สินค้า
ตู้เป็นสิ่งของที่มีการออกแบบมาเพื่อสำหรับจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ว่าจะเก็บเสื้อผ้า ผ้าห่ม ผ้านวม ผ้าขนหนู เครื่องประดับตกแต่งร่างกายหรือทั่วไป อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆอีกมากมาย ดังนั้นตู้ไม่ใช่เพียงแค่ความสวยงามอย่างเดียวแต่มีความเป็นอเนกประสงค์สามารถใช้งานได้หลายอย่างในการจัดเก็บจัดว่าง เมื่อของทุกอย่างถูดจัดไว้เป็นที่เป็นทางก็ทำให้บ้านดูกลมกลืนหน้าอยู่ และสามารถดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่าย ยังช่วยในการป้องกันสิ่งของจากฝุ่นละเอียง ความชื้น และป้องกันการสูญหายได้อย่างดี ตู้จึงเป็นส่วนหนึ่งของที่พักอาศัยที่ทุกบ้านต้องมีเพื่อช่วยเสริมประโยชน์ในการใช้สอย ทางเราได้นำบทความตู้ไม้มาให้กับทุกคนได้ศึกษากันต่อจากนี้
ตู้ไม้
เครื่องเรือนสำหรับเก็บหรือใส่สิ่งของ มีรูปทรงสี่เหลี่ยม มีฝาด้านข้าง ด้านหลัง และด้านบน ด้านล่างมีพื้น ส่วนทางด้านหน้ามีบานปิดเปิดได้ ข้อมูลความหมายจากพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ได้กำหนดไว้นั้นเอง [1]
ตู้ไม้ เฟอร์นิเจอร์คลาสสิกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ในโลกของการตกแต่งบ้าน ตู้ไม้ ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่ไม่มีวันล้าสมัย ด้วยความสวยงามตามธรรมชาติและความทนทาน ตู้ไม้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย และเข้ากับบ้านในทุกสไตล์
ทำไมต้องเลือกตู้ไม้?
ความสวยงามจากธรรมชาติ
ตู้ไม้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยลายไม้ธรรมชาติ
สามารถปรับให้เข้ากับสไตล์บ้าน เช่น วินเทจ คลาสสิก หรือโมเดิร์น
ความแข็งแรงและทนทาน
ตู้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้โอ๊ค หรือไม้สน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ทนต่อการใช้งานหนัก เหมาะสำหรับเก็บของที่มีน้ำหนัก
สร้างบรรยากาศอบอุ่นในบ้าน
สีและพื้นผิวของไม้ช่วยให้บ้านดูอบอุ่นและน่าอยู่
ความยืดหยุ่นในการใช้งาน
ตู้ไม้สามารถออกแบบและปรับแต่งได้ตามต้องการ
เหมาะสำหรับใช้งานในทุกพื้นที่ เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องครัว
ประเภทของตู้ไม้
ตู้เสื้อผ้าไม้
เหมาะสำหรับเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว
มีทั้งแบบบานเปิด บานเลื่อน หรือแบบเปิดโล่ง
ตู้เก็บของอเนกประสงค์
ใช้งานได้หลากหลาย เช่น เก็บหนังสือ เอกสาร หรือของใช้ในบ้าน
มักออกแบบให้มีชั้นวางและลิ้นชักเพื่อความสะดวก
ตู้โชว์ไม้
ใช้สำหรับจัดแสดงของตกแต่ง เช่น เครื่องปั้นดินเผา หรือของสะสม
ดีไซน์เปิดโปร่ง ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับของตกแต่ง
ตู้ครัวไม้
ใช้เก็บจานชามและเครื่องครัว
เพิ่มความอบอุ่นให้กับห้องครัว
ข้อดีของตู้ไม้
