Your Cart

ตู้ไม้ เครื่องเรือนสำหรับเก็บหรือใส่สิ่งของ

ตู้ไม้
https://inwfile.com/s-co/ydcpmy.jpg

ตู้เป็นสิ่งของที่มีการออกแบบมาเพื่อสำหรับจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ว่าจะเก็บเสื้อผ้า ผ้าห่ม ผ้านวม ผ้าขนหนู เครื่องประดับตกแต่งร่างกายหรือทั่วไป อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆอีกมากมาย ดังนั้นตู้ไม่ใช่เพียงแค่ความสวยงามอย่างเดียวแต่มีความเป็นอเนกประสงค์สามารถใช้งานได้หลายอย่างในการจัดเก็บจัดว่าง เมื่อของทุกอย่างถูดจัดไว้เป็นที่เป็นทางก็ทำให้บ้านดูกลมกลืนหน้าอยู่ และสามารถดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่าย ยังช่วยในการป้องกันสิ่งของจากฝุ่นละเอียง ความชื้น และป้องกันการสูญหายได้อย่างดี ตู้จึงเป็นส่วนหนึ่งของที่พักอาศัยที่ทุกบ้านต้องมีเพื่อช่วยเสริมประโยชน์ในการใช้สอย ทางเราได้นำบทความตู้ไม้มาให้กับทุกคนได้ศึกษากันต่อจากนี้

ตู้ไม้

เครื่องเรือนสำหรับเก็บหรือใส่สิ่งของ มีรูปทรงสี่เหลี่ยม มีฝาด้านข้าง ด้านหลัง และด้านบน ด้านล่างมีพื้น ส่วนทางด้านหน้ามีบานปิดเปิดได้ ข้อมูลความหมายจากพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ได้กำหนดไว้นั้นเอง [1]

ตู้ไม้ เฟอร์นิเจอร์คลาสสิกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

ในโลกของการตกแต่งบ้าน ตู้ไม้ ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่ไม่มีวันล้าสมัย ด้วยความสวยงามตามธรรมชาติและความทนทาน ตู้ไม้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย และเข้ากับบ้านในทุกสไตล์

ทำไมต้องเลือกตู้ไม้?

  1. ความสวยงามจากธรรมชาติ

    • ตู้ไม้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยลายไม้ธรรมชาติ

    • สามารถปรับให้เข้ากับสไตล์บ้าน เช่น วินเทจ คลาสสิก หรือโมเดิร์น

  2. ความแข็งแรงและทนทาน

    • ตู้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้โอ๊ค หรือไม้สน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

    • ทนต่อการใช้งานหนัก เหมาะสำหรับเก็บของที่มีน้ำหนัก

  3. สร้างบรรยากาศอบอุ่นในบ้าน

    • สีและพื้นผิวของไม้ช่วยให้บ้านดูอบอุ่นและน่าอยู่

  4. ความยืดหยุ่นในการใช้งาน

    • ตู้ไม้สามารถออกแบบและปรับแต่งได้ตามต้องการ

    • เหมาะสำหรับใช้งานในทุกพื้นที่ เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องครัว

ประเภทของตู้ไม้

  1. ตู้เสื้อผ้าไม้

    • เหมาะสำหรับเก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว

    • มีทั้งแบบบานเปิด บานเลื่อน หรือแบบเปิดโล่ง

  2. ตู้เก็บของอเนกประสงค์

    • ใช้งานได้หลากหลาย เช่น เก็บหนังสือ เอกสาร หรือของใช้ในบ้าน

    • มักออกแบบให้มีชั้นวางและลิ้นชักเพื่อความสะดวก

  3. ตู้โชว์ไม้

    • ใช้สำหรับจัดแสดงของตกแต่ง เช่น เครื่องปั้นดินเผา หรือของสะสม

    • ดีไซน์เปิดโปร่ง ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับของตกแต่ง

  4. ตู้ครัวไม้

    • ใช้เก็บจานชามและเครื่องครัว

    • เพิ่มความอบอุ่นให้กับห้องครัว

ข้อดีของตู้ไม้

  • วัสดุธรรมชาติ
    ตู้ไม้ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติและปลอดภัยต่อสุขภาพ

