Your Cart

การเข้าลิ้น การนำไม้ตั้งแต่สองแผ่นขึ้นไปมาต่อเข้าด้วยกัน

การเข้าลิ้น
https://floordecor.co.th/wp-content/uploads/2018/06/10.jpg

สำหรับการเข้าลิ้นไม้นั้นเป็นการนำไม้ตั้งแต่สองแผ่นขึ้นไปมาต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้แผ่นไม้ต่อกันแน่นเลยทีเดียว ผู้คนจึงนำวิธีการนี้มาใช้สำหรับทำฝา พื้นไม้ ประตู เป็นต้น เนื่องจากจุดประสงค์ของการเข้าลิ้นนั้นก็เพื่อเพื่อซ่อนรอยต่อ หากไม้มีการยืดหรือหดตัวก็จะมองไม่เห็นร่องเพราะมีลิ้นไม้กั้นอยู่นั้นเอง บางครั้งเทคนิคอื่นอาจไม่เหมาะสมจึงต้องเลือกใช้เทคนิคการเข้าลิ้นไม้ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากกว่า คล้ายกับการต่อจิ๊กซอว์  ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อไม้กระดานหลายๆแผ่นเข้าด้วยกันได้ง่าย  รวมถึงยังช่วยให้สามารถเข้ามุมไม้ได้สะดวกมากขึ้นด้วย ทางเราได้รวบรวมความรู้เกี่ยวกับเข้าลิ้นไม้มาให้ทุกท่านได้ศึกษาต่อจากบทความนี้กัน

เข้าลิ้นคืออะไร? และความสำคัญของการเข้าลิ้นในงานไม้

การ เข้าลิ้น เป็นเทคนิคการประกอบไม้ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานก่อสร้างและตกแต่งบ้าน โดยเฉพาะในงานไม้ เช่น การติดตั้งพื้นไม้ ผนังไม้ หรือเพดานไม้ วิธีนี้ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างชิ้นไม้นั้นแน่นหนา แข็งแรง และมีความสวยงามเรียบร้อย ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกว่า “เข้าลิ้น” คืออะไร และเหตุใดจึงมีความสำคัญในงานไม้[1]

เข้าลิ้นคืออะไร?

เข้าลิ้น คือกระบวนการประกอบไม้สองชิ้นเข้าด้วยกันโดยใช้ร่องและลิ้นที่ถูกออกแบบมาให้พอดีกัน ร่องไม้หนึ่งฝั่งจะมีส่วนที่เป็น “ลิ้น” (Tongue) ยื่นออกมา และอีกฝั่งหนึ่งจะมีส่วนที่เป็น “ร่อง” (Groove) ที่เว้าลึกเข้าไป การประกอบด้วยเทคนิคนี้ช่วยให้ไม้สองชิ้นยึดติดกันได้แน่นหนา โดยไม่ต้องใช้ตะปูหรือน็อตในบางกรณี

ลักษณะเด่นของการเข้าลิ้น

  • ให้ความเรียบร้อยของผิวไม้

  • ลดการเกิดรอยต่อหรือช่องว่างระหว่างไม้

  • เพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้าง

ความสำคัญของการเข้าลิ้นในงานไม้

  1. เพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง
    การเข้าลิ้นช่วยให้ชิ้นไม้ยึดติดกันได้แน่นหนาโดยไม่ต้องพึ่งตะปูหรือน็อตมากเกินไป ทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรงและคงทน

  2. เพิ่มความสวยงาม
    เนื่องจากรอยต่อของไม้ที่ใช้การเข้าลิ้นมีความเรียบเนียนและไม่มีช่องว่าง การใช้งานจึงดูเรียบร้อยและเหมาะสำหรับงานตกแต่ง

  3. ป้องกันการเคลื่อนตัวของไม้
    เทคนิคเข้าลิ้นช่วยลดการเคลื่อนที่หรือบิดตัวของไม้ ซึ่งอาจเกิดจากความชื้นหรือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ

