สินค้า
ทำความรู้จักกับวงกบไม้ ส่วนโครงสร้างที่มีความสำคัญกับประตู-หน้าต่าง
TheExpress Wire (2023) ได้ให้ข้อมูลว่า ประตูเป็นช่องทางเข้า-ออกของบ้านเรือน เป็นส่วนสำคัญของประตูและหน้าต่าง ที่ไม่สามารถติดตั้งเข้ากับผนังได้โดยตรงจึงจำเป็นต้องมีโครงสร้างเพื่อยึดหรือเชื่อมต่อระหว่างบานประตูและผนังบ้านเข้าด้วยกันและโครงสร้างนั้นก็คือวงกบ ซึ่งจะช่วยรับน้ำหนักและแรงกระแทกของบานประตูเป็นหลัก กล่าวคือการเลือกวงกบที่เหมาะสมนั้นมีความสำคัญอย่างมากเพราะจะช่วยทำให้ประตูติดกับผนังได้อย่างมั่นคงและแข็งแรง ซึ่งประตูบ้านส่วนใหญ่จะนิยมใช้วงกบไม้ [1]
วงกบคืออะไร และความสำคัญในการติดตั้งประตูและหน้าต่าง
วงกบ เป็นองค์ประกอบสำคัญในงานก่อสร้างและตกแต่งบ้านที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความสวยงามให้กับประตูและหน้าต่าง โดยวงกบเป็นโครงสร้างที่ติดตั้งอยู่รอบกรอบประตูหรือหน้าต่าง ทำหน้าที่เป็นฐานรองรับน้ำหนักและช่วยให้การติดตั้งประตูและหน้าต่างมีความแน่นหนา[2]
วงกบคืออะไร?
วงกบ หมายถึง กรอบหรือโครงสร้างที่ติดตั้งเพื่อรองรับประตูหรือหน้าต่าง ซึ่งสามารถทำจากวัสดุหลากหลาย เช่น ไม้ โลหะ หรือวัสดุสังเคราะห์ โดยวัสดุที่เลือกใช้จะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและการใช้งานในแต่ละพื้นที่
ความสำคัญของวงกบในการติดตั้งประตูและหน้าต่าง
การติดตั้ง วงกบ ที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะส่งผลต่อความทนทานและความปลอดภัยของบ้าน
1. รองรับน้ำหนักของประตูและหน้าต่าง
วงกบช่วยกระจายน้ำหนักของประตูและหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิด-ปิดได้อย่างราบรื่นและไม่เกิดการเอียงหรือทรุดตัว
2. เพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคง
การติดตั้งวงกบที่แน่นหนาช่วยให้ประตูและหน้าต่างไม่เกิดการสั่นหรือหลุดง่ายเมื่อเจอกับแรงกระแทกหรือลมแรง
3. ป้องกันการรั่วซึมและการรั่วไหลของอากาศ
วงกบที่ติดตั้งอย่างถูกต้องช่วยป้องกันน้ำ ฝุ่น และอากาศไม่ให้ผ่านเข้ามาในบ้าน เพิ่มความสะดวกสบายและลดการใช้พลังงานในการปรับอากาศ
4. เสริมความสวยงามของบ้าน
นอกจากฟังก์ชันการใช้งานแล้ว วงกบยังช่วยเพิ่มความสวยงามและความสมบูรณ์ให้กับประตูและหน้าต่าง
วงกบเป็นโครงสร้างสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการก่อสร้างบ้าน การเลือกวงกบที่เหมาะสมและติดตั้งอย่างถูกต้องจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความสวยงาม และความสะดวกสบายให้กับบ้านของคุณ[3]
ประเภทของวงกบไม้และการเลือกใช้งานให้เหมาะสม
วงกบ เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างที่ช่วยรองรับประตูและหน้าต่าง รวมถึงเสริมความสวยงามให้บ้าน วงกบไม้นับเป็นตัวเลือกยอดนิยมเพราะมีความแข็งแรง ทนทาน และให้ความรู้สึกอบอุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับประเภทของวงกบไม้ และเคล็ดลับการเลือกใช้งานให้เหมาะสม