  • ซ่อมแซมง่าย
    หากเกิดรอยขีดข่วน สามารถขัดและเคลือบใหม่ได้

  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
    ตู้ไม้ที่มาจากแหล่งปลูกทดแทนช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติ

ข้อควรระวังในการเลือกตู้ไม้

  1. การดูแลรักษา

    • ควรหลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดดโดยตรง

    • ใช้น้ำยากันปลวกเพื่อป้องกันความเสียหาย

  2. น้ำหนัก

    • ตู้ไม้มีน้ำหนักมาก อาจยากต่อการเคลื่อนย้าย

  3. ราคา

    • ตู้ไม้เนื้อแข็งมักมีราคาสูงกว่าวัสดุอื่น แต่คุ้มค่ากับความทนทาน

การเลือกตู้ไม้ที่เหมาะสม

  1. พิจารณาขนาดและพื้นที่

    • เลือกตู้ที่พอดีกับพื้นที่ในบ้าน ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป

  2. เลือกประเภทไม้ที่เหมาะสม

    • ไม้เนื้อแข็งสำหรับการใช้งานที่ต้องการความทนทาน

    • ไม้เนื้ออ่อนสำหรับตู้ตกแต่งที่ไม่ได้ใช้งานหนัก

  3. ตรวจสอบงานฝีมือ

    • ตู้ไม้คุณภาพดีมักมีการประกอบและเคลือบผิวอย่างเรียบร้อย

ตู้ไม้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีความคลาสสิกและใช้งานได้หลากหลาย ไม่เพียงเพิ่มพื้นที่เก็บของ แต่ยังช่วยเสริมบรรยากาศในบ้านให้ดูอบอุ่นและหรูหรา

แบบตู้ไม้
https://www.naibann.com/wp-content/uploads/2017/07/ytiyti.jpg

รูปแบบของตู้ไม้ ค้นหาสไตล์ที่ตรงใจและเหมาะสมกับบ้านของคุณ

ตู้ไม้เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่เพียงแต่ใช้งานได้หลากหลาย แต่ยังช่วยเพิ่มความสวยงามและความอบอุ่นให้กับบ้านได้อีกด้วย รูปแบบของ ตู้ไม้ มีหลากหลายประเภทและสไตล์ที่เหมาะสมกับการใช้งานและการตกแต่งในบ้าน ดังนั้นการเลือกตู้ไม้ที่เหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างดี[2]

1. ตู้ไม้แบบคลาสสิก

  • ลักษณะ: ตู้ไม้ในรูปแบบคลาสสิกมักมีดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่สง่างาม ด้วยการเลือกใช้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้โอ๊ค หรือไม้สน

  • เหมาะสำหรับ: บ้านที่ตกแต่งสไตล์วินเทจหรือคลาสสิก

  • คุณสมบัติ: ทนทานและมีความหรูหราที่ไม่ตกยุค สามารถใช้ได้ทั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอน

2. ตู้ไม้สไตล์โมเดิร์น

  • ลักษณะ: ตู้ไม้สไตล์โมเดิร์นมักมีดีไซน์ที่เรียบง่ายและสะอาดตา ด้วยการใช้เส้นสายตรงและสีไม้ที่ดูสะอาดตา

  • เหมาะสำหรับ: บ้านที่ตกแต่งในสไตล์มินิมอลหรือทันสมัย

  • คุณสมบัติ: มีลักษณะเปิดโล่ง หรือออกแบบให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่ง่ายและสะดวก เช่น ตู้ที่มีลิ้นชักหลายชั้นหรือชั้นวางของแบบเปิด

3. ตู้ไม้สไตล์วินเทจ

  • ลักษณะ: ตู้ไม้สไตล์วินเทจมักมีลวดลายและรายละเอียดที่ซับซ้อน เช่น การฉลุลายไม้ หรือการใช้สีไม้อ่อนผสมกับสีขาวเพื่อให้ดูคลาสสิก

  • เหมาะสำหรับ: บ้านที่ตกแต่งในสไตล์วินเทจ หรือรีโนเวทบ้านเก่าให้ดูมีเสน่ห์

  • คุณสมบัติ: มีความเก่าแก่และเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ตู้ประเภทนี้มักจะใช้สำหรับเก็บของสะสมหรือเป็นตู้โชว์