  4. เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความประณีต
    การเข้าลิ้นเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับงานไม้ที่ต้องการความละเอียด เช่น การปูพื้นไม้ การทำผนังไม้ และการตกแต่งภายใน

  5. ประหยัดเวลาในการติดตั้ง
    การเข้าลิ้นทำให้การติดตั้งไม้ทำได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการประกอบแบบอื่น

ตัวอย่างการใช้งานของการเข้าลิ้นในงานไม้

  • พื้นไม้: ใช้เข้าลิ้นในการปูพื้นเพื่อให้แผ่นไม้ต่อกันได้เรียบสนิท

  • ผนังไม้: การประกอบไม้เข้าลิ้นช่วยลดช่องว่างระหว่างไม้ และเพิ่มความสวยงามของผนัง

  • ฝ้าเพดานไม้: ใช้เทคนิคเข้าลิ้นเพื่อให้ฝ้าเพดานดูเป็นชิ้นเดียวกัน

การ เข้าลิ้น เป็นเทคนิคที่มีบทบาทสำคัญในงานไม้ ทั้งในด้านความสวยงาม ความแข็งแรง และความสะดวกในการติดตั้ง การเลือกใช้เทคนิคนี้ในงานไม้ช่วยเพิ่มคุณภาพและความคงทนของโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ[1]

https://www.doublefloor.co.th/wp-content/uploads/2017/01/Laminate-Flooring-1.jpg

ประเภทของการเข้าลิ้นที่นิยมในงานไม้

การ เข้าลิ้น เป็นเทคนิคสำคัญในการประกอบไม้ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานก่อสร้างและงานตกแต่ง เทคนิคนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ความสวยงาม และลดช่องว่างระหว่างไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การเข้าลิ้นนั้นมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ ประเภทของการเข้าลิ้นที่นิยมในงานไม้

1. การเข้าลิ้นตรง (Tongue and Groove)

ลักษณะ:

  • ใช้ลิ้นที่ยื่นออกมาจากขอบไม้หนึ่งฝั่งเข้ากับร่องที่อีกฝั่งของไม้

  • เป็นประเภทการเข้าลิ้นที่นิยมใช้มากที่สุด

การใช้งาน:

  • การปูพื้นไม้

  • การทำผนังไม้และเพดานไม้

จุดเด่น:

  • ให้การเชื่อมต่อที่แน่นหนา

  • ลดการเคลื่อนตัวของไม้

2. การเข้าลิ้นลูกปืน (Beaded Tongue and Groove)

ลักษณะ:

  • เป็นการเข้าลิ้นแบบ Tongue and Groove ที่มีการเพิ่มลวดลายเป็นเส้นลูกปืนบนไม้

  • ใช้สำหรับงานตกแต่งที่ต้องการความสวยงาม

การใช้งาน:

  • การตกแต่งผนังหรือเพดานไม้ในสไตล์วินเทจ

จุดเด่น:

  • เพิ่มความประณีตและความคลาสสิกในงานตกแต่ง

3. การเข้าลิ้นแบบแผ่นประกบ (Shiplap Joint)

ลักษณะ:

  • ขอบไม้ถูกตัดเป็นรูปขั้นบันได ทำให้ไม้สามารถซ้อนทับกันได้

  • มีลักษณะคล้าย Tongue and Groove แต่ไม่มีลิ้นยื่นออกมา

การใช้งาน:

  • การทำผนังไม้หรือผนังภายนอก

จุดเด่น:

  • เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการกันน้ำหรือกันลม

4. การเข้าลิ้นครึ่งไม้ (Half-Lap Joint)

ลักษณะ:

  • ตัดส่วนหนึ่งของขอบไม้แต่ละชิ้นออกครึ่งหนึ่ง แล้วประกอบเข้าด้วยกัน

  • ทำให้ผิวไม้ราบเรียบเสมอกัน

การใช้งาน:

  • โครงสร้างไม้ที่ต้องการความแข็งแรง เช่น เฟอร์นิเจอร์

จุดเด่น:

  • เพิ่มความมั่นคงให้กับโครงสร้าง

5. การเข้าลิ้นแบบซ่อน (Secret Tongue and Groove)

ลักษณะ:

  • ลิ้นและร่องจะถูกซ่อนอยู่ภายใน ทำให้ผิวไม้เรียบเนียนสมบูรณ์

  • นิยมในงานตกแต่งที่เน้นความสวยงาม

การใช้งาน:

  • งานเฟอร์นิเจอร์หรืองานไม้ตกแต่งภายใน

จุดเด่น:

  • เพิ่มความสวยงามและเน้นงานที่ดูเรียบร้อย

6. การเข้าลิ้นแบบตัวที (T-Joint)

ลักษณะ:

  • ใช้สำหรับการเชื่อมต่อไม้สองชิ้นที่ตั้งฉากกัน

  • มักใช้ในโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรง

การใช้งาน:

  • งานเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะหรือชั้นวาง

จุดเด่น:

  • รองรับน้ำหนักได้ดี

การ เข้าลิ้น มีหลายประเภทที่เหมาะสมกับงานไม้ที่แตกต่างกัน การเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มคุณภาพของงานไม้ทั้งในด้านความแข็งแรงและความสวยงาม การรู้จักประเภทของการเข้าลิ้นที่นิยมใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งมืออาชีพและผู้เริ่มต้น

เข้าลิ้น

ขั้นตอนการเข้าลิ้นไม้ด้วยตัวเอง

การ เข้าลิ้น เป็นเทคนิคพื้นฐานในงานไม้ที่ช่วยให้การประกอบไม้มีความแข็งแรง เรียบร้อย และเพิ่มความสวยงาม หากคุณต้องการทำการเข้าลิ้นไม้ด้วยตัวเองเพื่อใช้ในงานปูพื้น ผนัง หรือการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ บทความนี้จะอธิบายขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้าน[2]

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

  1. ไม้ ที่ต้องการเข้าลิ้น

  2. เครื่องเซาะร่อง (Router) หรือ เครื่องรีดไม้

  3. ดินสอและไม้บรรทัด สำหรับวัดและทำเครื่องหมาย

  4. แคลมป์จับไม้ เพื่อยึดไม้ให้อยู่กับที่

  5. กระดาษทราย สำหรับขัดเรียบ

ขั้นตอนการเข้าลิ้นไม้ด้วยตัวเอง

1. เตรียมไม้และออกแบบร่องลิ้น

  • วัดขนาดของไม้ให้ตรงตามความต้องการ

  • ใช้ดินสอและไม้บรรทัดทำเครื่องหมายบริเวณที่จะตัดร่องและลิ้น

  • ขนาดของลิ้นและร่องควรสมดุล เช่น ร่องมีความกว้างพอให้ลิ้นเสียบได้พอดี

2. ตัดร่องบนไม้

  • ใช้ เครื่องเซาะร่อง หรือ เลื่อยไฟฟ้า เซาะร่องบริเวณขอบไม้

  • ระวังอย่าให้ร่องลึกเกินไป ควรเซาะให้พอดีกับขนาดลิ้นของไม้ชิ้นที่ต้องการประกอบ

3. สร้างลิ้นบนไม้

  • ใช้เครื่องมือเดิมตัดลิ้นให้ยื่นออกมาจากขอบไม้ โดยปรับความกว้างและความยาวให้พอดีกับร่องไม้

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าลิ้นไม้เรียบเนียนและไม่มีเสี้ยน

4. ทดสอบการประกอบ

  • ลองนำไม้สองชิ้นมาประกอบเข้าด้วยกัน

  • หากลิ้นไม้แน่นเกินไป ให้ขัดด้วยกระดาษทรายเพื่อให้ประกอบได้ง่ายขึ้น

5. ขัดเรียบและเก็บรายละเอียด

  • เมื่อประกอบเรียบร้อย ใช้กระดาษทรายขัดบริเวณร่องและลิ้นไม้ให้เรียบ

  • ทำความสะอาดเศษไม้และฝุ่นที่เหลือ

6. ติดตั้งและประกอบในงานจริง

  • ใช้กาวสำหรับงานไม้ (Wood Glue) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในกรณีที่จำเป็น

