามารถรีดเพิ่มเติมได้ เช่น:
ไม้ MDF (Medium-Density Fiberboard): มีความสม่ำเสมอของเนื้อไม้ เหมาะสำหรับการรีดเพื่อเตรียมพื้นผิว
ไม้ยางพาราแปรรูป: เป็นตัวเลือกที่ราคาไม่สูงและให้ผลลัพธ์ที่ดี
ข้อควรระวังในการเลือกวัสดุไม้สำหรับการรีด
หลีกเลี่ยงไม้ที่มีปมหรือรอยแตกมาก
อาจทำให้เกิดปัญหาระหว่างการรีด เช่น เครื่องรีดเสียหาย หรือเนื้อไม้ไม่เรียบ
เลือกไม้ที่มีความชื้นเหมาะสม
ความชื้นที่มากเกินไปอาจทำให้ไม้บิดงอหลังจากรีด
พิจารณาความหนาและขนาดของไม้
ไม้ที่หนาเกินไปอาจต้องใช้เครื่องรีดขนาดใหญ่
ควรตรวจสอบว่าเครื่องรีดไม้สามารถรองรับขนาดไม้ที่เลือกได้
การเลือกวัสดุไม้ที่เหมาะสมสำหรับการ รีดไม้ เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ได้พื้นผิวไม้ที่สวยงามและพร้อมใช้งาน ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สักและไม้แดง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความคงทนและคุณภาพสูง ส่วนไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้สน และไม้แปรรูป เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเบาและราคาประหยัด การเลือกไม้ที่เหมาะสมจะช่วยลดปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพของงานไม้[4]
การดูแลและบำรุงรักษาเครื่องรีดไม้
เครื่อง รีดไม้ เป็นเครื่องมือที่ช่วยปรับพื้นผิวไม้ให้เรียบและมีความละเอียดเหมาะสมสำหรับการใช้งานในงานก่อสร้างและงานตกแต่งต่างๆ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เครื่องรีดไม้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน คุณต้องมีการดูแลและบำรุงรักษาเครื่องอย่างสม่ำเสมอ ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำขั้นตอนและวิธีการดูแลรักษาเครื่องรีดไม้ให้เหมาะสมและยาวนาน
1. ทำความสะอาดเครื่องรีดไม้
การทำความสะอาดเครื่อง รีดไม้ เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบำรุงรักษาเครื่องให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำความสะอาดหลังการใช้งานทุกครั้ง: ใช้แปรงหรือผ้าสะอาดเช็ดทำความสะอาดเศษไม้และฝุ่นละอองจากการรีดไม้
ล้างหรือเป่าฝุ่น: ในกรณีที่มีฝุ่นเกาะบนตัวเครื่องหรือช่องระบายอากาศ ให้ใช้เครื่องเป่าลมเพื่อขจัดฝุ่นที่ติดอยู่
ตรวจสอบเศษไม้ที่ตกค้าง: ตรวจสอบว่ามีเศษไม้ตกค้างในพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึงหรือไม่ และทำการล้างทำความสะอาด
2. การหล่อลื่นส่วนประกอบที่เคลื่อนไหว
เครื่อง รีดไม้ มักจะมีส่วนที่เคลื่อนไหว ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการหล่อลื่นเพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างราบรื่น
ใช้จาระบีหล่อลื่น: ส่วนที่เคลื่อนไหว เช่น มอเตอร์ ลูกปืน หรือเฟืองควรได้รับการหล่อลื่นทุก 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งาน
หลีกเลี่ยงการใช้จาระบีมากเกินไป: ใช้จาระบีในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและเศษไม้ที่อาจเกิดขึ้น
3. ตรวจสอบการตั้งค่าความหนาของไม้
เครื่อง รีดไม้ มีการตั้งค่าความหนาของไม้ที่สามารถปรับได้ แต่การปรับที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เครื่องทำงานผิดพลาด
ตรวจสอบการตั้งค่าความหนา: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องตั้งค่าความหนาของไม้ได้ตามที่ต้องการ
ทดสอบการรีดไม้: ก่อนที่จะรีดไม้เป็นจำนวนมาก ควรทดสอบการรีดบนไม้บางแผ่นเพื่อให้แน่ใจว่าความหนาของไม้ได้ตามที่ต้องการ
4. ตรวจสอบใบมีดและฟันรีด