4. ตู้ไม้สไตล์คันทรี

  • ลักษณะ: ตู้ไม้สไตล์คันทรีมีลักษณะที่ดูเรียบง่ายและใกล้ชิดธรรมชาติ มักใช้ไม้ที่ไม่ผ่านการตกแต่งมาก เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติและอบอุ่น

  • เหมาะสำหรับ: บ้านในสไตล์คันทรี หรือบ้านที่ต้องการสร้างบรรยากาศอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ

  • คุณสมบัติ: โครงสร้างไม่ซับซ้อน ตู้ประเภทนี้มักมีความทนทานและใช้งานได้ดีในทุกพื้นที่ของบ้าน

5. ตู้ไม้สไตล์อินดัสเทรียล

  • ลักษณะ: ตู้ไม้สไตล์อินดัสเทรียลผสมผสานไม้กับวัสดุอื่น ๆ เช่น เหล็ก หรือโลหะ เพื่อให้มีลักษณะดิบ ๆ และทันสมัย

  • เหมาะสำหรับ: บ้านที่ตกแต่งในสไตล์อินดัสเทรียลหรือสไตล์ลอฟท์

  • คุณสมบัติ: ใช้งานได้ทนทานและให้ความรู้สึกดิบเท่ มีทั้งแบบเปิดโล่งหรือมีตู้เก็บของในตัว

6. ตู้ไม้สไตล์เอเชีย

  • ลักษณะ: ตู้ไม้ในสไตล์เอเชียมักมีลวดลายที่ละเอียดและมีความประณีต เช่น ลวดลายบนบานประตูหรือขาไม้ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน

  • เหมาะสำหรับ: บ้านที่มีการตกแต่งในสไตล์เอเชีย เช่น สไตล์จีน ญี่ปุ่น หรือไทย

  • คุณสมบัติ: ตู้ไม้ในสไตล์นี้มักมีความสงบและอบอุ่น ช่วยเสริมบรรยากาศภายในบ้านให้ดูมีเอกลักษณ์

7. ตู้ไม้แบบมัลติฟังก์ชัน

  • ลักษณะ: ตู้ไม้แบบมัลติฟังก์ชันมักออกแบบมาเพื่อประหยัดพื้นที่และเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เช่น ตู้ที่มีทั้งชั้นวางของ ลิ้นชัก และที่แขวนเสื้อในตัวเดียว

  • เหมาะสำหรับ: บ้านที่มีพื้นที่จำกัด หรือคนที่ต้องการความสะดวกในการใช้งาน

  • คุณสมบัติ: เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน โดยเฉพาะในห้องที่ต้องการการจัดระเบียบสูง เช่น ห้องนอนหรือห้องทำงาน

การเลือกตู้ไม้ที่เหมาะสมกับบ้านของคุณ

การเลือก ตู้ไม้ ที่เหมาะสมกับบ้านของคุณขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สไตล์ของบ้าน ขนาดพื้นที่ และฟังก์ชันการใช้งาน ควรพิจารณาการตกแต่งที่บ้านมีอยู่แล้ว รวมไปถึงความต้องการในการเก็บของและความทนทานที่คุณต้องการจากตู้ไม้

การเลือกตู้ไม้ที่มีสไตล์ที่เข้ากันกับการตกแต่งบ้านจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและความสวยงามภายในบ้านได้อย่างลงตัว

ไม่ว่าคุณจะเลือกตู้ไม้สไตล์ไหน ตู้ไม้ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานและช่วยเสริมความสวยงามให้กับบ้านได้อย่างยาวนาน การเลือก ตู้ไม้ ที่เหมาะสมกับความต้องการและสไตล์บ้านของคุณจะทำให้บ้านของคุณดูมีชีวิตชีวาและเป็นระเบียบ[2]

https://www.furnitmall.com/wp-content/uploads/2018/09/zodj7d.jpg

คู่มือเลือกตู้ไม้ให้เหมาะกับการใช้งานและพื้นที่ในบ้าน

ตู้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีบทบาทสำคัญในทุกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เก็บเสื้อผ้า ของใช้ หรือของตกแต่ง การเลือก ตู้ไม้ ให้เหมาะสมไม่เพียงช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บ แต่ยังช่วยเสริมความสวยงามให้บ้านอีกด้วย บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีการเลือกตู้ไม้ที่ตอบโจทย์การใช้งานและพื้นที่ในบ้านของคุณ