วัสดุธรรมชาติ
ตู้ไม้ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติและปลอดภัยต่อสุขภาพซ่อมแซมง่าย
หากเกิดรอยขีดข่วน สามารถขัดและเคลือบใหม่ได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ตู้ไม้ที่มาจากแหล่งปลูกทดแทนช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติ
ข้อควรระวังในการเลือกตู้ไม้
การดูแลรักษา
ควรหลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดดโดยตรง
ใช้น้ำยากันปลวกเพื่อป้องกันความเสียหาย
น้ำหนัก
ตู้ไม้มีน้ำหนักมาก อาจยากต่อการเคลื่อนย้าย
ราคา
ตู้ไม้เนื้อแข็งมักมีราคาสูงกว่าวัสดุอื่น แต่คุ้มค่ากับความทนทาน
การเลือกตู้ไม้ที่เหมาะสม
พิจารณาขนาดและพื้นที่
เลือกตู้ที่พอดีกับพื้นที่ในบ้าน ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป
เลือกประเภทไม้ที่เหมาะสม
ไม้เนื้อแข็งสำหรับการใช้งานที่ต้องการความทนทาน
ไม้เนื้ออ่อนสำหรับตู้ตกแต่งที่ไม่ได้ใช้งานหนัก
ตรวจสอบงานฝีมือ
ตู้ไม้คุณภาพดีมักมีการประกอบและเคลือบผิวอย่างเรียบร้อย
ตู้ไม้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีความคลาสสิกและใช้งานได้หลากหลาย ไม่เพียงเพิ่มพื้นที่เก็บของ แต่ยังช่วยเสริมบรรยากาศในบ้านให้ดูอบอุ่นและหรูหรา
รูปแบบของตู้ไม้ ค้นหาสไตล์ที่ตรงใจและเหมาะสมกับบ้านของคุณ
ตู้ไม้เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เพียงแต่ใช้งานได้หลากหลาย แต่ยังช่วยเพิ่มความสวยงามและความอบอุ่นให้กับบ้านได้อีกด้วย รูปแบบของ ตู้ไม้ มีหลากหลายประเภทและสไตล์ที่เหมาะสมกับการใช้งานและการตกแต่งในบ้าน ดังนั้นการเลือกตู้ไม้ที่เหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างดี[2]
1. ตู้ไม้แบบคลาสสิก
ลักษณะ: ตู้ไม้ในรูปแบบคลาสสิกมักมีดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่สง่างาม ด้วยการเลือกใช้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้โอ๊ค หรือไม้สน
เหมาะสำหรับ: บ้านที่ตกแต่งสไตล์วินเทจหรือคลาสสิก
คุณสมบัติ: ทนทานและมีความหรูหราที่ไม่ตกยุค สามารถใช้ได้ทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอน
2. ตู้ไม้สไตล์โมเดิร์น
ลักษณะ: ตู้ไม้สไตล์โมเดิร์นมักมีดีไซน์ที่เรียบง่ายและสะอาดตา ด้วยการใช้เส้นสายตรงและสีไม้ที่ดูสะอาดตา
เหมาะสำหรับ: บ้านที่ตกแต่งในสไตล์มินิมอลหรือทันสมัย
คุณสมบัติ: มีลักษณะเปิดโล่ง หรือออกแบบให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่ง่ายและสะดวก เช่น ตู้ที่มีลิ้นชักหลายชั้นหรือชั้นวางของแบบเปิด
3. ตู้ไม้สไตล์วินเทจ
ลักษณะ: ตู้ไม้สไตล์วินเทจมักมีลวดลายและรายละเอียดที่ซับซ้อน เช่น การฉลุลายไม้ หรือการใช้สีไม้อ่อนผสมกับสีขาวเพื่อให้ดูคลาสสิก
เหมาะสำหรับ: บ้านที่ตกแต่งในสไตล์วินเทจ หรือรีโนเวทบ้านเก่าให้ดูมีเสน่ห์