ใบมีดและฟันรีดของเครื่อง รีดไม้ จะต้องคมและอยู่ในสภาพดีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรีดไม้
ตรวจสอบความคมของใบมีด: หากใบมีดมีความคมไม่พอ ควรเปลี่ยนหรือปรับแต่งใบมีดให้คม
เปลี่ยนใบมีดที่สึกหรอ: หากใบมีดสึกหรอหรือเสียหาย ควรเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อป้องกันการเสียหายของไม้และเครื่องรีด
ตรวจสอบฟันรีด: หากฟันรีดมีการสึกหรอ ควรทำการเปลี่ยนเพื่อให้ผลลัพธ์ของการรีดไม้มีความละเอียด
5. ตรวจสอบการทำงานของมอเตอร์และระบบไฟฟ้า
มอเตอร์และระบบไฟฟ้าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เครื่อง รีดไม้ ทำงานได้
ตรวจสอบการทำงานของมอเตอร์: หากมอเตอร์ทำงานผิดปกติ เช่น มีเสียงดังหรือไม่หมุน ควรหยุดการใช้งานและตรวจสอบสภาพ
ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟ: ตรวจสอบว่าไม่มีสายไฟหรือปลั๊กไฟหลวม หรือเสียหาย เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า
6. การจัดเก็บเครื่องรีดไม้
หลังจากการใช้งานทุกครั้ง การเก็บรักษาเครื่องรีดไม้ในสถานที่ที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งาน
เก็บเครื่องในพื้นที่แห้ง: หลีกเลี่ยงการเก็บเครื่องในที่ที่มีความชื้นสูง เนื่องจากความชื้นอาจทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องเกิดสนิม
ปิดเครื่องเมื่อไม่ใช้งาน: ปิดเครื่องและป้องกันฝุ่นหรือเศษไม้จากการสะสมในเครื่อง
การ ดูแลและบำรุงรักษาเครื่องรีดไม้ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน การทำความสะอาดเครื่องหล่อลื่นส่วนประกอบที่เคลื่อนไหว ตรวจสอบใบมีดและฟันรีด ตลอดจนการตรวจสอบมอเตอร์และระบบไฟฟ้า จะช่วยให้เครื่องรีดไม้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จในงานต่างๆ
จากบทความข้างต้นที่กล่าวมาการรีดไม้เป็นส่วนหนึ่งของงานไม้ เพราะไม้ที่เรานำมาใช้ในงานประดิษฐ์และงานก่อสร้างจะต้องผ่านขั้นตอนการรีดเพื่อให้ไม้ที่ได้มีความเรียบ ความสวยงาม และความหนาตามขนาดที่เราต้องการ ไม้ที่ใช้ในการรีดใช้ได้ทั้งไม้เก่าและไม้ใหม่ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เพราะไม้ที่นำมาใช้งานจริงต้องมีความแห้ง ไม่บิดเบี้ยว หรือโกงงอ ซึ่งตามหลักแล้วไม้เก่าจะมีความแห้ง ไม่โกงงอ เพราะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม้จึงไม่มีความชื้น จึงนิยมนำมาใช้งานมากกว่า และไม่ต้องกังวลศัตรูพืชเลย ดังนั้นไม่ว่าจะใช้งานไม้ในรูปแบบไหนจุดเด่นของไม้ขึ้นอยู่กับการรีดเพราะทำให้ไม้ไม่มีรอยตำหนิ ช่วยขัดผิวไม้ให้เกิดลวดลายคมชัด เพื่อให้งานไม้นั้นมีประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด อีกทั้งในงานไม้เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะ และมีความรอบรู้เกี่ยวกับชนิดคุณสมบัติของไม้ ใช้เครื่องมือไม้ได้อย่างถูกต้องปลอดภัย นอกจากนี้ต้องมีความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องใช้และวัสดุอื่นๆที่จะต้องใช้ร่วมกับไม้อีกด้วย เช่น กระจก บานพัก กุญแจ เป็นต้น
ซึ่งถ้าหากท่านต้องการคำแนะนำเรามีช่างผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับงานไม้ ท่านใดที่กำลังต้องการไม้เก่าคุณภาพดี สามารถเลือกซื้อสินค้าจากทางร้าน TWOMENWOOD มีไม้ให้เลือกหลายเกรดหลายชนิดเต็มประสิทธิภาพ สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี
หมายเหตุ ร้านเราจะขายไม้เก่าไทย เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็ง สามารถตรวจเช็คราคาได้ทางข้างล่าง