1. เลือกตู้ให้เหมาะกับประเภทการใช้งาน

การใช้งานของตู้จะแตกต่างกันไปตามประเภท นี่คือคำแนะนำในการเลือกตู้แต่ละแบบ:

  • ตู้เสื้อผ้า
    เลือกตู้ที่มีขนาดใหญ่พอสำหรับเก็บเสื้อผ้าทั้งหมด และมีฟังก์ชันเสริม เช่น ราวแขวน ช่องเก็บของ และลิ้นชัก

    • บ้านที่มีพื้นที่จำกัด: เลือกตู้ไม้บานเลื่อนเพื่อลดการใช้พื้นที่

    • บ้านที่มีพื้นที่กว้าง: ตู้บานเปิดแบบคลาสสิกช่วยเพิ่มความหรูหรา

  • ตู้เก็บของ
    ใช้สำหรับจัดเก็บของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น หนังสือ อุปกรณ์ทำความสะอาด หรือของเล่นเด็ก

    • ควรเลือกตู้ที่มีชั้นปรับระดับได้เพื่อรองรับสิ่งของขนาดต่าง ๆ

    • เลือกดีไซน์ที่เข้ากับห้อง เช่น ตู้ไม้ทรงสูงสำหรับห้องแคบ หรือทรงเตี้ยสำหรับห้องที่ต้องการความโปร่ง

  • ตู้โชว์
    ใช้สำหรับจัดแสดงของสะสมหรือของตกแต่งบ้าน

    • เลือกตู้ที่มีบานกระจกใสเพื่อแสดงสิ่งของภายใน

    • ดีไซน์ตู้ควรเข้ากับเฟอร์นิเจอร์อื่นในบ้าน เช่น ตู้ไม้สไตล์วินเทจ หรือสไตล์โมเดิร์น

2. วัดพื้นที่ก่อนเลือกตู้

การวัดพื้นที่เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณเลือกตู้ที่พอดีกับพื้นที่:

  • ความกว้าง ความลึก และความสูง: ตรวจสอบขนาดตู้ที่เหมาะสมกับตำแหน่งที่จะวาง

  • พื้นที่เปิดบานประตู: หากเป็นตู้บานเปิด ควรเผื่อพื้นที่สำหรับการเปิดบานประตู

  • ระยะทางเดิน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตู้ไม่เกะกะทางเดินหรือทำให้พื้นที่ดูอึดอัด

3. พิจารณาวัสดุของตู้ไม้

วัสดุของตู้ไม้มีผลต่อความทนทานและรูปลักษณ์:

  • ไม้เนื้อแข็ง: เช่น ไม้สัก ไม้โอ๊ค ทนทานและสวยงาม แต่ราคาสูง

  • ไม้เนื้ออ่อน: เช่น ไม้สน มีน้ำหนักเบา ราคาย่อมเยา แต่ต้องดูแลเพิ่ม

  • ไม้ MDF หรือไม้ปาติเคิลบอร์ด: ราคาประหยัด มีดีไซน์หลากหลาย แต่ไม่ทนทานเท่าไม้แท้

4. ดีไซน์และสีสันที่เข้ากับบ้าน

  • เลือกตู้ที่มีดีไซน์และสีสันสอดคล้องกับสไตล์บ้าน เช่น สีไม้ธรรมชาติสำหรับบ้านสไตล์ญี่ปุ่น หรือสีขาวล้วนสำหรับบ้านโมเดิร์น

  • พิจารณาเรื่องการเคลือบผิวไม้ เพื่อให้ดูสวยงามและทนทานต่อรอยขีดข่วน

5. ความสำคัญของฟังก์ชันเสริม

  • ตู้ที่มีลิ้นชักหรือชั้นปรับระดับได้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน

  • ตู้ที่มีระบบล็อกเหมาะสำหรับการเก็บของมีค่า

  • การเลือกตู้ที่มีการเคลือบน้ำยาป้องกันปลวกหรือความชื้นช่วยยืดอายุการใช้งาน

6. เลือกตู้ไม้ที่ผลิตจากแหล่งที่ยั่งยืน

  • การเลือกตู้ไม้ที่ผลิตจากไม้ปลูกทดแทนหรือไม้รีไซเคิลช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ตู้ไม้ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้หลากหลาย การเลือกตู้ไม้ที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงการใช้งาน พื้นที่ ขนาด และวัสดุ การเลือกอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณได้ตู้ที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่การใช้งานและความสวยงาม

https://nocnoc.com/blog/wp-content/uploads/2022/11/Cover-wardrob-bg-1200X628.jpg

ตู้ไม้ vs ตู้วัสดุอื่น ๆ: ข้อดีและข้อเสียที่ควรรู้

เมื่อต้องการเลือก ตู้ สำหรับบ้าน หลายคนมักสงสัยว่า ตู้ไม้ หรือ ตู้วัสดุอื่น ๆ แบบไหนที่ตอบโจทย์การใช้งานและความต้องการมากที่สุด การพิจารณาข้อดีข้อเสียของวัสดุต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ข้อดีและข้อเสียของตู้ไม้

ข้อดี

  1. ความสวยงามตามธรรมชาติ

    • ลวดลายและโทนสีของไม้ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและหรูหราให้กับบ้าน

    • สามารถปรับเข้ากับสไตล์การตกแต่งได้หลากหลาย เช่น วินเทจ คลาสสิก หรือมินิมอล

  2. ความแข็งแรงและทนทาน

    • ตู้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สักหรือไม้โอ๊ค มีอายุการใช้งานยาวนาน

    • รองรับน้ำหนักของสิ่งของได้ดี

  3. ซ่อมแซมได้ง่าย

    • หากเกิดรอยขีดข่วนหรือความเสียหาย สามารถขัดไม้และทาเคลือบใหม่ได้

  4. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    • หากเลือกใช้ไม้จากแหล่งที่ยั่งยืนหรือไม้รีไซเคิล จะช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติ

ข้อเสีย

  1. ราคาแพง

    • ไม้เนื้อแข็งมักมีราคาสูงกว่าวัสดุอื่น ๆ

  2. ต้องการการดูแลรักษา

    • ต้องระวังปลวก ความชื้น และแสงแดด ซึ่งอาจทำให้ไม้บิดหรือแตกร้าว

  3. น้ำหนักมาก

    • การเคลื่อนย้ายตู้ไม้มักลำบาก เนื่องจากมีน้ำหนักมาก

ข้อดีและข้อเสียของตู้วัสดุอื่น ๆ

ตู้โลหะ

ข้อดี:

  • ทนทานต่อความชื้นและปลวก

  • รองรับน้ำหนักมากได้ดี

  • เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่อุตสาหกรรมหรือสำนักงาน

ข้อเสีย:

  • ดีไซน์อาจดูแข็งและไม่อบอุ่น

  • มีโอกาสเกิดสนิม หากไม่ได้เคลือบป้องกัน

ตู้พลาสติก

ข้อดี:

  • น้ำหนักเบาและเคลื่อนย้ายง่าย

  • ราคาประหยัด

  • ไม่ต้องกังวลเรื่องปลวกหรือความชื้น

ข้อเสีย:

  • ไม่ทนทานเท่ากับตู้ไม้หรือโลหะ

  • อาจดูไม่หรูหราเมื่อใช้ในบ้าน

ตู้กระจกหรืออะคริลิก

ข้อดี:

  • มีความโปร่งใส เหมาะสำหรับตู้โชว์

  • ทำความสะอาดง่าย

ข้อเสีย:

  • เปราะบางและแตกหักง่าย

  • รองรับน้ำหนักได้น้อย

ตู้ไม้ MDF หรือปาติเคิลบอร์ด

ข้อดี:

  • ราคาย่อมเยา

  • มีลวดลายและสีสันหลากหลาย

ข้อเสีย:

  • ไม่ทนทานต่อความชื้น

  • อายุการใช้งานสั้นเมื่อเทียบกับไม้จริง

คำแนะนำในการเลือกตู้ที่เหมาะสม

  1. พิจารณาจุดประสงค์การใช้งาน

    • หากต้องการความสวยงามและความทนทาน ตู้ไม้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