คุณสมบัติ: มีความเก่าแก่และเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ตู้ประเภทนี้มักจะใช้สำหรับเก็บของสะสมหรือเป็นตู้โชว์
4. ตู้ไม้สไตล์คันทรี
ลักษณะ: ตู้ไม้สไตล์คันทรีมีลักษณะที่ดูเรียบง่ายและใกล้ชิดธรรมชาติ มักใช้ไม้ที่ไม่ผ่านการตกแต่งมาก เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติและอบอุ่น
เหมาะสำหรับ: บ้านในสไตล์คันทรี หรือบ้านที่ต้องการสร้างบรรยากาศอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ
คุณสมบัติ: โครงสร้างไม่ซับซ้อน ตู้ประเภทนี้มักมีความทนทานและใช้งานได้ดีในทุกพื้นที่ของบ้าน
5. ตู้ไม้สไตล์อินดัสเทรียล
ลักษณะ: ตู้ไม้สไตล์อินดัสเทรียลผสมผสานไม้กับวัสดุอื่น ๆ เช่น เหล็ก หรือโลหะ เพื่อให้มีลักษณะดิบ ๆ และทันสมัย
เหมาะสำหรับ: บ้านที่ตกแต่งในสไตล์อินดัสเทรียลหรือสไตล์ลอฟท์
คุณสมบัติ: ใช้งานได้ทนทานและให้ความรู้สึกดิบเท่ มีทั้งแบบเปิดโล่งหรือมีตู้เก็บของในตัว
6. ตู้ไม้สไตล์เอเชีย
ลักษณะ: ตู้ไม้ในสไตล์เอเชียมักมีลวดลายที่ละเอียดและมีความประณีต เช่น ลวดลายบนบานประตูหรือขาไม้ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน
เหมาะสำหรับ: บ้านที่มีการตกแต่งในสไตล์เอเชีย เช่น สไตล์จีน ญี่ปุ่น หรือไทย
คุณสมบัติ: ตู้ไม้ในสไตล์นี้มักมีความสงบและอบอุ่น ช่วยเสริมบรรยากาศภายในบ้านให้ดูมีเอกลักษณ์
7. ตู้ไม้แบบมัลติฟังก์ชัน
ลักษณะ: ตู้ไม้แบบมัลติฟังก์ชันมักออกแบบมาเพื่อประหยัดพื้นที่และเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เช่น ตู้ที่มีทั้งชั้นวางของ ลิ้นชัก และที่แขวนเสื้อในตัวเดียว
เหมาะสำหรับ: บ้านที่มีพื้นที่จำกัด หรือคนที่ต้องการความสะดวกในการใช้งาน
คุณสมบัติ: เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน โดยเฉพาะในห้องที่ต้องการการจัดระเบียบสูง เช่น ห้องนอนหรือห้องทำงาน
การเลือกตู้ไม้ที่เหมาะสมกับบ้านของคุณ
การเลือก ตู้ไม้ ที่เหมาะสมกับบ้านของคุณขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สไตล์ของบ้าน ขนาดพื้นที่ และฟังก์ชันการใช้งาน ควรพิจารณาการตกแต่งที่บ้านมีอยู่แล้ว รวมไปถึงความต้องการในการเก็บของและความทนทานที่คุณต้องการจากตู้ไม้
การเลือกตู้ไม้ที่มีสไตล์ที่เข้ากันกับการตกแต่งบ้านจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและความสวยงามภายในบ้านได้อย่างลงตัว
ไม่ว่าคุณจะเลือกตู้ไม้สไตล์ไหน ตู้ไม้ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานและช่วยเสริมความสวยงามให้กับบ้านได้อย่างยาวนาน การเลือก ตู้ไม้ ที่เหมาะสมกับความต้องการและสไตล์บ้านของคุณจะทำให้บ้านของคุณดูมีชีวิตชีวาและเป็นระเบียบ[2]
คู่มือเลือกตู้ไม้ให้เหมาะกับการใช้งานและพื้นที่ในบ้าน