ประเภทของวงกบไม้
การเลือกวงกบไม้ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งาน ลักษณะพื้นที่ และงบประมาณ โดยสามารถแบ่งประเภทหลักๆ ได้ดังนี้
1. วงกบไม้จริง
คุณสมบัติ:
ทำจากไม้ธรรมชาติ เช่น ไม้สัก ไม้แดง ไม้เต็ง
มีความแข็งแรง ทนทาน และอายุการใช้งานยาวนาน
สวยงามด้วยลวดลายไม้ตามธรรมชาติ
การใช้งาน:
เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความคลาสสิกและอบอุ่น
ใช้ได้ทั้งงานภายในและภายนอก
2. วงกบไม้สังเคราะห์ (Wood Composite)
คุณสมบัติ:
ผลิตจากการผสมผสานระหว่างไม้ธรรมชาติและวัสดุสังเคราะห์
ทนต่อความชื้น ปลวก และการบวมหรือแตกร้าว
น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย
การใช้งาน:
เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ หรือภายนอกอาคาร
ใช้ทดแทนวงกบไม้จริงในงบประมาณที่ต่ำกว่า
3. วงกบไม้รีไซเคิล
คุณสมบัติ:
ทำจากไม้เก่าที่นำมารีโนเวตใหม่
มีเอกลักษณ์จากลวดลายที่แตกต่าง
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การใช้งาน:
เหมาะสำหรับบ้านสไตล์วินเทจหรือบ้านที่ต้องการบรรยากาศแบบธรรมชาติ
4. วงกบไม้เคลือบผิว (Laminated Wood Frame)
คุณสมบัติ:
ผลิตจากไม้จริงหรือไม้สังเคราะห์ที่เคลือบผิวด้วยสารกันชื้นหรือฟิล์มลามิเนต
มีความสวยงามและทนต่อรอยขีดข่วน
การใช้งาน:
เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความหรูหราและดูแลรักษาง่าย
เคล็ดลับการเลือกวงกบไม้ให้เหมาะสม
1. พิจารณาลักษณะการใช้งาน
สำหรับงานภายใน: เลือกวงกบไม้จริงที่ให้ความสวยงามและกลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์
สำหรับงานภายนอก: เลือกวงกบไม้สังเคราะห์หรือไม้จริงที่ผ่านการเคลือบสารกันชื้น
2. คำนึงถึงสภาพอากาศ
ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ควรหลีกเลี่ยงวงกบไม้ที่มีโอกาสบวมหรือแตกร้าว
เลือกไม้ที่มีคุณสมบัติต้านทานปลวกและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
3. เลือกขนาดวงกบที่เหมาะสม
ตรวจสอบขนาดวงกบให้สอดคล้องกับประตูหรือหน้าต่าง
ขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้คือ 3.5×7 นิ้ว หรือปรับตามความต้องการ
4. สีและดีไซน์ที่เข้ากับบ้าน
เลือกวงกบที่มีสีและลวดลายที่กลมกลืนกับประตู หน้าต่าง และการตกแต่งภายใน
5. งบประมาณ
หากต้องการความคุ้มค่าในระยะยาว อาจเลือกวงกบไม้จริงที่มีอายุการใช้งานยาวนาน
สำหรับการควบคุมงบประมาณ วงกบไม้สังเคราะห์เป็นตัวเลือกที่ดี
วงกบไม้มีหลายประเภทให้เลือกใช้งาน โดยการพิจารณาลักษณะงาน สภาพแวดล้อม และงบประมาณ จะช่วยให้คุณเลือกวงกบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบ้านของคุณ ไม่ว่าจะเป็นวงกบไม้จริงที่แข็งแรงและดูดี หรือวงกบไม้สังเคราะห์ที่ทนทานและติดตั้งง่าย