  • ยึดด้วยแคลมป์จับไม้เพื่อให้ส่วนประกอบแน่นหนาระหว่างรอให้กาวแห้ง

เคล็ดลับในการเข้าลิ้นไม้

  • เลือกไม้ที่มีความหนาและแข็งแรงพอสำหรับการเซาะร่อง

  • ใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพเพื่อให้การตัดร่องและลิ้นเรียบเนียน

  • ตรวจสอบความพอดีของลิ้นและร่องเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในการประกอบ

การ เข้าลิ้นไม้ ด้วยตัวเองเป็นกระบวนการที่ไม่ซับซ้อนหากคุณมีเครื่องมือและเทคนิคที่เหมาะสม การทำด้วยตัวเองไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังเพิ่มความภูมิใจในงานไม้ที่คุณสร้างเองอีกด้วย[2]

เข้าลิ้น

วัสดุไม้ที่เหมาะสมสำหรับการเข้าลิ้น

การ เข้าลิ้น เป็นเทคนิคสำคัญในงานไม้ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ความเรียบเนียน และความสวยงามให้กับชิ้นงาน เช่น พื้นไม้ ผนังไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ การเลือกวัสดุไม้ที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพและความทนทานของงานไม้ในระยะยาว บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับวัสดุไม้ที่เหมาะสมสำหรับการเข้าลิ้น

คุณสมบัติที่ไม้ควรมีสำหรับการเข้าลิ้น

  1. ความแข็งแรง: ไม้ควรมีความแข็งแรงพอที่จะทนต่อแรงกระแทกและน้ำหนัก

  2. ความยืดหยุ่น: ไม้ที่ดีควรมีความยืดหยุ่นเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น

  3. เนื้อไม้ละเอียด: ช่วยให้การตัดลิ้นและร่องมีความเรียบเนียน

  4. ต้านทานการบิดงอ: เพื่อป้องกันไม่ให้ไม้เสียรูปในระยะยาว

ประเภทของไม้ที่เหมาะสมสำหรับการเข้าลิ้น

1. ไม้สัก

คุณสมบัติเด่น:

  • เนื้อไม้ละเอียดและแข็งแรง

  • มีความทนทานต่อปลวกและแมลง

  • ให้ผิวสัมผัสที่เรียบเนียนเมื่อเข้าลิ้น

การใช้งาน:

  • พื้นไม้จริง

  • ผนังตกแต่ง

2. ไม้เต็ง

คุณสมบัติเด่น:

  • แข็งแรงและรับน้ำหนักได้ดี

  • มีความหนาแน่นสูง ทนต่อสภาพอากาศ

  • เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ

การใช้งาน:

  • พื้นไม้กลางแจ้ง

  • โครงสร้างไม้ที่ต้องการความทนทาน

3. ไม้ยางพารา

คุณสมบัติเด่น:

  • มีน้ำหนักเบา

  • ง่ายต่อการตัดและเซาะร่อง

  • ราคาประหยัดและหาได้ง่าย

การใช้งาน:

  • เฟอร์นิเจอร์ไม้

  • งานตกแต่งภายใน

4. ไม้สน

คุณสมบัติเด่น:

  • เนื้อไม้เบาและยืดหยุ่น

  • เหมาะสำหรับการเซาะร่องที่ต้องการความประณีต

  • มีลวดลายสวยงามและให้บรรยากาศอบอุ่น

การใช้งาน:

  • ผนังและเพดานไม้

  • เฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง

5. ไม้แดง

คุณสมบัติเด่น:

  • แข็งแรงและทนต่อแรงกระแทก

  • มีความต้านทานต่อการผุกร่อน

  • เนื้อไม้สีเข้ม สวยงามเหมาะกับงานตกแต่งที่เน้นความหรูหรา

การใช้งาน:

  • งานปูพื้น

  • โครงสร้างที่ต้องการความคงทน

6. ไม้ MDF หรือไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด

คุณสมบัติเด่น:

  • เนื้อไม้เรียบเนียน สม่ำเสมอ

  • ง่ายต่อการเซาะร่องและการตัดแต่ง

  • ราคาไม่สูง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก

การใช้งาน:

  • งานเฟอร์นิเจอร์ราคาประหยัด

  • ผนังตกแต่งภายใน

เคล็ดลับการเลือกไม้สำหรับการเข้าลิ้น

  • เลือกไม้ที่มีความชื้นต่ำเพื่อลดโอกาสการบิดงอ

  • ใช้ไม้เนื้อแข็งสำหรับงานที่ต้องการความทนทาน

  • คำนึงถึงสีและลวดลายของไม้ให้เหมาะสมกับการตกแต่ง

การเลือก วัสดุไม้สำหรับการเข้าลิ้น ควรพิจารณาจากคุณสมบัติของไม้และความเหมาะสมกับประเภทงาน หากเลือกไม้ที่มีคุณภาพและเหมาะสม การเข้าลิ้นไม้จะให้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งในด้านความสวยงามและความแข็งแรงของงานไม้

https://www.sapsiammaterial.com

ประโยชน์ของการเข้าลิ้นไม้ในงานตกแต่งและโครงสร้าง

การ เข้าลิ้นไม้ เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในงานไม้มาอย่างยาวนาน เนื่องจากช่วยเพิ่มความแข็งแรง ความสวยงาม และความคงทนให้กับงานไม้ ไม่ว่าจะเป็นงานตกแต่งภายในหรือโครงสร้างไม้ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงประโยชน์ของการเข้าลิ้นไม้ที่ทำให้งานไม้มีคุณภาพที่ดีกว่าเดิม[3]

1. เพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างไม้

  • การเข้าลิ้นช่วยให้ไม้แต่ละชิ้นเชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนา ลดโอกาสที่ไม้จะเลื่อนหรือแยกตัวออกจากกัน

  • เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทาน เช่น พื้นไม้ ผนังไม้ และโครงสร้างที่รับน้ำหนัก

2. ช่วยเพิ่มความสวยงามและเรียบร้อย

  • การเข้าลิ้นช่วยซ่อนรอยต่อระหว่างไม้ ทำให้งานดูเรียบเนียนและมีความต่อเนื่อง

  • เพิ่มความประณีตให้กับงานตกแต่ง เช่น ผนังไม้ลายต่อเนื่อง หรือเพดานไม้ที่ไม่มีช่องว่าง

3. ป้องกันปัญหาไม้บิดงอหรือแตกร้าว

  • เทคนิคการเข้าลิ้นช่วยลดแรงตึงภายในไม้ ลดปัญหาไม้บิดงอหรือแตกร้าวเมื่อใช้งานในระยะยาว

  • โดยเฉพาะในงานพื้นไม้ การเข้าลิ้นจะช่วยให้พื้นเรียบเนียนและคงตัว

4. เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำและความชื้น

  • งานเข้าลิ้นช่วยลดช่องว่างระหว่างไม้ ลดโอกาสที่น้ำหรือความชื้นจะซึมเข้าไป

  • เหมาะสำหรับงานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องครัว หรือพื้นที่กลางแจ้ง

5. ติดตั้งง่ายและประหยัดเวลา

  • การเข้าลิ้นช่วยให้งานติดตั้งทำได้รวดเร็ว เพราะไม้แต่ละชิ้นสามารถประกอบเข้ากันได้ง่าย

  • ลดความซับซ้อนในการใช้อุปกรณ์เสริม เช่น ตะปูหรือสกรู

6. รองรับการขยายตัวของไม้ในทุกสภาพอากาศ

  • ด้วยการออกแบบที่เน้นความพอดี การเข้าลิ้นช่วยให้ไม้สามารถขยายหรือหดตัวได้ตามสภาพอากาศโดยไม่เสียรูปทรง