    • หากต้องการตู้สำหรับใช้งานชั่วคราว ตู้พลาสติกหรือ MDF อาจเป็นตัวเลือกที่ประหยัดกว่า

  2. ดูพื้นที่ติดตั้ง

    • ตู้ไม้เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการความอบอุ่นและสไตล์คลาสสิก

    • ตู้โลหะเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรง เช่น โรงรถหรือคลังสินค้า

  3. งบประมาณที่มี

    • หากงบประมาณจำกัด ตู้ MDF หรือพลาสติกอาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า

การเลือก ตู้ ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับการใช้งาน งบประมาณ และสไตล์บ้าน หากคุณมองหาความสวยงามและความทนทานในระยะยาว ตู้ไม้ คือตัวเลือกที่คุ้มค่า แต่หากต้องการฟังก์ชันเฉพาะ ตู้วัสดุอื่น ๆ ก็มีข้อดีที่น่าสนใจ

เปรียบเทียบตู้ไม้กับวัสดุอื่น ๆ ในแต่ละด้าน

ตู้ไม้

การเพิ่มมูลค่าของตู้ไม้

ขึ้นอยู่กับการคัดเลือกวัสดุ การออกแบบ ซึ่งอุตสาหกรรมไทยมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง โดยจุดเริ่มต้นการผลิตในครัวเรือนที่ผลิตเพื่อใช้จำหน่ายภายในประเทศเป็นหลัก ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างการผลิต เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้ประดู่ ไม้มะค่า มาใช้ไม้ยางพารา ไม้อัด ไม้ลามิเนต และวัสดุอื่นๆมาทดแทน อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนวิธีการผลิต จากการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้สำเร็จรูป มาเป็นการผลิตตู้ไม้ชนิดแบบถอดประกอบได้ แบบลอยตัว และแบบบิลท์อิน เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าจากงานไม้ สำหรับอายุการใช้งานและราคาขึ้นอยู่กับวัสดุแต่ล่ะชนิดที่นำมาใช้ โดยให้ผู้บริโภคจากน้อยไปหามากได้ทั่วถึง [2]

จากบทความข้างต้นที่กล่าวมาเกี่ยวกับตู้ไม้ ตู้ไม้เป็นส่วนหนึ่งที่มีประโยชน์มากในการเก็บสิ่งของต่างๆให้เรียบร้อยและยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านพักอาศัย จุดเด่นของตู้ไม้ช่วยตกแต่งบ้าน ให้ความรู้สึกอบอุ่น ดูสบายตา ทันสมัย ทนต่อการใช้งาน คงสภาพสมบูรณ์แข็งแรง สำหรับไม้จริงที่เลือกใช้งานถ้าหากเป็นไม้เก่าจะได้ไม้ที่มีความแห้ง ความแข็งแรงทนทาน ไม่โก่งงอ ทนต่อความชื้น เนื่องจากมีอายุที่ยาวนาน ถ้าหากเป็นไม้ใหม่ต้องผ่านกระบวนการอบแห้งที่ถูกต้อง ถึงจะสามารถนำไม้มาใช้งานได้ ถ้าหากเป็นวัสดุอื่นๆก็ต้องได้ไม้ที่มีคุณสมบัติสอดคล้องในการใช้งานจริง

สำหรับท่านใดที่กำลังต้องการไม้เก่าคุณภาพดีมาใช้ในการทำตู้ หรืองานประดิษฐ์สามารถเลือกซื้อสินค้าจากทางร้าน TWOMENWOOD ทางเรามีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำไม้ที่เหมาะสมกับคุณ มีสินค้าให้คุณเลือกได้หลายเกรดราคาเป็นกันเอง สำหรับท่านใดต้องการดูสินค้าด้วยตัวเอง เรามีหน้าร้านไม้เก่าอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี

หมายเหตุ ร้านเราจะขายไม้เก่าไทย เช่น ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็ง สามารถตรวจเช็คราคาได้ทางข้างล่าง

ตรวจสอบราคาสินค้า

อ้างอิง