ชนิดของไม้ที่เหมาะต่อการนำมาทำวงกบ
วงกบ เป็นส่วนสำคัญของการติดตั้งประตูและหน้าต่างที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความมั่นคงของโครงสร้าง การเลือกชนิดของไม้สำหรับทำวงกบจึงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากไม้แต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันในเรื่องความแข็งแรง ความทนทานต่อสภาพอากาศ และความสวยงาม[4]
ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักชนิดของไม้ที่เหมาะสมสำหรับการนำมาทำวงกบ พร้อมคำแนะนำในการเลือกใช้งาน
ชนิดของไม้ที่เหมาะสำหรับทำวงกบ
1. ไม้สัก
คุณสมบัติเด่น:
แข็งแรงและทนทานต่อปลวกและแมลง
มีน้ำมันธรรมชาติที่ช่วยป้องกันความชื้นและการบิดตัว
พื้นผิวเรียบและลายไม้สวยงาม
การใช้งานที่เหมาะสม:
ใช้สำหรับทำวงกบที่ต้องการความหรูหรา เช่น วงกบประตูทางเข้าหลัก
2. ไม้เต็ง
คุณสมบัติเด่น:
แข็งแรงและรับน้ำหนักได้ดี
ทนต่อแรงกระแทกและการใช้งานหนัก
ราคาย่อมเยากว่าไม้สัก
การใช้งานที่เหมาะสม:
เหมาะสำหรับวงกบในพื้นที่ภายนอก เช่น วงกบหน้าต่างโรงรถ
3. ไม้แดง
คุณสมบัติเด่น:
มีความแข็งและความทนทานสูง
ทนต่อความชื้นและสภาพอากาศเปียกชื้น
สีไม้มีความสวยงามเฉพาะตัว
การใช้งานที่เหมาะสม:
ใช้สำหรับวงกบในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ
4. ไม้ยางพาราอัดประสาน
คุณสมบัติเด่น:
มีความแข็งแรงพอเหมาะ และราคาประหยัด
ผ่านกระบวนการอัดน้ำยาเพื่อป้องกันปลวกและเชื้อรา
น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย
การใช้งานที่เหมาะสม:
ใช้สำหรับวงกบภายในบ้าน เช่น วงกบห้องนอน
5. ไม้สน
คุณสมบัติเด่น:
น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย
มีลวดลายไม้ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์
ราคาถูกกว่าวัสดุไม้ชนิดอื่น
การใช้งานที่เหมาะสม:
เหมาะสำหรับวงกบภายในที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น วงกบหน้าต่างห้องนั่งเล่น
เคล็ดลับการเลือกไม้สำหรับทำวงกบ
1. เลือกตามการใช้งาน
สำหรับพื้นที่ภายนอกหรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ควรเลือกไม้ที่มีความทนทานต่อความชื้น เช่น ไม้สักหรือไม้แดง
สำหรับพื้นที่ภายในบ้านที่ไม่ต้องการความแข็งแรงสูงมาก เช่น ห้องนอน สามารถใช้ไม้สนหรือไม้ยางพาราอัดประสานได้
2. พิจารณางบประมาณ
หากต้องการไม้ที่มีราคาย่อมเยาและคุณภาพดี เช่น ไม้เต็งหรือไม้ยางพารา
สำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามและหรูหรา อาจเลือกใช้ไม้สัก
3. ตรวจสอบคุณภาพของไม้
ควรเลือกไม้ที่ผ่านการอบแห้งเพื่อลดการหดตัวและบิดเบี้ยว
ตรวจสอบว่าไม่มีรอยแตกหรือรูปลวกที่อาจทำให้โครงสร้างวงกบไม่แข็งแรง