7. เหมาะสำหรับงานหลากหลายประเภท

การเข้าลิ้นสามารถนำไปใช้ในงานต่างๆ เช่น:

  • พื้นไม้: เพื่อความแข็งแรงและลวดลายที่เรียบเนียน

  • ผนังและเพดาน: ให้ความสวยงามแบบธรรมชาติ

  • เฟอร์นิเจอร์: ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความคงทน

ตัวอย่างงานที่ใช้การเข้าลิ้น

  • พื้นไม้ปาร์เก้

  • ผนังไม้สไตล์โมเดิร์น

  • เฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน

  • เพดานไม้ในงานตกแต่งบ้าน

การ เข้าลิ้นไม้ ไม่เพียงเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างและงานไม้ แต่ยังช่วยเพิ่มความสวยงามและความทนทานให้กับชิ้นงานอีกด้วย การเลือกใช้เทคนิคเข้าลิ้นในงานไม้จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ทั้งด้านการใช้งานและการตกแต่ง[3]

ข้อดีข้อเสียของการเข้าลิ้นในงานไม้

การ เข้าลิ้น เป็นเทคนิคการประกอบไม้ที่ได้รับความนิยมในงานก่อสร้างและงานตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นพื้นไม้ ผนังไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ เทคนิคนี้มีจุดเด่นที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความสวยงามให้กับงานไม้ แต่ก็มีข้อเสียบางประการที่ควรพิจารณา บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียของการเข้าลิ้นไม้[3]

ข้อดีของการเข้าลิ้น

1. เพิ่มความแข็งแรงและความแน่นหนา

  • การเข้าลิ้นช่วยให้ไม้แต่ละชิ้นเชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนา ลดโอกาสที่ไม้จะเลื่อนหรือแยกตัวออก

  • เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทาน เช่น พื้นไม้หรือโครงสร้างไม้

2. ความสวยงามและความเรียบร้อย

  • เทคนิคนี้ช่วยลดรอยต่อระหว่างไม้ ทำให้งานดูเรียบเนียนและมีความต่อเนื่อง

  • ช่วยสร้างลวดลายไม้ที่สวยงามและเหมาะสำหรับการตกแต่ง

3. ป้องกันปัญหาความชื้นและสิ่งสกปรก

  • การเข้าลิ้นลดช่องว่างระหว่างไม้ จึงช่วยป้องกันการสะสมของฝุ่น สิ่งสกปรก และความชื้น

  • เหมาะสำหรับงานในพื้นที่ที่ต้องการความสะอาด เช่น พื้นบ้านหรือผนังตกแต่ง

4. รองรับการขยายตัวของไม้

  • การเข้าลิ้นช่วยให้ไม้สามารถขยายหรือหดตัวได้เล็กน้อยโดยไม่เสียรูปทรง

  • ทำให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น

5. ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว

  • งานเข้าลิ้นช่วยลดความยุ่งยากในขั้นตอนการติดตั้ง โดยไม้สามารถประกอบเข้ากันได้ทันที

  • ลดการใช้วัสดุเสริม เช่น ตะปูหรือกาว

ข้อเสียของการเข้าลิ้น

1. ต้องใช้ความแม่นยำสูง

  • การเซาะร่องและการทำลิ้นต้องอาศัยความละเอียดและความแม่นยำ หากทำผิดพลาดอาจส่งผลต่อความสวยงามและการใช้งาน

2. เสียเวลาในการเตรียมไม้

  • กระบวนการทำลิ้นและร่องต้องใช้เวลาและอุปกรณ์เฉพาะ เช่น เครื่องเซาะร่องหรือเครื่องเร้าเตอร์