ตู้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีบทบาทสำคัญในทุกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เก็บเสื้อผ้า ของใช้ หรือของตกแต่ง การเลือก ตู้ไม้ ให้เหมาะสมไม่เพียงช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บ แต่ยังช่วยเสริมความสวยงามให้บ้านอีกด้วย บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีการเลือกตู้ไม้ที่ตอบโจทย์การใช้งานและพื้นที่ในบ้านของคุณ
1. เลือกตู้ให้เหมาะกับประเภทการใช้งาน
การใช้งานของตู้จะแตกต่างกันไปตามประเภท นี่คือคำแนะนำในการเลือกตู้แต่ละแบบ:
ตู้เสื้อผ้า
เลือกตู้ที่มีขนาดใหญ่พอสำหรับเก็บเสื้อผ้าทั้งหมด และมีฟังก์ชันเสริม เช่น ราวแขวน ช่องเก็บของ และลิ้นชักบ้านที่มีพื้นที่จำกัด: เลือกตู้ไม้บานเลื่อนเพื่อลดการใช้พื้นที่
บ้านที่มีพื้นที่กว้าง: ตู้บานเปิดแบบคลาสสิกช่วยเพิ่มความหรูหรา
ตู้เก็บของ
ใช้สำหรับจัดเก็บของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น หนังสือ อุปกรณ์ทำความสะอาด หรือของเล่นเด็กควรเลือกตู้ที่มีชั้นปรับระดับได้เพื่อรองรับสิ่งของขนาดต่าง ๆ
เลือกดีไซน์ที่เข้ากับห้อง เช่น ตู้ไม้ทรงสูงสำหรับห้องแคบ หรือทรงเตี้ยสำหรับห้องที่ต้องการความโปร่ง
ตู้โชว์
ใช้สำหรับจัดแสดงของสะสมหรือของตกแต่งบ้านเลือกตู้ที่มีบานกระจกใสเพื่อแสดงสิ่งของภายใน
ดีไซน์ตู้ควรเข้ากับเฟอร์นิเจอร์อื่นในบ้าน เช่น ตู้ไม้สไตล์วินเทจ หรือสไตล์โมเดิร์น
2. วัดพื้นที่ก่อนเลือกตู้
การวัดพื้นที่เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณเลือกตู้ที่พอดีกับพื้นที่:
ความกว้าง ความลึก และความสูง: ตรวจสอบขนาดตู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่จะวาง
พื้นที่เปิดบานประตู: หากเป็นตู้บานเปิด ควรเผื่อพื้นที่สำหรับการเปิดบานประตู
ระยะทางเดิน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตู้ไม่เกะกะทางเดินหรือทำให้พื้นที่ดูอึดอัด
3. พิจารณาวัสดุของตู้ไม้
วัสดุของตู้ไม้มีผลต่อความทนทานและรูปลักษณ์:
ไม้เนื้อแข็ง: เช่น ไม้สัก ไม้โอ๊ค ทนทานและสวยงาม แต่ราคาสูง
ไม้เนื้ออ่อน: เช่น ไม้สน มีน้ำหนักเบา ราคาย่อมเยา แต่ต้องดูแลเพิ่ม
ไม้ MDF หรือไม้ปาติเคิลบอร์ด: ราคาประหยัด มีดีไซน์หลากหลาย แต่ไม่ทนทานเท่าไม้แท้
4. ดีไซน์และสีสันที่เข้ากับบ้าน
เลือกตู้ที่มีดีไซน์และสีสันสอดคล้องกับสไตล์บ้าน เช่น สีไม้ธรรมชาติสำหรับบ้านสไตล์ญี่ปุ่น หรือสีขาวล้วนสำหรับบ้านโมเดิร์น
พิจารณาเรื่องการเคลือบผิวไม้ เพื่อให้ดูสวยงามและทนทานต่อรอยขีดข่วน
5. ความสำคัญของฟังก์ชันเสริม
ตู้ที่มีลิ้นชักหรือชั้นปรับระดับได้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
ตู้ที่มีระบบล็อกเหมาะสำหรับการเก็บของมีค่า
การเลือกตู้ที่มีการเคลือบน้ำยาป้องกันปลวกหรือความชื้นช่วยยืดอายุการใช้งาน
6. เลือกตู้ไม้ที่ผลิตจากแหล่งที่ยั่งยืน