ข้อดีของการเลือกไม้ที่เหมาะสมสำหรับทำวงกบ
เพิ่มความทนทาน: ช่วยให้วงกบมีอายุการใช้งานยาวนาน
เพิ่มความปลอดภัย: รองรับน้ำหนักของประตูและหน้าต่างได้ดี
เพิ่มความสวยงาม: ทำให้ประตูและหน้าต่างดูโดดเด่นและสมบูรณ์แบบ
ลดปัญหาในระยะยาว: ลดโอกาสเกิดปัญหาบิดเบี้ยวหรือการผุกร่อน
การเลือกชนิดของไม้สำหรับทำวงกบเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทนทาน และความสวยงามให้กับบ้านของคุณ โดยควรพิจารณาคุณสมบัติของไม้ให้เหมาะกับการใช้งาน งบประมาณ และสภาพแวดล้อม เพื่อให้วงกบมีคุณภาพและใช้งานได้ในระยะยาว[4]
ขนาดมาตรฐานของวงกบสำหรับประตูและหน้าต่าง
วงกบ เป็นส่วนสำคัญในการติดตั้งประตูและหน้าต่างที่ช่วยเพิ่มความมั่นคง แข็งแรง และรองรับโครงสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกขนาดวงกบที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การติดตั้งประตูและหน้าต่างเป็นไปอย่างราบรื่น
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับขนาดมาตรฐานของวงกบสำหรับประตูและหน้าต่าง รวมถึงคำแนะนำในการเลือกวงกบที่ตอบโจทย์การใช้งาน
ขนาดมาตรฐานของวงกบสำหรับประตู
วงกบสำหรับประตูมีหลายขนาด ขึ้นอยู่กับประเภทของประตูและความต้องการใช้งาน โดยขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้มีดังนี้:
วงกบขนาด 2×4 นิ้ว
เหมาะสำหรับประตูขนาดเล็กหรือประตูห้องน้ำ
ใช้ในงานที่มีพื้นที่จำกัด
วงกบขนาด 2×5 นิ้ว
ขนาดที่เหมาะกับประตูบ้านทั่วไป เช่น ประตูห้องนอนหรือประตูห้องครัว
ให้ความแข็งแรงมากขึ้น
วงกบขนาด 2×6 นิ้ว
เหมาะสำหรับประตูบานคู่หรือประตูทางเข้าหลักของบ้าน
รองรับน้ำหนักได้ดีและเพิ่มความหรูหราให้กับบ้าน
วงกบขนาด 3×7 นิ้ว
ขนาดใหญ่พิเศษที่เหมาะสำหรับประตูไม้จริงหรือประตูขนาดใหญ่ที่ต้องการความมั่นคงสูง
ขนาดมาตรฐานของวงกบสำหรับหน้าต่าง
วงกบหน้าต่างมีขนาดที่เล็กกว่าวงกบประตูเพื่อรองรับน้ำหนักที่เบากว่า ขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้ได้แก่:
วงกบขนาด 2×3 นิ้ว
เหมาะสำหรับหน้าต่างบานเล็กหรือหน้าต่างที่ติดตั้งในห้องน้ำ
วงกบขนาด 2×4 นิ้ว
ใช้กับหน้าต่างบานเปิดทั่วไป เช่น หน้าต่างห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น
วงกบขนาด 2×5 นิ้ว
เหมาะสำหรับหน้าต่างบานใหญ่หรือหน้าต่างที่ต้องการความแข็งแรงสูง
เคล็ดลับการเลือกขนาดวงกบให้เหมาะสม
พิจารณาขนาดของประตูและหน้าต่าง:
ตรวจสอบขนาดของบานประตูหรือหน้าต่างที่ต้องการติดตั้ง เพื่อเลือกวงกบที่มีขนาดพอดี
วัสดุของประตูหรือหน้าต่าง:
สำหรับบานไม้จริงที่มีน้ำหนักมาก ควรเลือกวงกบที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรง
สำหรับบาน PVC หรืออลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบา สามารถใช้วงกบขนาดเล็กได้