3. ไม้บางชนิดอาจไม่เหมาะสม

  • ไม้เนื้ออ่อนหรือไม้ที่มีความชื้นสูงอาจเกิดการบิดงอได้ง่ายเมื่อเข้าลิ้น

  • ไม้ที่มีความแข็งมากเกินไปอาจทำให้การเซาะร่องยากและเกิดความเสียหาย

4. ความยุ่งยากในการซ่อมแซม

  • หากมีการเสียหาย การซ่อมแซมอาจทำได้ยากกว่าการใช้เทคนิคการประกอบไม้แบบอื่น

5. ค่าใช้จ่ายสูงในบางกรณี

  • หากใช้ไม้คุณภาพสูงหรืออุปกรณ์ที่ซับซ้อน ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นกว่าการประกอบไม้ทั่วไป

การ เข้าลิ้น เป็นเทคนิคที่มีข้อดีมากมาย ทั้งในแง่ของความแข็งแรง ความสวยงาม และความสะดวกในการติดตั้ง อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาข้อเสีย เช่น ความยุ่งยากในการเตรียมไม้และซ่อมแซม รวมถึงค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้น เพื่อให้การเข้าลิ้นเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับงานไม้ของคุณ[3]

https://propholic.com/wp-content/uploads/2017/02/07.jpg

จุดเด่นของการเข้าลิ้น

ไม้ที่นำมาเชื่อมต่อกันมีความแนบสนิท ติดกันแน่นจนเหมือนเป็นชิ้นเดียวกัน โดยไม่ต้องใช้ตะปู แยกออกจากกันได้อยาก จึงช่วยเพิ่มความแข็งแรงทนทานในการใช้งานมากขึ้น ถ้าหากจะใช้ตะปูเข้าไปในลิ้นไม้จะช่วยซ่อนหัวตะปูเก็บคาวมเรียบร้อยของงานไม้ไปในตัว แนวลิ้นที่ต่อกันสามารถป้องกันแสดงแดด ลม น้ำ และเสียงรบกวนได้มากขึ้นอีกด้วย [3]

จากบทความข้างต้นที่กล่าวมาการเข้าลิ้นไม้เป็นเทคนิคที่ทำให้แผ่นไม้เกิดการเชื่อมต่อที่แน่นสามารถใช้งานกับสิ่งที่ต้องทนต่อแรงเสียดทานได้ดี เก็บรายละเอียดระหว่างรอยต่อของแผ่นไม้ส่งผลดีต่อการใช้งานระยะยาวและงานไม้มีความสวยงามการเข้าลิ้นจึงเหมาะสมกับงานพื้นไม้ ประตู หน้าต่าง ฝ้า และเพดาน เป็นวิธีการที่ช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับช่างไม้หรือทำเองที่บ้านสำหรับไม้ที่เลือกใช้งานถ้าหากเป็นไม้เก่าก็จะได้ความแห้ง ความแข็งแรงทนทานเนื่องจากมีอายุที่ยาวนาน และยังมีข้อดีที่ช่วยนำไม้เก่ามาประยุกต์ใช้งานใหม่ได้ เพิ่มคุณประโยชน์ของไม้ได้มากขึ้นไม่ต้องกังวลรอยเก่าของไม้เลย ถ้าหากเป็นไม้ใหม่อาจจะมีความโก่งงอบ้าง แต่ก็สามารถใช้ได้เพราะการเข้าลิ้นช่วยทำให้เรียบได้

สำหรับท่านใดที่กำลังต้องการไม้เก่าคุณภาพดีมาใช้ในงานก่อสร้าง หรืองานประดิษฐ์สามารถเลือกซื้อสินค้าจากทางร้าน TWOMENWOOD ทางเรามีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำไม้ที่เหมาะสมกับคุณ มีสินค้าให้คุณเลือกได้หลายเกรดราคาเป็นกันเอง เรามีหน้าร้านอยู่จังหวัดเพชรบุรี

หมายเหตุ ร้านเราจะขายไม้เก่าไทย เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็ง สามารถตรวจเช็คราคาได้ทางข้างล่าง

ตรวจสอบราคาสินค้า

อ้างอิง