การเลือกตู้ไม้ที่ผลิตจากไม้ปลูกทดแทนหรือไม้รีไซเคิลช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ตู้ไม้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้หลากหลาย การเลือกตู้ไม้ที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงการใช้งาน พื้นที่ ขนาด และวัสดุ การเลือกอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณได้ตู้ที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่การใช้งานและความสวยงาม
ตู้ไม้ vs ตู้วัสดุอื่น ๆ: ข้อดีและข้อเสียที่ควรรู้
เมื่อต้องการเลือก ตู้ สำหรับบ้าน หลายคนมักสงสัยว่า ตู้ไม้ หรือ ตู้วัสดุอื่น ๆ แบบไหนที่ตอบโจทย์การใช้งานและความต้องการมากที่สุด การพิจารณาข้อดีข้อเสียของวัสดุต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ข้อดีและข้อเสียของตู้ไม้
ข้อดี
ความสวยงามตามธรรมชาติ
ลวดลายและโทนสีของไม้ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและหรูหราให้กับบ้าน
สามารถปรับเข้ากับสไตล์การตกแต่งได้หลากหลาย เช่น วินเทจ คลาสสิก หรือมินิมอล
ความแข็งแรงและทนทาน
ตู้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สักหรือไม้โอ๊ค มีอายุการใช้งานยาวนาน
รองรับน้ำหนักของสิ่งของได้ดี
ซ่อมแซมได้ง่าย
หากเกิดรอยขีดข่วนหรือความเสียหาย สามารถขัดไม้และทาเคลือบใหม่ได้
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หากเลือกใช้ไม้จากแหล่งที่ยั่งยืนหรือไม้รีไซเคิล จะช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติ
ข้อเสีย
ราคาแพง
ไม้เนื้อแข็งมักมีราคาสูงกว่าวัสดุอื่น ๆ
ต้องการการดูแลรักษา
ต้องระวังปลวก ความชื้น และแสงแดด ซึ่งอาจทำให้ไม้บิดหรือแตกร้าว
น้ำหนักมาก
การเคลื่อนย้ายตู้ไม้มักลำบาก เนื่องจากมีน้ำหนักมาก
ข้อดีและข้อเสียของตู้วัสดุอื่น ๆ
ตู้โลหะ
ข้อดี:
ทนทานต่อความชื้นและปลวก
รองรับน้ำหนักมากได้ดี
เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่อุตสาหกรรมหรือสำนักงาน
ข้อเสีย:
ดีไซน์อาจดูแข็งและไม่อบอุ่น
มีโอกาสเกิดสนิม หากไม่ได้เคลือบป้องกัน
ตู้พลาสติก
ข้อดี:
น้ำหนักเบาและเคลื่อนย้ายง่าย
ราคาประหยัด
ไม่ต้องกังวลเรื่องปลวกหรือความชื้น
ข้อเสีย:
ไม่ทนทานเท่ากับตู้ไม้หรือโลหะ
อาจดูไม่หรูหราเมื่อใช้ในบ้าน
ตู้กระจกหรืออะคริลิก
ข้อดี:
มีความโปร่งใส เหมาะสำหรับตู้โชว์
ทำความสะอาดง่าย
ข้อเสีย:
เปราะบางและแตกหักง่าย
รองรับน้ำหนักได้น้อย
ตู้ไม้ MDF หรือปาติเคิลบอร์ด
ข้อดี:
ราคาย่อมเยา
มีลวดลายและสีสันหลากหลาย
ข้อเสีย:
ไม่ทนทานต่อความชื้น
อายุการใช้งานสั้นเมื่อเทียบกับไม้จริง
คำแนะนำในการเลือกตู้ที่เหมาะสม
พิจารณาจุดประสงค์การใช้งาน
หากต้องการความสวยงามและความทนทาน ตู้ไม้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
หากต้องการตู้สำหรับใช้งานชั่วคราว ตู้พลาสติกหรือ MDF อาจเป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่า