ตำแหน่งการติดตั้ง:
หากติดตั้งในพื้นที่ภายนอก ควรเลือกวงกบขนาดใหญ่ที่ทนทานต่อแรงลมและการสั่นสะเทือน
ดีไซน์ของบ้าน:
เลือกวงกบที่เข้ากับการตกแต่งบ้าน เพื่อเพิ่มความสวยงามและสมบูรณ์ให้กับประตูและหน้าต่าง
ข้อดีของการเลือกใช้วงกบที่มีขนาดมาตรฐาน
ติดตั้งง่าย: ช่างสามารถติดตั้งวงกบได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
ลดค่าใช้จ่าย: วงกบขนาดมาตรฐานมีราคาถูกกว่าวงกบที่ต้องสั่งทำพิเศษ
เพิ่มความปลอดภัย: วงกบที่เหมาะสมช่วยให้ประตูและหน้าต่างมั่นคงมากขึ้น
การเลือกวงกบที่มีขนาดมาตรฐานสำหรับประตูและหน้าต่างเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การติดตั้งมีคุณภาพและตอบโจทย์การใช้งานในระยะยาว โดยควรพิจารณาขนาดของวงกบให้เหมาะสมกับประเภทของประตูและหน้าต่าง รวมถึงลักษณะการใช้งาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
วิธีการติดตั้งวงกบที่ถูกต้อง เพื่อความทนทานและปลอดภัย
วงกบ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ประตูและหน้าต่างติดตั้งได้อย่างมั่นคงและใช้งานได้อย่างราบรื่น หากติดตั้งวงกบไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดปัญหา เช่น การบิดเบี้ยว การหลุดร่วง หรือการรั่วซึมของน้ำและลม ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยและอายุการใช้งาน
ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำขั้นตอนการติดตั้งวงกบที่ถูกต้อง พร้อมเคล็ดลับที่ช่วยให้วงกบของคุณทนทานและปลอดภัยในระยะยาว
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการติดตั้งวงกบ
วงกบไม้หรือวงกบวัสดุอื่นตามที่เลือกใช้
ไม้ค้ำหรือไม้ดาม
ตลับเมตรและระดับน้ำ
สกรูหรือเดือยยึด
เครื่องมือช่าง เช่น สว่าน ค้อน เลื่อย
ปูนซีเมนต์หรือโฟมอุดรอยต่อ
ขั้นตอนการติดตั้งวงกบที่ถูกต้อง
1. เตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้ง
ตรวจสอบช่องเปิด (Opening) ว่ามีขนาดพอดีกับวงกบ
ทำความสะอาดพื้นที่เพื่อป้องกันเศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อาจรบกวนการติดตั้ง
2. ตรวจสอบขนาดและสภาพของวงกบ
ตรวจวัดขนาดของวงกบอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
ตรวจสอบความเรียบของวงกบ และแก้ไขส่วนที่บิดงอหรือมีตำหนิ
3. วางวงกบในตำแหน่งที่ต้องการ
นำวงกบวางในช่องเปิดและใช้ไม้ค้ำหรือไม้ดามเพื่อยึดให้วงกบตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง
ใช้ระดับน้ำตรวจสอบความตรงของวงกบในแนวตั้งและแนวนอน
4. ยึดวงกบเข้ากับโครงสร้าง
เจาะรูบนวงกบและติดตั้งสกรูหรือเดือยยึดเข้ากับผนัง
หากวงกบเป็นไม้ ควรเว้นระยะห่างเล็กน้อยระหว่างวงกบกับผนังเพื่อรองรับการขยายตัว
5. อุดรอยต่อและเก็บงาน
ใช้ปูนซีเมนต์หรือโฟมอุดรอยต่อระหว่างวงกบกับผนังให้แน่นหนา
ทำความสะอาดพื้นผิว และเก็บงานให้เรียบร้อย
6. ตรวจสอบความมั่นคง
ทดสอบการเปิด-ปิดประตูหรือหน้าต่างว่าทำงานได้ปกติ
ตรวจสอบว่าไม่มีการโยกคลอนหรือช่องว่างที่อาจทำให้เกิดการรั่วซึม
เคล็ดลับการติดตั้งวงกบให้ทนทานและปลอดภัย
1. เลือกวัสดุที่เหมาะสม
วงกบไม้จริง: แข็งแรงและดูสวยงาม แต่ควรผ่านการอบแห้งและทาสารป้องกันปลวก
วงกบไม้สังเคราะห์: ทนต่อความชื้นและปลวก เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
2. ใช้อุปกรณ์ยึดที่มีคุณภาพ
เลือกสกรูหรือเดือยที่ทำจากวัสดุทนทาน เช่น สแตนเลส เพื่อป้องกันการเกิดสนิม
3. ตรวจสอบโครงสร้างก่อนติดตั้ง
ช่องเปิดควรมีขนาดที่พอดีกับวงกบ และไม่ควรมีรอยร้าวหรือความเสียหาย
4. ระวังเรื่องการขยายตัวของวัสดุ
สำหรับวงกบไม้ ควรเผื่อระยะเล็กน้อยเพื่อรองรับการขยายตัวของไม้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้น
5. ป้องกันปัญหารั่วซึม
ใช้ซิลิโคนหรือโฟมอุดรอยต่อ เพื่อป้องกันน้ำและลมซึมผ่าน
ข้อดีของการติดตั้งวงกบที่ถูกต้อง
เพิ่มความปลอดภัย: ประตูและหน้าต่างมั่นคง ไม่หลุดร่วงหรือโยกคลอน
ยืดอายุการใช้งาน: ลดโอกาสเกิดความเสียหายจากการใช้งานในระยะยาว
ประหยัดพลังงาน: ลดการรั่วซึมของลม ช่วยให้ระบบปรับอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สวยงาม: เพิ่มความสมบูรณ์ให้กับงานตกแต่งบ้าน
การติดตั้งวงกบที่ถูกต้องไม่เพียงช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทนทาน แต่ยังช่วยลดปัญหาในระยะยาวและเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านของคุณ ด้วยขั้นตอนที่ละเอียดรอบคอบและการเลือกวัสดุที่เหมาะสม คุณจะมั่นใจได้ว่าวงกบที่ติดตั้งจะใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อแตกต่างระหว่างวงกบไม้ และวงกบจากวัสดุอื่น ๆ
• ลักษณะภายนอก วงกบไม้จะมีเอกลักษณ์ที่เด่นชัดกว่าวงกบที่ทำจากวัสดุอื่น ๆ เพราะไม้เป็นวัสดุจากธรรมชาติที่มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป ลวดลายและโทนสีของไม้แต่ละชนิดจะไม่เหมือนกัน ผิวสัมผัสเป็นธรรมชาติ เมื่อนำมาทำเป็นวงกบแล้วจะให้ความรู้สึกอบอุ่น ซึ่งสามารถเข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์ ส่วนวงกบที่ทำจากวัสดุอื่น ๆ มักมีลักษณะคล้ายกันและมีสีสันลวดลายให้เลือกค่อนข้างน้อย
• น้ำหนัก วงกบไม้ที่ทำจากไม้เนื้อแข็งจะมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของเนื้อไม้ด้วย เพื่อให้รับน้ำหนักและแรงกระแทกได้อย่างเต็มที่ แต่ทว่าวงกบที่มีน้ำหนักมากที่สุดนั้นจะเป็นวงกบเหล็ก ส่วนวงกบอลูมิเนียมและวงกบ uPVC จะมีน้ำหนักค่อนข้างเบาเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ
• ความแข็งแรง ทนทาน วงกบไม้สามารถรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทนต่อแดด ฝน และสภาพอากาศอีกด้วย แต่ยังเสี่ยงต่อการถูกปลวกและแมลงเข้าทำลาย ส่วนวงกบเหล็กจะมีความแข็งแรงและรับแรงกระแทกได้ดี แต่ถ้าหากโดนน้ำหรือความชื้นก็มีโอกาสเป็นสนิมได้ ในขณะที่วงกบอลูมิเนียมจะทนต่อน้ำและความชื้นได้ดี ไม่สึกกร่อนง่าย และวงกบ uPVC สามารถกันปลวกและแมลงได้ แต่ในบางกรณีอาจไม่แข็งแรงเท่ากับวัสดุอื่น ๆ
• ปัญหาปลวกและแมลง วงกบไม้มีโอกาสที่จะพบกับปัญหาปลวกและแมลงเข้าทำลายสูง ถึงแม้ว่าจะเป็นไม้เนื้อแข็ง แต่ก็ยังมีโอกาสที่ปลวกและแมลงจะเข้ามาสร้างความเสียหายได้ เพราะไม้เป็นวัสดุจากธรรมชาติที่ศัตรูพืชชอบนั่นเอง ควรเลือกไม้ที่เก่าที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว หรือผ่านการอบแห้งแล้ว ในขณะที่วงกบเหล็ก อลูมิเนียม และ uPVC จะไม่พบกับปัญหาดังกล่าว
• อายุการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นวงกบไม้ วงกบเหล็ก วงกบอลูมิเนียม หรือวงกบ uPVC อายุการใช้งานจะขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาเป็นหลัก หากเป็นวงกบไม้ที่ทนต่อแดด ฝน และสภาพอากาศต่าง ๆ รวมถึงป้องกันปลวกและแมลงได้ จะทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น ในขณะที่วงกบเหล็กจะมีความแข็งแรงและทนทาน แต่ถ้าหากโดนความชื้นเป็นเวลานานก็อาจทำให้เป็นสนิมและเสียหายได้ ส่วนวงกบอลูมิเนียมและวงกบ uPVC จะไม่ค่อยพบปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น จึงทำให้มีอายุการใช้งานค่อนข้างยาวนาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ติดตั้งด้วย
• ราคา วงกบไม้มีราคาค่อนข้างแพงพอสมควร เพราะไม้เป็นวัสดุจากธรรมชาติที่มีความสวยงามและแข็งแรง และในปัจจุบันวัสดุไม้จริงอย่างไม้เนื้อแข็งนั้นหาได้ค่อนข้างยาก จึงทำให้มีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับวัสดุอื่น ๆ สำหรับวงกบที่ทำจากเหล็ก อลูมิเนียม และ uPVC จะมีราคาถูกกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเกรดของวัสดุนั้น ๆ ด้วย [2]
จากที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ทราบว่า วงกบมีหน้าที่เชื่อมบานประตู-หน้าต่างเข้ากับผนังบ้าน ซึ่งจะช่วยรับน้ำหนักและแรงกระแทกในขณะที่เปิด-ปิด ประตูหน้าต่าง โดยวงกบแต่ละชนิดล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย สำหรับวงกบไม้อาจจะมีปัญหาเรื่องปลวกและแมลง รวมถึงการยืดหดและบิดงอของไม้ แต่ถ้าหากใช้ไม้เนื้อแข็งที่มีอายุมาก หรือไม้เก่า จะช่วยให้วงกบไม้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ซึ่ง TWOMENWOOD เรามีสินค้าไม้เก่าพร้อมจำหน่าย และยังรับทำวงกบไม้ตามความต้องการของลูกค้าอีกด้วย เรามีหน้าร้านอยู่ที่ เพชรบุรี
หมายเหตุ ร้านเราจะขายไม้เก่าไทย เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็ง สามารถตรวจเช็คราคาได้ทางข้างล่าง