ดูพื้นที่ติดตั้ง
ตู้ไม้เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการความอบอุ่นและสไตล์คลาสสิก
ตู้โลหะเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรง เช่น โรงรถหรือคลังสินค้า
งบประมาณที่มี
หากงบประมาณจำกัด ตู้ MDF หรือพลาสติกอาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า
การเลือก ตู้ ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับการใช้งาน งบประมาณ และสไตล์บ้าน หากคุณมองหาความสวยงามและความทนทานในระยะยาว ตู้ไม้ คือตัวเลือกที่คุ้มค่า แต่หากต้องการฟังก์ชันเฉพาะ ตู้วัสดุอื่น ๆ ก็มีข้อดีที่น่าสนใจ
เปรียบเทียบตู้ไม้กับวัสดุอื่น ๆ ในแต่ละด้าน
การเพิ่มมูลค่าของตู้ไม้
ขึ้นอยู่กับการคัดเลือกวัสดุ การออกแบบ ซึ่งอุตสาหกรรมไทยมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง โดยจุดเริ่มต้นการผลิตในครัวเรือนที่ผลิตเพื่อใช้จำหน่ายภายในประเทศเป็นหลัก ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างการผลิต เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้ประดู่ ไม้มะค่า มาใช้ไม้ยางพารา ไม้อัด ไม้ลามิเนต และวัสดุอื่นๆมาทดแทน อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนวิธีการผลิต จากการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้สำเร็จรูป มาเป็นการผลิตตู้ไม้ชนิดแบบถอดประกอบได้ แบบลอยตัว และแบบบิลท์อิน เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าจากงานไม้ สำหรับอายุการใช้งานและราคาขึ้นอยู่กับวัสดุแต่ล่ะชนิดที่นำมาใช้ โดยให้ผู้บริโภคจากน้อยไปหามากได้ทั่วถึง [2]
จากบทความข้างต้นที่กล่าวมาเกี่ยวกับตู้ไม้ ตู้ไม้เป็นส่วนหนึ่งที่มีประโยชน์มากในการเก็บสิ่งของต่างๆให้เรียบร้อยและยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านพักอาศัย จุดเด่นของตู้ไม้ช่วยตกแต่งบ้าน ให้ความรู้สึกอบอุ่น ดูสบายตา ทันสมัย ทนต่อการใช้งาน คงสภาพสมบูรณ์แข็งแรง สำหรับไม้จริงที่เลือกใช้งานถ้าหากเป็นไม้เก่าจะได้ไม้ที่มีความแห้ง ความแข็งแรงทนทาน ไม่โก่งงอ ทนต่อความชื้น เนื่องจากมีอายุที่ยาวนาน ถ้าหากเป็นไม้ใหม่ต้องผ่านกระบวนการอบแห้งที่ถูกต้อง ถึงจะสามารถนำไม้มาใช้งานได้ ถ้าหากเป็นวัสดุอื่นๆก็ต้องได้ไม้ที่มีคุณสมบัติสอดคล้องในการใช้งานจริง
สำหรับท่านใดที่กำลังต้องการไม้เก่าคุณภาพดีมาใช้ในการทำตู้ หรืองานประดิษฐ์สามารถเลือกซื้อสินค้าจากทางร้าน TWOMENWOOD ทางเรามีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำไม้ที่เหมาะสมกับคุณ มีสินค้าให้คุณเลือกได้หลายเกรดราคาเป็นกันเอง สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี
หมายเหตุ ร้านเราจะขายไม้เก่าไทย เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็ง สามารถตรวจเช็คราคาได้ทางข้างล่าง